อ่านย้อนหลังวันก่อนๆได้ที่
วันที่ 1 >
http://ppantip.com/topic/33567725/comment0
วันที่ 2 >
http://ppantip.com/topic/33587266/comment0
เข้าสู่การเดินทางวันที่ 3
เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง ฝนตกตลอดเวลา และอุณภูมิลดลงมาอยู่ที่ราวๆ 6-7 องศา
เรามาเริ่มต้นวันกันที่ Yogin Korean’s Folk Village หมู่บ้านนี้อยู่ไม่ไกลจาก Suwon มากนัก เป็นอีกสถานที่ ที่นักเรียนและนักท่องเที่ยวชอบมากัน
( พิกัด : 37.259903, 127.120826 )
Yogin Korean’s Folk Village แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นโลเคชั่นถ่ายหนัง และสถานที่ท่องเที่ยว ภายในเป็นสวนธรรมชาติ แม่น้ำ บ้านแบบโบราณ (Hanok) จำลองบรรยากาศในวัง จำลองชีวิตในสมัยก่อน และการหมักกิมจิ รวมถึงการแสดงต่างๆ เช่นตีกลองโบราณ ยิงธนู เป็นต้น
( ถ่ายด้วย NX 500 + 18-200 mm )
( ถ่ายด้วย NX1 + 16-20 mm แต่งภาพด้วย snapseed, picsart)
(ฝนตกกันชุ่มช่ำตลอดทั้งเช้า)
( ด้านในจะมีพนักงานแต่งตัวแบบโบราณ เดินไปเดินมาให้เราอินกับบรรยากาศ ในภาพ คุณลุงกำลังถูพื้นที่เปียกฝน )
( กระท่อมฟางแบบโบราณ จะเป็นบ้านทั่วๆไปตามพื้นที่ลุ่ม)
(บ้านไม้ซุง อันนี้จะอยู่ในโซนของหมู่บ้านภูเขา )
( ฝนยังคงตกกันให้เราได้ชุ่มช่ำ และหนาวจนตัวสั่นกันตลอดเวลา )
( บริเวณที่เอาไว้ถ่ายหนังเกาหลีโบราณหลายๆเรื่อง )
(มีจำลองเลี้ยงลาอ้วนๆด้วย 555)
( โซนหมู่บ้านฟาง )
( โซนที่ไว้หมักกิมจิ ถั่ว และของดองต่างๆ คิดว่ามีการหมักจริงๆ เพราะกลิ่นแถวนั้นฉุนมาก 555 )
( มีทหารโบราณเดินไปเดินมาด้วย... สงสัยคนนี้พึ่งกลับมาจากการล่าเป็ด แหม่ ทำเป็นเข้ม -..-“ )
( เด็กๆที่มาก็วิ่นเล่นกันสนุกสนานไม่กลัวหนาว ส่วนลุงๆป้าอย่างเราเดินตัวสั่นหงักๆๆ)
(ตอนแรกก็ตกใจ ใครมาพายเรือ อ้ออ หุ่นจำลองนี่เอง)
(ธรรมชาติด้านในอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว)
( ภาพบรรยากาศต่างๆภายใน Yogin Korean Folk Village ถ่ายด้วย NX1 + 16-50 mm )
หลังจากเดินวนรอบหมู่บ้านกันเกือบๆ 2 ชม เราก็มาพักทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารด้านหน้าทางเข้า เป็นร้านอาหารที่เน้นบิบิมบับ (Bibimbap )เป็นหลัก บิบิมบับ ถ้าแปลตรงตัวก็คือ ข้าวยำ ( Mixed rice ) โดยยำ ในที่นี้ไม่ได้แปลว่ายำเปรี้ยวๆ แบบที่คนไทยใช้กัน แต่แปลว่า ผสมๆ ปนๆกัน ( mixed )
( หนีอากาศหนาวๆด้านนอก มากินบิบิมบับร้อนๆ ถึงแม้รสชาติจะไม่ถูกปากผมสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ ดีมากกก // เมนูในภาพเรียกว่า Dol-Sol-Bibimbap )
ทานข้าวยำกันอิ่มท้อง เราก็ออกเดินทางกันต่อ สถานีต่อไป Everland
