ด้านบวกอำนาจพิเศษ โดย ทีมข่าวการเมือง
“สถานการณ์รัฐธรรมนูญ” ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
“โมเดลแรก” จะแก้หรือไม่แก้ ยังเดาทางยี่ห้อ “ด็อกเตอร์ปื๊ด”
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้
แต่ตอนนี้กระแสข้ามช็อตไปถึงประชามติแล้ว
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มรัฐบาลทหาร คสช.ก็ไม่ได้เร่งเกมตามกระแสรัฐธรรมนูญเท่าไหร่
แต่เน้นไปที่การคุมสถานการณ์ด้านความมั่นคงไว้ก่อน
ตามปมเล็กๆที่มาจากเรื่องใหญ่ กรณี “จดหมายน้อย” ทำให้ “บิ๊กจิ๋ว”
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ อดีต ผบ.ทบ.ต้องหอบเมีย
จูงหมาออกจากคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะขัดอกขัดใจกับ
เจ้าของห้อง
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “ลูกเอ๊ะ” พล.ท.เชวงศักดิ์ ทองสลวย
นายทหารฝ่าย เสธ.คู่ใจ ตามท้องเรื่องที่ลูกน้องคนสนิท
เตือนแล้วไม่ฟัง ยังไปเคลื่อนไหวกับแกนนำเสื้อแดง นปช.
ทำให้โดนฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาล คสช.ล็อกเป้าความเคลื่อนไหว
และก็เป็นอะไรที่โยงกับการปิดสถานีโทรทัศน์พีซทีวีของกลุ่มเสื้อแดง นปช.
จอดำตามมติของ กสท ล้อกับคำสั่ง คสช.ที่ห้ามแกนนำพรรคเพื่อไทย
อย่างนายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายภูมิธรรม
เวชยชัย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เดินทางออกนอกประเทศ ฐานวิพากษ์
วิจารณ์การเมือง เศรษฐกิจ มีผลต่อความมั่นคง
รัฐบาลทหาร คสช.สกัดไฟแต่ต้นลม บล็อกตั้งแต่เครือข่าย “ทักษิณ” เริ่มขยับ
ขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นถึงการลุยทำงานเชิงรุก ด้วยอำนาจพิเศษของดาบมาตรา 44 กับปฏิบัติการลุยล้างขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาที่ชายแดนไทย–มาเลเซีย ที่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. สั่งการเข้ม ให้ระดมทุก
หน่วยลงปฏิบัติการและทำงานด้านข่าว พร้อมงัดมาตรา 44 เดินหน้าทุกรูปแบบ
เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นจากประเทศไทย
ตามคิวที่หัวแถวทหารตำรวจ ทั้ง “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.
และ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.บินลงพื้นที่ไปติดตาม
สั่งการด้วยตัวเอง
เทกแอ็กชั่น โชว์ความเอาจริงเอาจัง
แน่นอนมันก็น่าจะส่งผลโยงกับการกู้สถานการณ์ใบเหลืองของ
สหภาพยุโรป (อียู) ที่ขู่แบนสินค้าประมงไทย จากปมการค้ามนุษย์
ที่ส่วนใหญ่ถูกส่งไปเป็นแรงงานประมง
ซึ่งก็ตรงกับจังหวะที่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกฯ
เปิดเผยว่า กรมประมงได้รายงานในวันที่ 10–22 พฤษภาคมนี้ คณะทำงาน
ของอียูจะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูความคืบหน้าและ
ให้คำแนะนำกรณีการแก้ปัญหาประมง ก่อนที่ผู้บริหารระดับสูงจะมาติดตาม
ความคืบหน้าต่อไป
เป็นการสะท้อนว่าไทยเดินมาถูกทาง ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการ
