คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
อยากให้ถามตัวเองว่ารับงานหน้าสนามได้หรือเปล่าครับ ผมก็ไฟฟ้าสนาม อ่ะ ไล่หลักๆให้ตามนี้
1. เวลามีไซต์ใหม่จากที่ว่างเปล่า แน่นอนว่าเขาจะตั้งตู้คอนเทนเนอร์มาตู้นึง แล้วต่อไฟต่อน้ำเบื้องต้นไว้ให้ กลุ่มวิศวกรอยู่ (นึกตามนะครับ กล่องเหลี่ยมๆ พออยุ่ได้ มีแอร แต่น้ำไหลบ้างไม่ไหลบ้าง)
2. ห้องน้ำชั่วคราว... มาเป็นตู้เหมือนกันครับ วางเป็นกล่องเล็กกว่าตู้นั่งทำงาน ตั้งอยู่ข้างๆกล่องทำงานนั่นแหละ ความสกปรกเกือบๆ max แม้จะเปนแบบชักโครก ก็ชักไม่ค่อยได้ ต้องราดเอา บางงานดีหน่อย เขาแยกออกจากคนงานให้ แต่บางที่ไม่แยก... ก็ต้องอดทน
3. ใช้ชีวิตในกล่องนั่น เช้ายันเย็น(หรืออาจเลยไปทุ่มสองทุ่ม) และไม่สามารถนั่งตากแอร์นานๆได้ เพราะอาจโดนเพ่งเล็ง จึงต้องวนเวียนออกไปหน้าก่อสร้างบ่อยๆ คำว่าออกหน้าก่อสร้าง ไม่ใช่เดินวนเวียนอยู่ข้างหน้านะครับหมายถึงต้องเข้าไปข้างในเลย แน่นอน ความทรหดที่ต้องเจอ คือ ฝุ่น (ถึงขั้นมหากาพย์ปอดพัง)....ความมืด (กลางวันก้อมืดสนิท เพราะยังไม่มีไฟ) และสิ่งก่อสร้างต่างๆที่สภาพไม่สมบูรณ์ พวกสายไฟเดินห้อยไว้ เหล็กที่ยื่นๆรอประกอบ ท่อที่วางเกะกะ ฯลฯ) และของแจ๊คพอตเช่น ฉี่ หรือ อุจจาระคนงาน อันนี้ผมเคยเจอบางไซต์ บางไซต์ก็ไม่เจอ คนงานเวลาเขาทำงานอยู่ บางทีจะขี้เกียจเดินออกมาเข้าห้องน้ำเพราะระยะทางจากพื้นหน้างานและกล่องมันไกล ก็จะจัดกันแถวๆนั้นแหละ แล้วทำไม่รู้ไม่ชี้
4. งานบางงานจบยาก อย่างงานที่ผมเล่ามา อยู่กันเป็นปีๆ ต้องใช้ชีวิตดังสภาพข้างต้น
5. อากาศร้อนแน่นอน (ไม่ใช่แค่แดด แต่สภาพหน้างานมันจะอบอ้าว เพราะไม่มีไฟ ไม่มีลม เวลางานปิดกำแพงแล้ว และฝุ่นจะคลุ้งไม่มีวันหายจนกว่าตกตะเรียบร้อยแล้วต้องมานั่งคลีนกันอีกเป็นอาทิตย)
6. เรื่องลองวิชา อยู่ที่มุมมอง ถ้าคุณมองว่าโดนลองของคุณก็ต้องแอคทีฟตัวเองมากๆ แต่ตอนผมทำงานใหม่ๆ สิ่งไหนไม่รู้ ผมจะถาม แม้จะถามผู้รับเหมา เพราะ ปลายทางของงานคือ กำไร ให้เราถามคำถามที่อาจจะส่งผลต่อค่าใช้จ่าย และความปลอดภัยของคนทำงานก็น่าจะพอ (ทำไงก็ได ให้บริษัทไม่โดนค่าใช้จ่ายเพิ่ม) เรื่องลองของมันประเด็นรองบอกตรงๆ ลดอีโก้ลง เดี๋ยวพวกรุ่นเก่าๆเขาเอ็นดูเราเอง แต่ต้องทนหน่อย ให้คิดอย่างเดียวว่าเพื่องาน เพื่อบริษัท และอดทนยอมโดนบ่นไป เพราะวันนี้เรายังไม่ได้ แต่วันหน้าเรารู้แน่ๆจากการบ่นและประสบการของคนเก๋าๆ