Everland Theme Park เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในเมือง Yogin เช่นกัน สวนสนุกแห่งนี้มีขนาดใหญ่สุดในเกาหลี และติดอันดับที่ 13 ของโลกในปี 2011
Everland Theme Park บริหารโดยบริษัทในเครือของซัมซุง
( พิกัด : 37.292549, 127.203408 )
การเดินทาง สามารถมาได้โดยรถบัสประจำทาง
โดยนั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวไปลงสถานี Gangnam ทางออก 6 พอออกจากสถานีให้เดินข้ามถนนมาขึ้นรถบัส โดยสารสาย 5002
และนั่งไปสุดสายเลยครับ ใช่เวลาประมาณ 40 นาที
ขากลับก็นั่งสาย 5002 กลับไปลงที่เดิมได้เลย หรือเปลี่ยนไปนั่งสาย 1500-2 ไปสุดสาย ลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน Sadang
Everland Theme Park เป็นสวนสนุกที่นักท่องเที่ยวชอบไปกัน แทบทุกโปรแกรมทัวจะพามาที่นี่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ
หากเดินกระทบไหล่คนไทย ราวกับอยู่ dreamworld ภายในมีเครื่องเล่นทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ มีสวนสัตว์ มีสวนนก ร้านอาหาร และสวนดอกไม้ที่ค่อนข้างกว้าง ถึงแม้คนจะมาเที่ยวเยอะ แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือ ไม่อึดอัด
( ค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ 48,000 วอน เด็ก 38,000 วอน )
( Download คูปองส่วนลดได้ที่นี่จ๊ะ >>
http://www.everland.com/web/multi/english/everland/everland_guide/ticket/Tickets_and_Coupons.html )
น่าเสียดายที่ผมมาถ่ายภาพ จึงมีอุปกรณ์รุงรังหน่อย ไม่เหมาะกับการเล่นเครื่องเล่น และมีเวลาจำกัด เลยมีภาพมาฝากเพื่อนไม่มากนัก หากสนใจลองดูจากในเวปของสวนสนุกได้เลยครับ
http://www.everland.com/web/multi/english/everland/main.html
( ภาพบรรยากาศมุมกว้าง ถ่ายด้วย NX1 + 16-50 mm ส่วนภาพที่ซูมหน่อยจะถ่ายด้วย NX500 + 18-200 mm ครับ)
Lost Valley เป็นโซนสวนสัตว์ครับ
(ถ้าไปช่วงอากาศหนาว สัตว์จะเปื่อยๆ ซึมๆ ป้อนอาหารไม่ค่อยกินกัน ไปช่วงอากาศอุ่นๆจะบรรเทิงกว่าครับ
ช่วงอากาศหนาว สต๊าฟสวนสัตว์จะบรรเทิงกว่าสัตว์เสมอ 555)
(ยีราฟพอยืนคู่กับดอกซากุระแล้วก็ดูแปลกตาดี 555 )
มีเรื่องนึงที่ทำให้ยิ้มได้ตลอด เวลาเดินไปมาในสวนสนุกคือพนักงานเค้าจะทักทายโดยการยิ้มให้และชูมือขึ้น เล็กน้อยพร้อมสั่นๆมือ
เหมือนเวลาเราหลอกเด็กว่า บ๋อแบ๊ไม่มีขนมแล้ว อะไรแบบนั้น เห็นครั้งแรกตกใจเหมือนกัน
คิดว่าหนาวจนมือสั่นหรือเป็นลมชักอะไรรึป่าว แต่พอชินแล้วก็เรียกรอยยิ้มได้ไม่น้อย น่ารักดี 555
เราเก็บของ ออกเดินทางต่อ เป้าหมายต่อไป Muju โดยเราเข้าพักในศูนย์ฝึกเทควันโดชื่อ Muju Taekwondowon
