การดับทุกข์นั้น ต้องทำนิพพานให้แจ้ง
ต่อไปให้เป็นความเข้าใจโดยส่วนตัว โปรดอย่าเพิ่งเชื่อ ดังนี้
1 พระพุทธองค์ทรงเบื่อหน่ายทางโลก แล ทรงเห็น การเกิด แก่ เจ็บตาย เป็นเทวฑูต ทั้งสี่ จึงทรงออกผนวช เพื่อหาทางพ้นจากสิ่งเหล่านี้
2 วิธีที่ทรงใช้ คือการทำ ฌานสมาบัติ ให้พบ ปิติสุขใน ฌาน และ ทรงทรมานร่างกาย ให้มีความทุกข์ เช่นเดียวกับนักบวชสมัยนั้นในหลายๆลัทธิ
3 ทรงเรียนจบการทำสมาธิ เข้าใจแล ทรงมีประสบการณ์ พบความสุข จากฌาน แต่ทรงพบว่า ความสุขนั้นๆ ไม่จีรัง มีเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป จึงทรงรู้ว่านี่ไม่ใช่หนทางที่จะดับทุกข์อย่างถาวร
4 ในคืนตรัสรู้ ทรงพบทางสายกลาง คือการยกจิตออกจาก สมาธิแแบ สมถะ เข้าสู่วิปัสสนา สมาธิ จึงสามารถพิจารณา การเกิดดับของ ทุกข์ แล เหตุแห่ง การเกิดทุกข์นั้นๆ ซึ่งก็ทรงทำลาย มาร แล เสนามาร ได้โดยสิ้นเชิง หมายถึง ทรง ละ กิเลส ตัณหา แล อวิชชาได้ ในคืนนั้น
ที่ผมขอเน้น (high light) คือ
- ปรากฏการณ์ที่พระองค์ทรงค้นพบ ทรงค้นพบแบบประจักษ์แจ้งโดยพระองค์เองในสมาธิบัลลังค์ ที่ทรงตรัสรู้นั้น เป็นภาวนานัยปัญญา
- ทรงยืนยันสิ่งที่พบว่าเป็นจริง อีกทั้งทรงเล่าในหลายพระสูตรว่า ในสมาธิก่อนที่จะทรงตรัสรู้นั้น ทรงเห็น การ จุติ แล การเกิด ของสัตว์โลก ทรงเห็น วัฏสงสาร การเวียนว่ายตายเกิด โดยประจักษ์ เช่นกัน
การดับทุกข์นั้น ต้องทำนิพพานให้แจ้ง
ต่อไปให้เป็นความเข้าใจโดยส่วนตัว โปรดอย่าเพิ่งเชื่อ ดังนี้
1 พระพุทธองค์ทรงเบื่อหน่ายทางโลก แล ทรงเห็น การเกิด แก่ เจ็บตาย เป็นเทวฑูต ทั้งสี่ จึงทรงออกผนวช เพื่อหาทางพ้นจากสิ่งเหล่านี้
2 วิธีที่ทรงใช้ คือการทำ ฌานสมาบัติ ให้พบ ปิติสุขใน ฌาน และ ทรงทรมานร่างกาย ให้มีความทุกข์ เช่นเดียวกับนักบวชสมัยนั้นในหลายๆลัทธิ
3 ทรงเรียนจบการทำสมาธิ เข้าใจแล ทรงมีประสบการณ์ พบความสุข จากฌาน แต่ทรงพบว่า ความสุขนั้นๆ ไม่จีรัง มีเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป จึงทรงรู้ว่านี่ไม่ใช่หนทางที่จะดับทุกข์อย่างถาวร
4 ในคืนตรัสรู้ ทรงพบทางสายกลาง คือการยกจิตออกจาก สมาธิแแบ สมถะ เข้าสู่วิปัสสนา สมาธิ จึงสามารถพิจารณา การเกิดดับของ ทุกข์ แล เหตุแห่ง การเกิดทุกข์นั้นๆ ซึ่งก็ทรงทำลาย มาร แล เสนามาร ได้โดยสิ้นเชิง หมายถึง ทรง ละ กิเลส ตัณหา แล อวิชชาได้ ในคืนนั้น
ที่ผมขอเน้น (high light) คือ
- ปรากฏการณ์ที่พระองค์ทรงค้นพบ ทรงค้นพบแบบประจักษ์แจ้งโดยพระองค์เองในสมาธิบัลลังค์ ที่ทรงตรัสรู้นั้น เป็นภาวนานัยปัญญา
- ทรงยืนยันสิ่งที่พบว่าเป็นจริง อีกทั้งทรงเล่าในหลายพระสูตรว่า ในสมาธิก่อนที่จะทรงตรัสรู้นั้น ทรงเห็น การ จุติ แล การเกิด ของสัตว์โลก ทรงเห็น วัฏสงสาร การเวียนว่ายตายเกิด โดยประจักษ์ เช่นกัน