ความเดิมตอนที่แล้ว
>> http://ppantip.com/topic/33567725/ <<



สวัสดีคร้าบบ มาเที่ยวเกาหลีใต้ต่อกัน
     แต่ก่อนจะพาเพื่อนๆไปที่ยวกันต่อ มีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ที่ได้จากไกด์มาฝากครับ ปรกติเวลาคนเกาหลีทักทายกันก็จะอันยองอาเซโย แบบที่เราคุ้นเคย แต่หลังจากนั้น เขาจะตามด้วยคำถามประมาณว่า ทานข้าวหรือยัง กินอะไรหรือยัง อะไรประมาณนั้น ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่เกิดขึ้นช่วงสงคราม คนอดอยากและไม่ค่อยมี อะไรกิน คำถามว่า ทานอะไรหรือยัง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และติดปากมาจนถึงปัจจุบัน...

ป่ะ เที่ยวกันต่อ

     ก่อนออกเดินทางไปซูวอน (Suwon) เราไปเริ่มต้นทริปอย่างเป็นทางการกันที่ตึก Samsung d’light กันก่อน ตึกนี้เป็นเหมือนโชว์รูมขนาดใหญ่ ของซัมซุงที่มีสินค้าใหม่ๆทุกอย่างของซัมซุงมาจัดแสดง ทั้งมือถือ กล้อง โทรทัศน์ หากใครสนใจมา Samsung D’light สามารถนั่งรถไฟ ใต้ดินมาลงสถานีกังนัม แล้วออกทางออก8ครับ จะเจอเลย
(พิกัดสถานีรถไฟใต้ดินกังนัม : 37.496816, 127.028103)


(ทางเข้าตึก Samsung d’light)


(หน้าจอ และพื้นแบบinteractive ขนาดใหญ่มีลูกเล่นต่างๆ )


(น้องไหมขาแดนซ์ของไทย กำลังประชันลีลาในเกมเต้นแบบตรวจจับความเคลื่อนไหว กับผู้เข้าร่วมโครงการจากประเทศอื่น)

(ดูลีลาซะก่อนน ไม่มีใครยอมใคร 555)


(พนักงานของซัมซุงดีไลท์ กำลังอธิบายโซนต่างๆของตึก ...ผมนี้ตั้งใจฟังเลยครับ อยู่แถวหน้าตลอด...)


(น้องไหมกำลังปวดหัวกับหนุ่มเกาหลีในมโนภาพของนางอยู่ 5555 โซนเป็นจอ interactive ที่จำลองภาพได้ตาม โปรแกรมที่ตั้งไว้ครับ)

(ให้เวลาน้องไหมมีความสุขนิดนึง นี่น่าจะเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวของนางที่มีนายแบบเกาหลีมาจีบ... #ยิ้มอ่อน)


(ปล่อยน้องไหมมีความสุขไป เรามาดูสิ่งน่าสนใจกันต่อดีกว่าครับ... ทีวี UHD จอโค้งเว้า สวย คม น่าใช้มากครับ... อื่อหือ)


(ห้องนี้จะฉายภาพจำลองเหมือนเราเข้าไปเดินอยู่ข้างในคอมพิวเตอร์ครับ เวียนหัวใช้ได้ ฮาา)


(โซนนี้มีบ้านจำลองหลังเล็กๆ และกล้องถ่ายรูปหลายๆรุ่นให้เราได้ลองเล่นกัน ภาพนี้ถ่ายโดยกล้อง NX1 + 16-50mm )

หลังจากนั้นก็ขึ้นมาเดินเล่นที่ชั้น2 ซึ่งเป็นห้องประชุม และโซนจัดแสดงไฟ LED

(น้องไหม ในโซนจัดแสดงไฟ LED )



(แผนที่และข้อมูลสถานที่ต่างๆในทริปนี้ และของขวัญเล็กๆน้อยๆจากซัมซุง กล้องเล็กๆในรูปนี้คือ NX 500 + 18-200 mm )