ใช้เวลาเดินทางจาก Everland ประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที กว่าจะไปถึงก็มืด และท้องร้องดังกว่าเสียงฝนด้านนอก
อาหารเย็นของวันนี้ก็ไปทานที่ Taekwondowon เช่นกันครับ โดยเมนูวันนี้จะเป็นเมนูเห็ด! ที่เรียกว่า Bu-Sot-Jeong-Sik
นอกจากเห็ดแล้วก็ยังมี ผัก และ เห็ด และเห็ด และเห็ดๆๆ ฮืออออ กลัวเราสุขภาพไม่ดีแน่ๆ ถึงจัดมาให้ซะเฮลตี้ขนาดนี้
กินเห็ดซะจนนึกว่าตัวเองเป็นมาริโอ้ อาหารเย็นวันนี้คงทำให้เพื่อนๆหิวตอนดึกไม่ได้ งั้นข้ามไป 555
จบวัน สนุกสนาน พักผ่อน พรุ่งนี้ลุยกันต่อ
ก่อนจากกัน มีเกร็ดความรู้มาฝากเพื่อนๆเช่นเคยฮะ
1. คนเกาหลี จะเรียกอะไรที่เป็นเกาหลีว่า Han (ฮัน) นำหน้า
เช่น
ชุดเกาหลี ฮัน-บก
บ้านเกาหลี ฮัน-อก
กระดาษกาหลี ฮัน-จิ
คนเกาหลี เรียกตัวเองว่า ฮัน-กุก
เป็นต้น
2. ที่มาของคำว่า เกาหลี
คำว่า “ เกาหลี” ที่คนไทยเราเรียกกันในปัจจุบันเพี้ยนมาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน ( เกาลี่ ⾼高丽 )
ส่วนคำว่าโคเรีย มีที่มาจากชื่อแคว้น "โครยอ" หรือ"โคกูรยอ" ซึ่งเป็นอาณาจักรใหญ่ของเกาหลีโบราณ
ตอนต่อไป Muji เมืองภูเขา, เทควอนโด กีฬาประจำชาติเกาหลี และ Jeonju Hanok Village หมู่บ้านชิคๆ ร่วมสมัย
ขอบคุณที่ติดตามครับ
(ติดตาม ภาพอื่นๆได้ที่ instagram : Lightculture )
[SR] ตะลุยเกาหลีใต้ กับ NXTraveller Korea 2015 #3
วันที่ 1 > http://ppantip.com/topic/33567725/comment0
วันที่ 2 > http://ppantip.com/topic/33587266/comment0
เข้าสู่การเดินทางวันที่ 3
เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง ฝนตกตลอดเวลา และอุณภูมิลดลงมาอยู่ที่ราวๆ 6-7 องศา
เรามาเริ่มต้นวันกันที่ Yogin Korean’s Folk Village หมู่บ้านนี้อยู่ไม่ไกลจาก Suwon มากนัก เป็นอีกสถานที่ ที่นักเรียนและนักท่องเที่ยวชอบมากัน
( พิกัด : 37.259903, 127.120826 )
Yogin Korean’s Folk Village แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นโลเคชั่นถ่ายหนัง และสถานที่ท่องเที่ยว ภายในเป็นสวนธรรมชาติ แม่น้ำ บ้านแบบโบราณ (Hanok) จำลองบรรยากาศในวัง จำลองชีวิตในสมัยก่อน และการหมักกิมจิ รวมถึงการแสดงต่างๆ เช่นตีกลองโบราณ ยิงธนู เป็นต้น
( ถ่ายด้วย NX 500 + 18-200 mm )
( ถ่ายด้วย NX1 + 16-20 mm แต่งภาพด้วย snapseed, picsart)
(ฝนตกกันชุ่มช่ำตลอดทั้งเช้า)
( ด้านในจะมีพนักงานแต่งตัวแบบโบราณ เดินไปเดินมาให้เราอินกับบรรยากาศ ในภาพ คุณลุงกำลังถูพื้นที่เปียกฝน )
( กระท่อมฟางแบบโบราณ จะเป็นบ้านทั่วๆไปตามพื้นที่ลุ่ม)
(บ้านไม้ซุง อันนี้จะอยู่ในโซนของหมู่บ้านภูเขา )
( ฝนยังคงตกกันให้เราได้ชุ่มช่ำ และหนาวจนตัวสั่นกันตลอดเวลา )
