ออกตัวแรงเอี๊ยดค่ะ ไม่ขอดราม่านะคะ ขอคำตอบแบบคุยกัน ดิฉันอยากทราบจริง ๆ ค่ะว่าครอบครัวที่หารายได้สุทธิได้เดือนละประมาณ 3- 3.5 แสน นี่เขามีบ้านราคาหลังละเท่าไหร่ เก็บสักเท่าไหร่ รถยนต์ใช้ยี่ห้ออะไร ลูกนี่ส่งเรียน รร แบบไหน (สาธิตแป๊ะเจี๊ย 7 หลัก , นานาชาติ , หรือแคทอลิค) ท่านใดจะพอกรุณาเทียบเคียงให้ฟังจากคนที่ท่านรู้จัก ดิฉันขอขอบคุณมากเลยค่ะ
***แก้ไขเพิ่มเติมค่ะ****
คืออย่างนี้นะคะ ดิฉันออมเงินในรูปเงินสด 10% ของรายได้ และทำประกันชีวิต 10% เช่นกันค่ะ และจะไปหนักค่าผ่อนอสังหา (บ้านเดี่ยว บ้านทาวเฮ้าส์ ที่ดินเปล่า คอนโดใจกลางเมือง ผ่อนอยู่ที่ 35% ของรายได้สุทธิ) ทำให้มีเงินใช้จ่ายประมาณในครัวเรือนที่ดิฉันจัดสรรไว้คือ 45% โดยคร่าว ๆ ค่ะ แต่ทำไมมาตั้งกระทู้
1.รู้สึกหันมองรอบข้างตัว ทำไมเราไม่กล้าไปเที่ยวต่างประเทศนะ? ทั้ง ๆ ที่จะไปก็น่าจะได้ แต่ตรงข้าม การใช้ชีวิตไปท่องเที่ยวเมืองนอกรู้สึกว่าฟุ่มเฟือยและไม่อยากทำ (แต่สามีอยากไปเพราะบอกว่า ฐานะเราควรไปได้แล้วเพื่อเปิดหูเปิดตา เก็บประสบการณ์ เก็บเกี่ยววิธีคิด)
2.ทำไมเราไม่กล้าส่งลูกเรียนนานาชาตินะ? ที่มีระบบการศึกษาไม่อัดวิชาการจนเด็กแทบจะไม่มีเวลา มีแต่ว่างเมื่อไหร่ต้องหาที่ติว ใจอยากหนีระบบการเรียนแบบไทย แต่ไม่กล้าพอจะเอาเรียนนานาชาติด้วยค่าเทอมปีละ 4-5 แสน กลัวว่าอนาคตไม่แน่นอน เผื่อมีอะไรพลาด แต่เวลาได้พูดคุยกับคนที่เรารู้จักบางคนรายได้ไม่เท่านี้เขายังเอาลูกเรียนอินเตอร์เลย เขาบอกอนาคตค่อยว่ากัน โอกาสมีต้องคว้าไว้แล้วสู้ไปเดี๋ยวได้เอง
3.ทำไมเราใช้เงินต้องมีแผนเป๊ะไปซะทุกอย่าง จัดทำบัญชีรับจ่ายรายเดือน ลงรายจ่ายจริงเทียบกับงบประมาณที่ตั้งไว้ว่าห้ามเกินนะ รู้สึกตัวเองตึง ยังไงไม่รู้ แต่นิสัยส่วนตัวเป็นคนมีระเบียบค่ะ ใช้เงินเกินงบไม่ได้ ทุกอย่างต้องอยู่ในแบบแผนที่วางไว้ อยากได้กระเป๋าแพง ๆ (แบรนด์เนมก็ต้องรอให้งบประมาณออกมาก่อน เป็นต้น) รู้สึกบางทีเครียดไปจัง อีกนั่นแหล่ะค่ะ พอมองรอบ ๆ ตัว คนอื่นเขาไม่เห็นจะตึงขนาดนี้เลย บางทีมันก็ความสุขของชีวิต ตัวเองเครียดไปไหม เป็นต้นค่ะ
เพิ่มเติมครั้งที่ 2 ค่ะ
ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงกับทุกความคิดเห็นนะคะ เนื่องจาก เจ้าของกระทู้มีภาระงานเยอะค่ะช่วงนี้ลูกสาวเปิดเทอมค่ะ บวกกับงานที่บริษัทด้วยค่ะ จึงไม่ได้เข้าไปเม้นท์ไล่ตอบทีละท่านนะคะ เลยขอมาแก้ไขข้อความเพื่อกล่าวคำขอบคุณกับทุก ๆ ความเห็น และขอแจ้งจากใจจริงค่ะว่า ดีใจและอ่านทุกความเห็นค่ะ ขอขอบพระคุณในควาหวังดีของทุกๆท่านค่ะที่ช่วยชี้แนะให้ การตั้งกระทู้ครั้งนี้ถือว่าผลตอบรับเป็นที่น่ายินดี ในเรื่องของการได้รู้ได้เห็น ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต ในการหาความมั่นคงให้กับชีวิต ขอขอบคุณจากใจจริง
และขอแจ้งว่าการตั้งกระทู้ครั้งนี้ ไม่ได้คิดว่าจะต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อลอกเลียน lifestyle ใครนะคะ ตั้งขึ้นมาเพื่อมองรอบตัวเองบ้างว่าคนอื่นเขาเป็นกันยังไง (บางท่านอาจจะบอกว่าไม่จำเป็น แต่สำหรับ จขกท คิดว่าจำเป็นค่ะ อย่างน้อย หากพบข้อจำกัด ข้อตึง หย่อนของตัวเอง เราควรแก้ไขปรับปรุงวิธีคิดของเราบ้าง) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมองแต่คนอื่นจนหมดความเป็นตัวเอง ตอนนี้อันดับแรกค่ะตั้งใจแก้ไขตัวเองเรื่องการหา passive income และเรื่องอื่น ๆ ก็ทยอยปรับปรุงนิดหน่อยค่ะ เรื่องสัดส่วนการเก็บเงิน สัดส่วนการท่องเที่ยวและบริหารชีวิต เรื่อง รร ลูก คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
จขกท
อยากทราบ lifestyle ของครอบครัวที่มีรายได้เดือนละประมาณ 3 แสนต่อเดือนค่ะ
***แก้ไขเพิ่มเติมค่ะ****
คืออย่างนี้นะคะ ดิฉันออมเงินในรูปเงินสด 10% ของรายได้ และทำประกันชีวิต 10% เช่นกันค่ะ และจะไปหนักค่าผ่อนอสังหา (บ้านเดี่ยว บ้านทาวเฮ้าส์ ที่ดินเปล่า คอนโดใจกลางเมือง ผ่อนอยู่ที่ 35% ของรายได้สุทธิ) ทำให้มีเงินใช้จ่ายประมาณในครัวเรือนที่ดิฉันจัดสรรไว้คือ 45% โดยคร่าว ๆ ค่ะ แต่ทำไมมาตั้งกระทู้
1.รู้สึกหันมองรอบข้างตัว ทำไมเราไม่กล้าไปเที่ยวต่างประเทศนะ? ทั้ง ๆ ที่จะไปก็น่าจะได้ แต่ตรงข้าม การใช้ชีวิตไปท่องเที่ยวเมืองนอกรู้สึกว่าฟุ่มเฟือยและไม่อยากทำ (แต่สามีอยากไปเพราะบอกว่า ฐานะเราควรไปได้แล้วเพื่อเปิดหูเปิดตา เก็บประสบการณ์ เก็บเกี่ยววิธีคิด)
