เอาจริงๆนะครับ ตอนนี้เห็นมีคนต่อต้านไม่เข้าเซเว่นบ้าง มีการทำรูปบ้าง เดินทางไปยืนถ่ายภาพถือป้ายบ้าง จุดยืนหรือเป้าหมายที่ออกมาต่อต้านตอนนี้คืออะไรอะครับ เพราะเท่าที่ผมดู ก็จับประเด็นได้ประมาณว่าเค้าลอกเลียนสินค้า เอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อย ผูกขาดการตลาด ซึ่งตอนนี้ลามไปถึงหมูเห็ดเป็ดไก่แล้วครับ(เป้าหมายในทีนี้ผมหมายถึง ถ้าฝ่ายต่อต้านเรียกร้องสำเร็จ จะได้อะไรบ้างอะครับ)
ประเด็น. 1 ลอกเลียนแบบสินค้า ประเด็นนี้ผมมองว่า. น่าจะกระทบถึงผู้ประกอบกิจการมากกว่า แต่เห็นส่วนใหญ่ เหมือนจะเดือนร้อนไปตามๆกันทั้งที่ผมยังไม่เคยเห็นผู้ประกอบการรายใด มีปัญหาในประเด็นนี้เลย ผมถามจริงๆ เวลาซื้อพวกของกินนี่ ผมก็เลือกแบรนด์ ที่เคยซื้อแล้วตลอด. เว้นแต่มีของใหม่มา ก็ค่อยลองชิมๆดู. ผมว่าประเด็นนี้ ยังไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไหร่
ประเด็นที่ 2 เรื่องการเปิดร้านเอาเปรียบ ตอนแรกนี่ผก็คิดว่าจะเปิดเซเว่นเหมือนกัน แต่ลองศึกษาข้อมูลแล้ว จะเปิดทั้งที ต้องใช้เงินสักสองสามล้านได้มั้ง เรื่องนี้ แล้วหากเปิดได้กำไรนี้ cp จะมาเปิดข้างๆเรา. ผมดูแล้วก็เห็นด้วยว่า ทำอย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง แต่ก็แปลกใจถ้ารู้ทั้งรู้ว่าทำแบบนี้แล้วจะโดนอย่างนี้ เป็นผม ผมคงจะไม่ลงทุนหรอกครับ
ส่วนการที่บอกว่าร้านโชห่วย หรือผู้ประกิบกิจรายย่อยตายเรียบ (เจ๊ง). ผมว่าก็กล่าวเกินจริงไปหน่อยนะครับ. ร้านโชห่วยเอาจริงๆ ในต่างจังหวัดผมว่ายังอยู่ได้แต่ในกรุงเทพ 90% ผมว่าเปิดยังไงก็เจ๊งครับ. (ร้านที่อยู่ได้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นร้านที่เปิดมานาน หรือเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้านประมาณนี้). ซึ่งแถวบ้านผมมีอยู่ใกล้เคียงกัน 4 ร้าน 1 7-11. 2. Lotus. 3. Top. 4. ร้ายโชห่วย. ซึ่งปัจจุบันก็ยังเปิดทำการเป็นปกติ
ซึ่งผมก็คิดกลับกันว่าอ้าวถ้ามีครอบครัวที่ประกอบกิจการร้านโชห่วย แล้วต้องเจ๊งเพราะมีคนมาเปิดแข่งกับเรา ถ้าเป็นผม ผมคงเสียใจไใ่น้อย. แต่ถ้ามองในแบบธุรกิจจริงๆ ก็ใครเจ๋งกว่า ดีกว่า ก็อยู่ได้ไป อันนี้แล้วแต่ความคิด แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
ประเด็นสุดท้าย เรื่องการผูกขาดทางการตลาด ผมรู้สึกว่าจะเป็นแบบนี้หรือปล่าว? "เราทำได้คนเดียวคนอื่นห้ามทำ". แต่รู้สึกว่า จะมีคนเข้าใจว่า. Cp เพราะเขามีทุนสูง. ย่อมเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่แล้ว. เลยกลายเป็นผูกขาดไปซะอย่างนั้น. หรือว่าจะมีผูกขาดทางการตลาดในรูปแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กหรือไม่อย่างไร?