( บริเวณที่เอาไว้ถ่ายหนังเกาหลีโบราณหลายๆเรื่อง )
(มีจำลองเลี้ยงลาอ้วนๆด้วย 555)
( โซนหมู่บ้านฟาง )
( โซนที่ไว้หมักกิมจิ ถั่ว และของดองต่างๆ คิดว่ามีการหมักจริงๆ เพราะกลิ่นแถวนั้นฉุนมาก 555 )
( มีทหารโบราณเดินไปเดินมาด้วย... สงสัยคนนี้พึ่งกลับมาจากการล่าเป็ด แหม่ ทำเป็นเข้ม -..-“ )
( เด็กๆที่มาก็วิ่นเล่นกันสนุกสนานไม่กลัวหนาว ส่วนลุงๆป้าอย่างเราเดินตัวสั่นหงักๆๆ)
(ตอนแรกก็ตกใจ ใครมาพายเรือ อ้ออ หุ่นจำลองนี่เอง)
(ธรรมชาติด้านในอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว)
( ภาพบรรยากาศต่างๆภายใน Yogin Korean Folk Village ถ่ายด้วย NX1 + 16-50 mm )
หลังจากเดินวนรอบหมู่บ้านกันเกือบๆ 2 ชม เราก็มาพักทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารด้านหน้าทางเข้า เป็นร้านอาหารที่เน้นบิบิมบับ (Bibimbap )เป็นหลัก บิบิมบับ ถ้าแปลตรงตัวก็คือ ข้าวยำ ( Mixed rice ) โดยยำ ในที่นี้ไม่ได้แปลว่ายำเปรี้ยวๆ แบบที่คนไทยใช้กัน แต่แปลว่า ผสมๆ ปนๆกัน ( mixed )
( หนีอากาศหนาวๆด้านนอก มากินบิบิมบับร้อนๆ ถึงแม้รสชาติจะไม่ถูกปากผมสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ ดีมากกก // เมนูในภาพเรียกว่า Dol-Sol-Bibimbap )
ทานข้าวยำกันอิ่มท้อง เราก็ออกเดินทางกันต่อ สถานีต่อไป Everland
Everland Theme Park เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในเมือง Yogin เช่นกัน สวนสนุกแห่งนี้มีขนาดใหญ่สุดในเกาหลี และติดอันดับที่ 13 ของโลกในปี 2011
Everland Theme Park บริหารโดยบริษัทในเครือของซัมซุง
( พิกัด : 37.292549, 127.203408 )
การเดินทาง สามารถมาได้โดยรถบัสประจำทาง
โดยนั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวไปลงสถานี Gangnam ทางออก 6 พอออกจากสถานีให้เดินข้ามถนนมาขึ้นรถบัส โดยสารสาย 5002
และนั่งไปสุดสายเลยครับ ใช่เวลาประมาณ 40 นาที
ขากลับก็นั่งสาย 5002 กลับไปลงที่เดิมได้เลย หรือเปลี่ยนไปนั่งสาย 1500-2 ไปสุดสาย ลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน Sadang
Everland Theme Park เป็นสวนสนุกที่นักท่องเที่ยวชอบไปกัน แทบทุกโปรแกรมทัวจะพามาที่นี่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ
หากเดินกระทบไหล่คนไทย ราวกับอยู่ dreamworld ภายในมีเครื่องเล่นทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ มีสวนสัตว์ มีสวนนก ร้านอาหาร และสวนดอกไม้ที่ค่อนข้างกว้าง ถึงแม้คนจะมาเที่ยวเยอะ แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือ ไม่อึดอัด
( ค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ 48,000 วอน เด็ก 38,000 วอน )