7. สเตปงานง่ายๆคือ ..... นั่งประจำที่เวลามีไซต์งาน.....ติดต่อประสานงานให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำงานเป็นจุดๆ เช่น ผู้รับเหมาไฟ กับ ผู้รับเหมาท่อน้ำ คนละเจ้ากัน ก้อต้องล๊อคคิว ว่าใครจะเข้าก่อนหลัง .... บางงาน ทำพร้อมกันไม่ได้ ก็ต้องยอม... นี่รวมไปถึงการคิดติดต่อนำของเข้าไซต์ด้วยนะ วิศวกรต้องคุมเองหมด เรื่องวันเวลา พวกแอร์ ชิลเลอ... ฯลฯ ถ้าแมเนจไม่ดี มันจะมาชนกันหลายเจ้า แล้วแต่ละเจ้า เขาก็ต้องการเวลาที่แน่นอนด้วย เนื่องจากเขาก้อมีงานอื่นเช่นกัน ตรงนี้จะปวดหัวหน่อยเพราะต้องคุยกับหลายคนมากๆ......และต้องคอยตะล่อมผู้รับเหมาให้เร่งงาน (แต่ต้องมีชั้นเชิง บังคับมากไปเขาเหนื่อย ทิ้งงานเลยก็เห็นมาแล้ว พองานเสร็จช้า บริษัทเราเดือดร้อนนะครับ ตรงนต้องใช้ศิลป์ค่อนข้างมาก)
........และสุดทายคอประสานงานกับลูกค้าคอยรายงานผล ลูกค้าเองก้อจะมีวิศวกรมาตามงานเช่นกัน งานถึงไหนแล้ว รายงานแต่ละส่วนเป็นอย่างไร ต้องส่งให้หมด (ไม่ใช่รอไซต์จบแล้วส่งรายงานง่อยๆเล่มเดียว ตามสถานทีต่างๆต้องมีผลเทสหลายๆจุด เช่น ระบบแอร์ ระบบไฟ พวกนี้จะแยกกันแบบละเอียดยิบ ต้องตามเอากับผู้รับเหมา แล้วมาปรับเองบ้างเพราะเราต้องใช้ฟอร์มของบริษัทเรา)
เฮ้อ... เมื่อย (พิมพ์ ในมือถือ)
นี่เป็นคร่าวๆ แล้วกันครับ สิ่งที่ต้องเจอ
อ้างอิงจาก บ.ผม เป็น บ.ฝรั่งขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
บางงานเปนแค่งานต่อเติม ก็คงไม่ต้องผจญอะไรแบบ
นี้ แต่...เราเลือกงานไม่ได้มเขาให้ไปไหนก็ต้องไป
แน่นอนว่ามีทีมงาน ไม่ใช่เราไปเดี่ยวๆ เขาอาจส่งไฟฟ้าไป 3 คน โยธา 3 ซีเนียร 2-3 คน ไปนั่งร่วมกันกับเรา ก็คงช่วยกันคิดแก้ปัญหาที่เกิดได้
แต่สภาพแวดล้อมพื้นฐาน เป็นอย่างที่เล่าด้านบน ถามตัวเองว่ารับได้ไหม
ข้อดีก็มี คือเราจะเก่งไวกว่านั่งออฟฟิศแน่นอน แรกๆคงพอทนทำได้ อยากให้ถามตัวเองว่า อยู่แบบนี้ ทนถึง 3-5 ปีไหวไหม มันต้องใช้เวลาไต่เต้า หรือมีแผนว่าจะลาออกในสามปีไปที่อื่นก็ได้เหมือนกัน คือมาเอาวิชาก่อน
เนื้อหางานจริงเยอะกว่าที่ผมเล่าครับ อยากแชร์ให้ฟัง เพราะเห็นน้องเป็นผู้หญิง ถามใคร เขาก็จะบอกมาสั้นๆว่า มันคือ "งานลุยๆ" กลัวจะไม่เห็นภาพ ก็ตามนี้ครับ..