2.ทำไมเราไม่กล้าส่งลูกเรียนนานาชาตินะ? ที่มีระบบการศึกษาไม่อัดวิชาการจนเด็กแทบจะไม่มีเวลา มีแต่ว่างเมื่อไหร่ต้องหาที่ติว ใจอยากหนีระบบการเรียนแบบไทย แต่ไม่กล้าพอจะเอาเรียนนานาชาติด้วยค่าเทอมปีละ 4-5 แสน กลัวว่าอนาคตไม่แน่นอน เผื่อมีอะไรพลาด แต่เวลาได้พูดคุยกับคนที่เรารู้จักบางคนรายได้ไม่เท่านี้เขายังเอาลูกเรียนอินเตอร์เลย เขาบอกอนาคตค่อยว่ากัน โอกาสมีต้องคว้าไว้แล้วสู้ไปเดี๋ยวได้เอง
3.ทำไมเราใช้เงินต้องมีแผนเป๊ะไปซะทุกอย่าง จัดทำบัญชีรับจ่ายรายเดือน ลงรายจ่ายจริงเทียบกับงบประมาณที่ตั้งไว้ว่าห้ามเกินนะ รู้สึกตัวเองตึง ยังไงไม่รู้ แต่นิสัยส่วนตัวเป็นคนมีระเบียบค่ะ ใช้เงินเกินงบไม่ได้ ทุกอย่างต้องอยู่ในแบบแผนที่วางไว้ อยากได้กระเป๋าแพง ๆ (แบรนด์เนมก็ต้องรอให้งบประมาณออกมาก่อน เป็นต้น) รู้สึกบางทีเครียดไปจัง อีกนั่นแหล่ะค่ะ พอมองรอบ ๆ ตัว คนอื่นเขาไม่เห็นจะตึงขนาดนี้เลย บางทีมันก็ความสุขของชีวิต ตัวเองเครียดไปไหม เป็นต้นค่ะ
เพิ่มเติมครั้งที่ 2 ค่ะ
ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงกับทุกความคิดเห็นนะคะ เนื่องจาก เจ้าของกระทู้มีภาระงานเยอะค่ะช่วงนี้ลูกสาวเปิดเทอมค่ะ บวกกับงานที่บริษัทด้วยค่ะ จึงไม่ได้เข้าไปเม้นท์ไล่ตอบทีละท่านนะคะ เลยขอมาแก้ไขข้อความเพื่อกล่าวคำขอบคุณกับทุก ๆ ความเห็น และขอแจ้งจากใจจริงค่ะว่า ดีใจและอ่านทุกความเห็นค่ะ ขอขอบพระคุณในควาหวังดีของทุกๆท่านค่ะที่ช่วยชี้แนะให้ การตั้งกระทู้ครั้งนี้ถือว่าผลตอบรับเป็นที่น่ายินดี ในเรื่องของการได้รู้ได้เห็น ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต ในการหาความมั่นคงให้กับชีวิต ขอขอบคุณจากใจจริง
และขอแจ้งว่าการตั้งกระทู้ครั้งนี้ ไม่ได้คิดว่าจะต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อลอกเลียน lifestyle ใครนะคะ ตั้งขึ้นมาเพื่อมองรอบตัวเองบ้างว่าคนอื่นเขาเป็นกันยังไง (บางท่านอาจจะบอกว่าไม่จำเป็น แต่สำหรับ จขกท คิดว่าจำเป็นค่ะ อย่างน้อย หากพบข้อจำกัด ข้อตึง หย่อนของตัวเอง เราควรแก้ไขปรับปรุงวิธีคิดของเราบ้าง) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมองแต่คนอื่นจนหมดความเป็นตัวเอง ตอนนี้อันดับแรกค่ะตั้งใจแก้ไขตัวเองเรื่องการหา passive income และเรื่องอื่น ๆ ก็ทยอยปรับปรุงนิดหน่อยค่ะ เรื่องสัดส่วนการเก็บเงิน สัดส่วนการท่องเที่ยวและบริหารชีวิต เรื่อง รร ลูก คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
จขกท