( Download คูปองส่วนลดได้ที่นี่จ๊ะ >> http://www.everland.com/web/multi/english/everland/everland_guide/ticket/Tickets_and_Coupons.html )
น่าเสียดายที่ผมมาถ่ายภาพ จึงมีอุปกรณ์รุงรังหน่อย ไม่เหมาะกับการเล่นเครื่องเล่น และมีเวลาจำกัด เลยมีภาพมาฝากเพื่อนไม่มากนัก หากสนใจลองดูจากในเวปของสวนสนุกได้เลยครับ
http://www.everland.com/web/multi/english/everland/main.html
( ภาพบรรยากาศมุมกว้าง ถ่ายด้วย NX1 + 16-50 mm ส่วนภาพที่ซูมหน่อยจะถ่ายด้วย NX500 + 18-200 mm ครับ)
Lost Valley เป็นโซนสวนสัตว์ครับ
(ถ้าไปช่วงอากาศหนาว สัตว์จะเปื่อยๆ ซึมๆ ป้อนอาหารไม่ค่อยกินกัน ไปช่วงอากาศอุ่นๆจะบรรเทิงกว่าครับ
ช่วงอากาศหนาว สต๊าฟสวนสัตว์จะบรรเทิงกว่าสัตว์เสมอ 555)
(ยีราฟพอยืนคู่กับดอกซากุระแล้วก็ดูแปลกตาดี 555 )
มีเรื่องนึงที่ทำให้ยิ้มได้ตลอด เวลาเดินไปมาในสวนสนุกคือพนักงานเค้าจะทักทายโดยการยิ้มให้และชูมือขึ้น เล็กน้อยพร้อมสั่นๆมือ
เหมือนเวลาเราหลอกเด็กว่า บ๋อแบ๊ไม่มีขนมแล้ว อะไรแบบนั้น เห็นครั้งแรกตกใจเหมือนกัน
คิดว่าหนาวจนมือสั่นหรือเป็นลมชักอะไรรึป่าว แต่พอชินแล้วก็เรียกรอยยิ้มได้ไม่น้อย น่ารักดี 555
เราเก็บของ ออกเดินทางต่อ เป้าหมายต่อไป Muju โดยเราเข้าพักในศูนย์ฝึกเทควันโดชื่อ Muju Taekwondowon
ใช้เวลาเดินทางจาก Everland ประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที กว่าจะไปถึงก็มืด และท้องร้องดังกว่าเสียงฝนด้านนอก
อาหารเย็นของวันนี้ก็ไปทานที่ Taekwondowon เช่นกันครับ โดยเมนูวันนี้จะเป็นเมนูเห็ด! ที่เรียกว่า Bu-Sot-Jeong-Sik
นอกจากเห็ดแล้วก็ยังมี ผัก และ เห็ด และเห็ด และเห็ดๆๆ ฮืออออ กลัวเราสุขภาพไม่ดีแน่ๆ ถึงจัดมาให้ซะเฮลตี้ขนาดนี้
กินเห็ดซะจนนึกว่าตัวเองเป็นมาริโอ้ อาหารเย็นวันนี้คงทำให้เพื่อนๆหิวตอนดึกไม่ได้ งั้นข้ามไป 555
จบวัน สนุกสนาน พักผ่อน พรุ่งนี้ลุยกันต่อ
ก่อนจากกัน มีเกร็ดความรู้มาฝากเพื่อนๆเช่นเคยฮะ
1. คนเกาหลี จะเรียกอะไรที่เป็นเกาหลีว่า Han (ฮัน) นำหน้า
เช่น
ชุดเกาหลี ฮัน-บก
บ้านเกาหลี ฮัน-อก
กระดาษกาหลี ฮัน-จิ
คนเกาหลี เรียกตัวเองว่า ฮัน-กุก
เป็นต้น
2. ที่มาของคำว่า เกาหลี
คำว่า “ เกาหลี” ที่คนไทยเราเรียกกันในปัจจุบันเพี้ยนมาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน ( เกาลี่ ⾼高丽 )
ส่วนคำว่าโคเรีย มีที่มาจากชื่อแคว้น "โครยอ" หรือ"โคกูรยอ" ซึ่งเป็นอาณาจักรใหญ่ของเกาหลีโบราณ
ตอนต่อไป Muji เมืองภูเขา, เทควอนโด กีฬาประจำชาติเกาหลี และ Jeonju Hanok Village หมู่บ้านชิคๆ ร่วมสมัย
ขอบคุณที่ติดตามครับ
(ติดตาม ภาพอื่นๆได้ที่ instagram : Lightculture )
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น