ขอให้โชคดีกับการเลือกงาน
1. เวลามีไซต์ใหม่จากที่ว่างเปล่า แน่นอนว่าเขาจะตั้งตู้คอนเทนเนอร์มาตู้นึง แล้วต่อไฟต่อน้ำเบื้องต้นไว้ให้ กลุ่มวิศวกรอยู่ (นึกตามนะครับ กล่องเหลี่ยมๆ พออยุ่ได้ มีแอร แต่น้ำไหลบ้างไม่ไหลบ้าง)
2. ห้องน้ำชั่วคราว... มาเป็นตู้เหมือนกันครับ วางเป็นกล่องเล็กกว่าตู้นั่งทำงาน ตั้งอยู่ข้างๆกล่องทำงานนั่นแหละ ความสกปรกเกือบๆ max แม้จะเปนแบบชักโครก ก็ชักไม่ค่อยได้ ต้องราดเอา บางงานดีหน่อย เขาแยกออกจากคนงานให้ แต่บางที่ไม่แยก... ก็ต้องอดทน
3. ใช้ชีวิตในกล่องนั่น เช้ายันเย็น(หรืออาจเลยไปทุ่มสองทุ่ม) และไม่สามารถนั่งตากแอร์นานๆได้ เพราะอาจโดนเพ่งเล็ง จึงต้องวนเวียนออกไปหน้าก่อสร้างบ่อยๆ คำว่าออกหน้าก่อสร้าง ไม่ใช่เดินวนเวียนอยู่ข้างหน้านะครับหมายถึงต้องเข้าไปข้างในเลย แน่นอน ความทรหดที่ต้องเจอ คือ ฝุ่น (ถึงขั้นมหากาพย์ปอดพัง)....ความมืด (กลางวันก้อมืดสนิท เพราะยังไม่มีไฟ) และสิ่งก่อสร้างต่างๆที่สภาพไม่สมบูรณ์ พวกสายไฟเดินห้อยไว้ เหล็กที่ยื่นๆรอประกอบ ท่อที่วางเกะกะ ฯลฯ) และของแจ๊คพอตเช่น ฉี่ หรือ อุจจาระคนงาน อันนี้ผมเคยเจอบางไซต์ บางไซต์ก็ไม่เจอ คนงานเวลาเขาทำงานอยู่ บางทีจะขี้เกียจเดินออกมาเข้าห้องน้ำเพราะระยะทางจากพื้นหน้างานและกล่องมันไกล ก็จะจัดกันแถวๆนั้นแหละ แล้วทำไม่รู้ไม่ชี้
4. งานบางงานจบยาก อย่างงานที่ผมเล่ามา อยู่กันเป็นปีๆ ต้องใช้ชีวิตดังสภาพข้างต้น
5. อากาศร้อนแน่นอน (ไม่ใช่แค่แดด แต่สภาพหน้างานมันจะอบอ้าว เพราะไม่มีไฟ ไม่มีลม เวลางานปิดกำแพงแล้ว และฝุ่นจะคลุ้งไม่มีวันหายจนกว่าตกตะเรียบร้อยแล้วต้องมานั่งคลีนกันอีกเป็นอาทิตย)
6. เรื่องลองวิชา อยู่ที่มุมมอง ถ้าคุณมองว่าโดนลองของคุณก็ต้องแอคทีฟตัวเองมากๆ แต่ตอนผมทำงานใหม่ๆ สิ่งไหนไม่รู้ ผมจะถาม แม้จะถามผู้รับเหมา เพราะ ปลายทางของงานคือ กำไร ให้เราถามคำถามที่อาจจะส่งผลต่อค่าใช้จ่าย และความปลอดภัยของคนทำงานก็น่าจะพอ (ทำไงก็ได ให้บริษัทไม่โดนค่าใช้จ่ายเพิ่ม) เรื่องลองของมันประเด็นรองบอกตรงๆ ลดอีโก้ลง เดี๋ยวพวกรุ่นเก่าๆเขาเอ็นดูเราเอง แต่ต้องทนหน่อย ให้คิดอย่างเดียวว่าเพื่องาน เพื่อบริษัท และอดทนยอมโดนบ่นไป เพราะวันนี้เรายังไม่ได้ แต่วันหน้าเรารู้แน่ๆจากการบ่นและประสบการของคนเก๋าๆ