ส่วนเรื่องหมูเห็นเป็ดไก่ ตอนนี้ผมเห็นมีเพียงแต่พูดปากต่อปาก. ยังไม่เจอข้อมูลที่แท้จริง ถ้าใครมี(ที่เป็นข้อมูลจริงๆ)ก็ช่วยอนุเคราะห์ส่งมาให้ผมดูหน่อยนะครับ
ดังนั้นประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น ผมมองว่าเป็นเรื่องของธุรกิจมากกว่า แต่ใครจะเห็นเป็นอย่างอื่นก็ไม่ว่ากันครับ
แต่ก็อยากทราบจริงๆว่า ถ้าต่อต้านแล้ว.จะได้อะไรกลับมาหากได้มีการต่อต้านจนสำเร็จ (ขอที่เป็นไปได้จริงๆ). ซึ่งตอนนี้ผมเห็นมีการกล่างถึงการแก้ไข กมผูกขาดและมีการอ้างถึงกม ผูกขาดของประเทศอื่นนี่. ผมอยากรู้จริงๆ. ประเทศอื่นนี่มันประเทศไหนกันครับ และผมได้อ่านความคิดเห็นไม่ทราบว่าจากในพันทิปหรือจากที่อื่น ในเรื่อง กม ผูกขาดของสหรัฐ. เท่าที่รู้สหรัฐ นี่มีแต่รัฐธรรมนูญไม่ใช่หรอครับ ถ้าตราเป็น กม. ธรรมดา จะใช้แยกเฉพาะรัฐไป (อันนี้ผมอยากทราบเป็นความรู้จริงๆครับ) ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพราะ อยากทราบถึงประเด็นปัญหาคืออะไร และ เป้าหมายหรือจุดยืนของคนต่อต้าน cp. อยู่ตรงไหน. หากตรงไหนผมกล่าวผิดไป ก็สามารถแสดงความคิดเห็นแย้งได้นะครับ
ขอบคุณครับ
ประเด็นปัญหาคืออะไรและเป้าหมายของคนต่อต้าน cp. ?
ประเด็น. 1 ลอกเลียนแบบสินค้า ประเด็นนี้ผมมองว่า. น่าจะกระทบถึงผู้ประกอบกิจการมากกว่า แต่เห็นส่วนใหญ่ เหมือนจะเดือนร้อนไปตามๆกันทั้งที่ผมยังไม่เคยเห็นผู้ประกอบการรายใด มีปัญหาในประเด็นนี้เลย ผมถามจริงๆ เวลาซื้อพวกของกินนี่ ผมก็เลือกแบรนด์ ที่เคยซื้อแล้วตลอด. เว้นแต่มีของใหม่มา ก็ค่อยลองชิมๆดู. ผมว่าประเด็นนี้ ยังไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไหร่
ประเด็นที่ 2 เรื่องการเปิดร้านเอาเปรียบ ตอนแรกนี่ผก็คิดว่าจะเปิดเซเว่นเหมือนกัน แต่ลองศึกษาข้อมูลแล้ว จะเปิดทั้งที ต้องใช้เงินสักสองสามล้านได้มั้ง เรื่องนี้ แล้วหากเปิดได้กำไรนี้ cp จะมาเปิดข้างๆเรา. ผมดูแล้วก็เห็นด้วยว่า ทำอย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง แต่ก็แปลกใจถ้ารู้ทั้งรู้ว่าทำแบบนี้แล้วจะโดนอย่างนี้ เป็นผม ผมคงจะไม่ลงทุนหรอกครับ