แก้ไขปัญหาภาคประมงของไทย
และที่ฮือฮาเป็นไฮไลต์ในรอบสัปดาห์ กับการส่งมือ “ทุบ” อย่าง “เสธ.แดง”
พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าไปนั่งเป็นประธานบอร์ด
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
โยนธงให้ลุยล้างบางมาเฟีย แก้ไขปัญหาหวยรัฐราคาแพง
ตามเดิมพันที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศตั้งแต่หลังยึดอำนาจ ต้องทำให้ลอตเตอรี่
เหลือใบละ 80 บาทให้ได้ แต่ผ่านไปเกือบปีก็ยังคาราคาซัง จนรัฐบาลทหาร
โดนเสียงเย้ยหยัน
อำนาจล้นฟ้า แก้ปัญหาหวยแพงไม่ได้ นับประสาอะไรจะฝันถึงการปฏิรูปประเทศ
นี่คือเหตุผลหลักที่เลือกใช้ “เสธ.แดง” เข้ามาประกบ ถือดาบมาตรา 44 ลุยกัน
แบบถึงลูกถึงคน
หวังผลได้ในเวลาสั้นๆ
เช่นเดียวกับก่อนหน้านั้น พล.ต.อภิรัชต์ก็ถูกส่งเข้าไปนั่งเป็นประธาน
ที่ปรึกษาใหญ่ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(สสว.) หน่วยงานที่ พล.อ.ประยุทธ์กระโดดมานั่งเป็นประธานบอร์ด
ด้วยตัวเอง ตั้งแต่หลังการยึดอำนาจการปกครอง
พร้อมสั่งยกเครื่อง ปรับโครงสร้างและวิธีการทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อให้
สสว.เป็นเครื่องมือในการเดินยุทธศาสตร์ส่งเสริมเอสเอ็มอี
ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ไม่ใช่แหล่งหาเงินหา
ทองของนักการเมือง
เห็นได้เลยว่า มือทุบยี่ห้อ “เสธ.แดง” ถูกวางในจุดที่พล.อ.ประยุทธ์
หมายมั่นปั้นมือปั่นผลงานโบแดง
ประกอบยุทธศาสตร์ใช้ความแรงของ “มาตรา 44” เพื่อปั่นผลงาน
กู้ฟอร์มบริหารของรัฐบาลท็อปบูต
โชว์ด้านบวกของอำนาจพิเศษที่ส่งผลดีในการปฏิรูป.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/content/496888
แปะข่าวนี้ เอาใจคุณ "มัสแตง" ผู้ชื่นชอบรัฐบาลนี้ค่ะ ...
เมื่อ "ไทยรัฐ" ...อวย... สุด..สุด ... พิสูจน์อำนาจพิเศษ .../sao..เหลือ..noi
“สถานการณ์รัฐธรรมนูญ” ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
“โมเดลแรก” จะแก้หรือไม่แก้ ยังเดาทางยี่ห้อ “ด็อกเตอร์ปื๊ด”
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้
แต่ตอนนี้กระแสข้ามช็อตไปถึงประชามติแล้ว
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มรัฐบาลทหาร คสช.ก็ไม่ได้เร่งเกมตามกระแสรัฐธรรมนูญเท่าไหร่
แต่เน้นไปที่การคุมสถานการณ์ด้านความมั่นคงไว้ก่อน
ตามปมเล็กๆที่มาจากเรื่องใหญ่ กรณี “จดหมายน้อย” ทำให้ “บิ๊กจิ๋ว”
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ อดีต ผบ.ทบ.ต้องหอบเมีย
จูงหมาออกจากคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะขัดอกขัดใจกับ
เจ้าของห้อง
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “ลูกเอ๊ะ” พล.ท.เชวงศักดิ์ ทองสลวย
นายทหารฝ่าย เสธ.คู่ใจ ตามท้องเรื่องที่ลูกน้องคนสนิท
เตือนแล้วไม่ฟัง ยังไปเคลื่อนไหวกับแกนนำเสื้อแดง นปช.
ทำให้โดนฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาล คสช.ล็อกเป้าความเคลื่อนไหว
และก็เป็นอะไรที่โยงกับการปิดสถานีโทรทัศน์พีซทีวีของกลุ่มเสื้อแดง นปช.