7. สเตปงานง่ายๆคือ ..... นั่งประจำที่เวลามีไซต์งาน.....ติดต่อประสานงานให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำงานเป็นจุดๆ เช่น ผู้รับเหมาไฟ กับ ผู้รับเหมาท่อน้ำ คนละเจ้ากัน ก้อต้องล๊อคคิว ว่าใครจะเข้าก่อนหลัง .... บางงาน ทำพร้อมกันไม่ได้ ก็ต้องยอม... นี่รวมไปถึงการคิดติดต่อนำของเข้าไซต์ด้วยนะ วิศวกรต้องคุมเองหมด เรื่องวันเวลา พวกแอร์ ชิลเลอ... ฯลฯ ถ้าแมเนจไม่ดี มันจะมาชนกันหลายเจ้า แล้วแต่ละเจ้า เขาก็ต้องการเวลาที่แน่นอนด้วย เนื่องจากเขาก้อมีงานอื่นเช่นกัน ตรงนี้จะปวดหัวหน่อยเพราะต้องคุยกับหลายคนมากๆ......และต้องคอยตะล่อมผู้รับเหมาให้เร่งงาน (แต่ต้องมีชั้นเชิง บังคับมากไปเขาเหนื่อย ทิ้งงานเลยก็เห็นมาแล้ว พองานเสร็จช้า บริษัทเราเดือดร้อนนะครับ ตรงนต้องใช้ศิลป์ค่อนข้างมาก)
........และสุดทายคอประสานงานกับลูกค้าคอยรายงานผล ลูกค้าเองก้อจะมีวิศวกรมาตามงานเช่นกัน งานถึงไหนแล้ว รายงานแต่ละส่วนเป็นอย่างไร ต้องส่งให้หมด (ไม่ใช่รอไซต์จบแล้วส่งรายงานง่อยๆเล่มเดียว ตามสถานทีต่างๆต้องมีผลเทสหลายๆจุด เช่น ระบบแอร์ ระบบไฟ พวกนี้จะแยกกันแบบละเอียดยิบ ต้องตามเอากับผู้รับเหมา แล้วมาปรับเองบ้างเพราะเราต้องใช้ฟอร์มของบริษัทเรา)
เฮ้อ... เมื่อย (พิมพ์ ในมือถือ)
นี่เป็นคร่าวๆ แล้วกันครับ สิ่งที่ต้องเจอ
อ้างอิงจาก บ.ผม เป็น บ.ฝรั่งขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
บางงานเปนแค่งานต่อเติม ก็คงไม่ต้องผจญอะไรแบบ
นี้ แต่...เราเลือกงานไม่ได้มเขาให้ไปไหนก็ต้องไป
แน่นอนว่ามีทีมงาน ไม่ใช่เราไปเดี่ยวๆ เขาอาจส่งไฟฟ้าไป 3 คน โยธา 3 ซีเนียร 2-3 คน ไปนั่งร่วมกันกับเรา ก็คงช่วยกันคิดแก้ปัญหาที่เกิดได้
แต่สภาพแวดล้อมพื้นฐาน เป็นอย่างที่เล่าด้านบน ถามตัวเองว่ารับได้ไหม
ข้อดีก็มี คือเราจะเก่งไวกว่านั่งออฟฟิศแน่นอน แรกๆคงพอทนทำได้ อยากให้ถามตัวเองว่า อยู่แบบนี้ ทนถึง 3-5 ปีไหวไหม มันต้องใช้เวลาไต่เต้า หรือมีแผนว่าจะลาออกในสามปีไปที่อื่นก็ได้เหมือนกัน คือมาเอาวิชาก่อน
เนื้อหางานจริงเยอะกว่าที่ผมเล่าครับ อยากแชร์ให้ฟัง เพราะเห็นน้องเป็นผู้หญิง ถามใคร เขาก็จะบอกมาสั้นๆว่า มันคือ "งานลุยๆ" กลัวจะไม่เห็นภาพ ก็ตามนี้ครับ..
ขอให้โชคดีกับการเลือกงาน
แสดงความคิดเห็น
เป็นผู้หญิงเหมาะจะทำงานเป็นวิศวกรสนามไหมค่ะ