     หลังจากผู้บริหารซัมซุงออกมากล่าวต้อนรับ ก็ได้เวลาออกเดินทางอย่างเป็นทางการแต่ก่อนอื่น...กินข้าวเติมพลังกันก่อน อาหารกลางวัน เป็นร้านอาหารใต้ตึกชื่อ Mad for Garlic ครับ แค่ชื่อก็น่าจะเดาได้...กระเทียมเจ้มจ้นมากจ้าาาา สำหรับผมซึ่งชอบทานกระเทียมเป็นทุน เดิม จึงค่อนข้างเอ็นจอย อร่อยปาก แต่ใครที่ไม่ถูกกับกระเทียม หรือเป็นผีดิบกลัวกระเทียม อย่าได้เฉียดมาใกล้ เชียวครับ...อานุภาพกระเทียมรุนแรงมาก


(ภาพจาก http://www.madforgarlic.com/)

หลังจากนั้นเรานั่งรถทัวของทีมงานไป Suwon กัน และระหว่างทางเราก็แวะถ่ายรูปซากุระกันสักหน่อย ช่วงที่เราไปดอกซากุระกำลังบานเต็มที่เลยครับ บางโซนเริ่มร่วงหน่อยๆแล้ว




( ดอกซากุระข้างทาง ถ่ายด้วย NX1 + 16-50mm ปรับภาพด้วยapp snapseed+ Picart+ VSCOcam)


( ต้นไม้ข้างทาง ถ่ายด้วย NX1 + 16-50mm ปรับภาพด้วยapp snapseed)

     หลังจากแวะเสพบรรยากาศข้างทางกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มุ่งหน้าไป Suwon กันต่อ Suwon เป็นเมืองใหญ่ตั้งอยู่ทางใต้ ห่างจากโซล 30 km. Suwon มีประชากรมากถึง 1.2 ล้านคน เป็นศูนย์กลางการศึกษา มีมหาวิทยาลัยในเขตนี้ ถึง 11 แห่ง เมืองนี้มีชื่อเรียกกันเล่นๆว่า Samsung City เพราะเป็นที่ตั้งของโรงงานใหญ่ และสำนักงานใหญ่ซัมซุง ซึ่งประชากรในเมืองนี้หลายหมื่นคน ทำงานให้กับซัมซุง


ตึกที่เราไปคือ Samsung Innovation museum (SIM) เป็นพิพิธพันธ์ไว้จัดแสดงเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และรวมไปถึงเทคโนโลยีในอนาคตที่ทางซัมซุงวาดฝันไว้ ซึ่งถ้าทำได้จริง ขอบอกเลยว่า เจ๋งมากก




( โซนนี้เป็น vdo presentation ให้เรายืนอยู่ในโดมและดูvdo ได้รอบด้าน )


( โซนจัดแสดงวิวัฒนาการของโทรทัศน์ )


ผมนี้อยู่แถวหน้าตลอดเลยครับ ตั้งใจเรียนสุดๆ... เครื่องซักผ้าสมัยโบราณ น่าร้ากกก เนอะ :p


( พนักงานคนสวยกำลังอธิบายอะไรสักอย่าง...ลืมฟัง 555 )


( บางส่วนของเทคโนโลยีที่จัดแสดงภายใน )
(**เพิ่มเติม เมื่อกี้ดูยูทูปแล้วเจอมา มันคืออันนี้นี่เองงง >> https://www.youtube.com/watch?t=22&v=YzTxsmpFPy4 )