ส่วนการที่บอกว่าร้านโชห่วย หรือผู้ประกิบกิจรายย่อยตายเรียบ (เจ๊ง). ผมว่าก็กล่าวเกินจริงไปหน่อยนะครับ. ร้านโชห่วยเอาจริงๆ ในต่างจังหวัดผมว่ายังอยู่ได้แต่ในกรุงเทพ 90% ผมว่าเปิดยังไงก็เจ๊งครับ. (ร้านที่อยู่ได้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นร้านที่เปิดมานาน หรือเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้านประมาณนี้). ซึ่งแถวบ้านผมมีอยู่ใกล้เคียงกัน 4 ร้าน 1 7-11. 2. Lotus. 3. Top. 4. ร้ายโชห่วย. ซึ่งปัจจุบันก็ยังเปิดทำการเป็นปกติ
ซึ่งผมก็คิดกลับกันว่าอ้าวถ้ามีครอบครัวที่ประกอบกิจการร้านโชห่วย แล้วต้องเจ๊งเพราะมีคนมาเปิดแข่งกับเรา ถ้าเป็นผม ผมคงเสียใจไใ่น้อย. แต่ถ้ามองในแบบธุรกิจจริงๆ ก็ใครเจ๋งกว่า ดีกว่า ก็อยู่ได้ไป อันนี้แล้วแต่ความคิด แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
ประเด็นสุดท้าย เรื่องการผูกขาดทางการตลาด ผมรู้สึกว่าจะเป็นแบบนี้หรือปล่าว? "เราทำได้คนเดียวคนอื่นห้ามทำ". แต่รู้สึกว่า จะมีคนเข้าใจว่า. Cp เพราะเขามีทุนสูง. ย่อมเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่แล้ว. เลยกลายเป็นผูกขาดไปซะอย่างนั้น. หรือว่าจะมีผูกขาดทางการตลาดในรูปแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กหรือไม่อย่างไร?
ส่วนเรื่องหมูเห็นเป็ดไก่ ตอนนี้ผมเห็นมีเพียงแต่พูดปากต่อปาก. ยังไม่เจอข้อมูลที่แท้จริง ถ้าใครมี(ที่เป็นข้อมูลจริงๆ)ก็ช่วยอนุเคราะห์ส่งมาให้ผมดูหน่อยนะครับ
ดังนั้นประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น ผมมองว่าเป็นเรื่องของธุรกิจมากกว่า แต่ใครจะเห็นเป็นอย่างอื่นก็ไม่ว่ากันครับ
แต่ก็อยากทราบจริงๆว่า ถ้าต่อต้านแล้ว.จะได้อะไรกลับมาหากได้มีการต่อต้านจนสำเร็จ (ขอที่เป็นไปได้จริงๆ). ซึ่งตอนนี้ผมเห็นมีการกล่างถึงการแก้ไข กมผูกขาดและมีการอ้างถึงกม ผูกขาดของประเทศอื่นนี่. ผมอยากรู้จริงๆ. ประเทศอื่นนี่มันประเทศไหนกันครับ และผมได้อ่านความคิดเห็นไม่ทราบว่าจากในพันทิปหรือจากที่อื่น ในเรื่อง กม ผูกขาดของสหรัฐ. เท่าที่รู้สหรัฐ นี่มีแต่รัฐธรรมนูญไม่ใช่หรอครับ ถ้าตราเป็น กม. ธรรมดา จะใช้แยกเฉพาะรัฐไป (อันนี้ผมอยากทราบเป็นความรู้จริงๆครับ) ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพราะ อยากทราบถึงประเด็นปัญหาคืออะไร และ เป้าหมายหรือจุดยืนของคนต่อต้าน cp. อยู่ตรงไหน. หากตรงไหนผมกล่าวผิดไป ก็สามารถแสดงความคิดเห็นแย้งได้นะครับ
ขอบคุณครับ