ทำไมแพทย์บางคนที่มีรายได้ 6 หลัก 7 หลักถึงส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ

เห็นแพทย์เชี่ยวชาญบางคนที่มีรายได้ 6-7 หลัก แต่ส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ เข้าใจว่าคนที่จะเป็นคุณหมอตัวเองจะต้องมีพื้นฐานการเรียนที่ดีมากส่วนใหญ่ที่เห็นจะเริ่มต้นด้วยโรงเรียนรัฐ แล้วระดับมัธยมปลายไปเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเช่นเตรียมอุดมหรือมหิดลวิทยานุสรณ์ สวนกุหลาบ หรือสาธิต ฯลฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐที่รวมหัวกะทิของประเทศและแข่งขันด้านการเรียนอย่างมาก ทำให้เด็กเก่งขึ้นและสามารถได้รับคัดเลือกเข้าเรียนคณะแพทย์ศาสตร์ และแพทย์ที่เก่งๆจะเลิกเรียนต่อในสาขาที่สอบเข้ายากมาก เรียนก็ยาก

ในขณะที่ก็รู้กันว่าเด็กที่เรียนโรงเรียนนานาชาติถ้าให้มาสอบแข่งวิชาการกับเด็กโรงเรียนรัฐบาลระดับหัวกะทิที่กล่าวไปแล้วข้างต้นไม่มีทางแข่งได้ แต่ก็เข้าใจว่าที่บางคน ให้ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติเพราะมีแนวทางไว้แล้วว่าจะให้ไปศึกษาต่อต่างประเทศหรือเอแบคและจบมาแล้วทำงานกับบริษัทของชาวต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับด้านภาษา แต่ถึงอย่างไรเงินเดือนหรือรายได้ก็ยังน่าจะน้อยกว่าแพทย์เชี่ยวชาญอย่างมาก

เลยสงสัยว่าเป็นเพราะสิ่งที่คุณหมอนั้นเติบโตขึ้นมาที่ต้องแข่งขันต้องเรียนอย่างหนักมันกดดันเขามากเกินไปหรือเปล่าทำให้เขาอยากแก้ไขเด็กๆของเขาว่าไม่จำเป็นที่จะต้องแข่งขันกันเรียนมากจนเกินไป ไปเน้นทางเรียนภาษาก็ได้ รายได้ไม่จำเป็นต้องหลักแสนหลักล้านเพราะลำพังแค่ที่คุณหมอเหลือไว้ให้ก็มากมายอยู่แล้ว ขอแค่มีความสุขกับการเรียนและการใช้ชีวิตไม่ต้องเครียดไม่ต้องแข่งขันเอาชนะ มันเป็นแบบนี้หรือเปล่า

ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าราคาที่จ่ายสำหรับค่าการศึกษาโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยไม่คุ้มค่าเลย ได้ยินมาว่าหลายๆที่ค่าเรียนปีละมากกว่า 1 ล้านบาท ทั้งๆที่เป็นการสอนในระดับเด็กเล็กแค่เกรด 1 ถึงเกรด 12เท่านั้น ผมมีลูกของพี่ชายเรียนจบวิศวะลาดกระบัง ไปเรียนต่อปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์ที่อิมพีเรียลคอลเลจสหราชอาณาจักร ค่าเรียนเพียงปีละ 1.4 ล้านบาท และค่าเรียนในระดับปริญญาเอกเพียง 8.5 แสนบาท ทั้งๆที่เป็นสถาบันระดับโลกในด้านวิศวกรรมศาสตร์และเป็นระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ถ้าเอาราคามาเทียบกับค่าการศึกษาระดับเด็กเล็กในเมืองไทยแล้วถือว่าแพงมาก
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่