     จริงๆข้างใน Samsung Inovation Museum มีของน่าตื่นตาตื่นใจเยอะพอสมควรครับ แต่บางโซนห้ามถ่าย ภาพ เลยมีภาพมาให้ดูไม่เยอะ เทคโนโลยีใหม่ๆที่น่าสนใจก็เช่น ทีวี3มิติแบบไม่ต้องใช้แว่นตาและจะตรวจจับ ตำแหน่งเราทำให้ไม่ว่าจะเดินหรือมองจากมุมไหนภาพก็จะดูลอยออกมาจากจอ และโซนเด่นๆก็เช่นบ้าน อัจฉริยะที่คำนวณและควบคุมผ่านมือถือ เป็นต้น
    
     กว่าจะมาถึงซูวอนก็มืดแล้วเราไปจบวันกันที่ป้อม Hwaseong Fortress ประจำเมืองซูวอน ป้อมนี้มีอายุกว่า 200 ปี ขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกเมื่อปี 1997 ภายในป้อมปราการนี้มี พระราชวัง Hwaseong Haenggung Palace ด้วย หากไปตอน กลางวัน ภายในจะมีกิจกรรมให้ทำเช่น ยิงธนูแบบโบราณ และการแสดงการต่อสู้เป็นต้น แต่เราไปกันตอนกลาง คืนแทน! ตอนเราไปถึงฝนตกพรำๆและอากาศหนาวมาก อุณหภูมิตอนนั้นน่าจะ 7-8 องศา ถ้ามีลมพัดมา มือชา เท้าชากันเลยทีเดียว


(ถ่ายด้วย NX1 แล้วลองเอามาซ้อนกับภาพดาวที่ถ่ายแยกไว้เล่นๆครับ แฮ้ แอพที่ใช้ซ้อนภาพคือ PicsArt)


(ถ่ายด้วย NX1 แล้วปรับภาพด้วย Snapseed ครับ ท้องฟ้าเรืองแสงเพราะด้านหลังมีแสงไฟจากเมือง)


(วิวเมืองเมื่อมองลงมาจากป้อมครับ ถ่ายด้วย NX1)



(อีกมุม ถ่ายจากสวนด้านหลัง)

ทั้งเปียกทั้งหนาวเดินถ่ายกันสักชั่วโมงกว่าๆ ก็ไม่ไหวละ ต้องกลับไปพักที่โรงแรม
และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย...ข้าวเย็นนน วันนี้เราไปกินบุฟเฟ่ซีฟู้ดกันที่ร้านชื่อ Muscus ( Museukuseu Seafood Restaurant )
(พิกัดร้าน : 37.382963, 127.121434 )


ร้าน Muscus มีหลายสาขา แต่ที่เราไปกินจะอยู่ในตึก Dohwa Tower ด้านไหนมีอาหารทะเล ซูชิ และขนมหวา นอื่นๆมากมาย ราคาจะอยู่ที่ประมาณคนละ 22,000 won – 39,000 won แล้วแต่สาขาที่ไป แต่บอกได้เลยว่า คุ้มราคามว้ากก






กุ้งเผาวางบนเกลือ


เอ็นกาวะไม่อั้นนน


อาหารทะเลสดใหม่เรียงราย


สลัดและผักก็มีให้เลือกหลากหลาย



โซนปิ้งย่างและอุด้งก็มีจ้าา



และไม่ว่าจะอิ่มพุงแตกยังไง ก็ต้องตบท้ายด้วยขนมหวานซะหน่อยย




และทั้งหมดนี้ All you can eat จ้าา คุ้มค่า คุ้มราคามาก กินกันจนตัวแตก
มื้อนี้ให้ไปเลย 10/10
อาหารอร่อย มีให้เลือกเยอะ

อิ่มท้อง กลับโรงแรมนอน
วันนี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเมือง เลยไม่ค่อยมีรูปมากนัก (นอกจากกิน 555)
พรุ่งนี้จะออกเดินทางกันต่อ
สถานีต่อไป Yongin ตะลุยFolk Village และ Everland!

ขอบคุณที่ติดตามครับ
...
to be continue .

(ติดตามรูปอื่นๆได้จาก instagram : Lightculture)

ตอนต่อไป >> http://ppantip.com/topic/33620589