จอดำตามมติของ กสท ล้อกับคำสั่ง คสช.ที่ห้ามแกนนำพรรคเพื่อไทย
อย่างนายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายภูมิธรรม
เวชยชัย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เดินทางออกนอกประเทศ ฐานวิพากษ์
วิจารณ์การเมือง เศรษฐกิจ มีผลต่อความมั่นคง
รัฐบาลทหาร คสช.สกัดไฟแต่ต้นลม บล็อกตั้งแต่เครือข่าย “ทักษิณ” เริ่มขยับ
ขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นถึงการลุยทำงานเชิงรุก ด้วยอำนาจพิเศษของดาบมาตรา 44 กับปฏิบัติการลุยล้างขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาที่ชายแดนไทย–มาเลเซีย ที่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. สั่งการเข้ม ให้ระดมทุก
หน่วยลงปฏิบัติการและทำงานด้านข่าว พร้อมงัดมาตรา 44 เดินหน้าทุกรูปแบบ
เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นจากประเทศไทย
ตามคิวที่หัวแถวทหารตำรวจ ทั้ง “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.
และ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.บินลงพื้นที่ไปติดตาม
สั่งการด้วยตัวเอง
เทกแอ็กชั่น โชว์ความเอาจริงเอาจัง
แน่นอนมันก็น่าจะส่งผลโยงกับการกู้สถานการณ์ใบเหลืองของ
สหภาพยุโรป (อียู) ที่ขู่แบนสินค้าประมงไทย จากปมการค้ามนุษย์
ที่ส่วนใหญ่ถูกส่งไปเป็นแรงงานประมง
ซึ่งก็ตรงกับจังหวะที่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกฯ
เปิดเผยว่า กรมประมงได้รายงานในวันที่ 10–22 พฤษภาคมนี้ คณะทำงาน
ของอียูจะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูความคืบหน้าและ
ให้คำแนะนำกรณีการแก้ปัญหาประมง ก่อนที่ผู้บริหารระดับสูงจะมาติดตาม
ความคืบหน้าต่อไป
เป็นการสะท้อนว่าไทยเดินมาถูกทาง ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการ
แก้ไขปัญหาภาคประมงของไทย
และที่ฮือฮาเป็นไฮไลต์ในรอบสัปดาห์ กับการส่งมือ “ทุบ” อย่าง “เสธ.แดง”
พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าไปนั่งเป็นประธานบอร์ด
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
โยนธงให้ลุยล้างบางมาเฟีย แก้ไขปัญหาหวยรัฐราคาแพง
ตามเดิมพันที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศตั้งแต่หลังยึดอำนาจ ต้องทำให้ลอตเตอรี่
เหลือใบละ 80 บาทให้ได้ แต่ผ่านไปเกือบปีก็ยังคาราคาซัง จนรัฐบาลทหาร
โดนเสียงเย้ยหยัน
อำนาจล้นฟ้า แก้ปัญหาหวยแพงไม่ได้ นับประสาอะไรจะฝันถึงการปฏิรูปประเทศ
นี่คือเหตุผลหลักที่เลือกใช้ “เสธ.แดง” เข้ามาประกบ ถือดาบมาตรา 44 ลุยกัน
แบบถึงลูกถึงคน
หวังผลได้ในเวลาสั้นๆ
เช่นเดียวกับก่อนหน้านั้น พล.ต.อภิรัชต์ก็ถูกส่งเข้าไปนั่งเป็นประธาน
ที่ปรึกษาใหญ่ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(สสว.) หน่วยงานที่ พล.อ.ประยุทธ์กระโดดมานั่งเป็นประธานบอร์ด
ด้วยตัวเอง ตั้งแต่หลังการยึดอำนาจการปกครอง
พร้อมสั่งยกเครื่อง ปรับโครงสร้างและวิธีการทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อให้
สสว.เป็นเครื่องมือในการเดินยุทธศาสตร์ส่งเสริมเอสเอ็มอี
ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ไม่ใช่แหล่งหาเงินหา
ทองของนักการเมือง
เห็นได้เลยว่า มือทุบยี่ห้อ “เสธ.แดง” ถูกวางในจุดที่พล.อ.ประยุทธ์
หมายมั่นปั้นมือปั่นผลงานโบแดง
ประกอบยุทธศาสตร์ใช้ความแรงของ “มาตรา 44” เพื่อปั่นผลงาน
กู้ฟอร์มบริหารของรัฐบาลท็อปบูต
โชว์ด้านบวกของอำนาจพิเศษที่ส่งผลดีในการปฏิรูป.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/content/496888
แปะข่าวนี้ เอาใจคุณ "มัสแตง" ผู้ชื่นชอบรัฐบาลนี้ค่ะ ...