เราไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรนะ เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง แต่จะไม่แชร์ก็ไม่ได้ เพราะหลังจากเหตุการณ์นั้น เราเข้ากูเกิ้ล หาข้อมูลของการเสียชีวิตของนักดำน้ำ มันทำให้คิดได้ว่า ถ้าเราได้อ่านข่าว หรือบทความเหล่านั้นก่อนไปดำน้ำ มันจะช่วยให้เราระมัดระวังตัวเองมากขึ้น เตรียมพร้อมมากขึ้น
เราไปดำน้ำครั้งแรกที่เกาะหลีเป๊ะ ทีแรกก็กลัวมากๆ กลัวขนาดว่าเปลี่ยนใจในวินาทีที่ต้องกระโดดลงจากเรือ จน dive master ต้องปลอบใจอยู่นาน ถึงยอมกระโดด มีการสอนสกิลเบื้องต้นประมาณ 5 นาที แล้วก็ดำน้ำกันเลย ดำน้ำครั้งแรก ผ่านไปด้วยดี เพราะ dive master คอยช่วยทุกอย่าง เค้ามืออาชีพมากๆ และดูแลเราดีมาก
เราเริ่มชอบการดำน้ำ และอยากเรียนจริงๆ จังๆ หลังจากทริปนั้น เราก็สมัครเรียนดำน้ำที่ภูเก็ต หลักสูตร open water เราขอที่ร้านไปว่า ขอครูสอนดำน้ำที่เป็นคนไทย เพราะเราไม่อยากพลาดในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ปลีกย่อย เพราะมันหมายถึงชีวิตของเรา ตอนดำน้ำที่หลีเป๊ะ dive master เก่งก็จริงแต่เค้าพูดภาษาอังกฤษ เราเข้าใจประมาณ 80% ซึ่งมันไม่พอและมันไม่ฉลาดเลยที่เราไปดำน้ำครั้งแรกโดยที่ไม่ได้เข้าเรียนในคลาสก่อน
ตอนไปเรียนเราบอกที่โรงเรียนไปว่า เราอยากเรียนจริงจังนะ ถ้าผ่าน open water แล้วเราต้องทำอะไรต่อ เค้าเลยแนะนำว่า เรียน advance ต่อเลยก็ได้ เพราะถ้าซื้อเป็น package จะได้ในราคาที่ถูกกว่า เราก็ตกลง ซื้อเลย เรียนในคลาส 1 วัน ออกทะเล 4 วัน 12 ไดว์
เราได้ Instructor เป็นคนไทย ซึ่งเค้ามีประสบการณ์ และสอนเราดีมาก ตลอดคอร์สเราดำน้ำกับนักดำน้ำชาวจีนอีกคนที่กำลังเรียนระดับ rescue ซึ่งเค้านิสัยดี และคอยสอนเราอีกคน พอเราจบ advance พอดีเพื่อนเราอยากไป snorkeling ที่สิมิลัน เราเลยอยากไปดำน้ำด้วย ก็ตกลงไปวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ค้างคืน 1 คืนบนเรือ ซึ่งเราจะได้ดำน้ำ 7 ไดว์ ดำกลางวัน 6 ไดว์ ดำกลางคืน 1 ไดว์ ไม่ขอลงรายละเอียดละกันว่าบริษัทอะไร เพราะไม่ต้องการให้ใครเสียหายต่อเหตุการณ์นี้ แค่อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะไปดำน้ำหรือแม้แต่ dive master หรือ instructor ให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำน้ำ
ก่อนการดำน้ำไดว์แรก จะมีเอกสารให้กรอก ว่าเราเป็นนักดำน้ำระดับไหน เราบอกไปว่า "advance แต่มีแค่ 12 ไดว์ เพราะเรียนต่อจาก open water มาเลย" และเราได้ย้ำไปด้วยว่า "ยังไม่เก่งนะ ในเรื่องการลอยตัว ช่วยดูแลด้วย" คือที่เราออกตัวแบบนี้คือ อยากให้ดูแลเรา อย่าปล่อยเราเพียงเพราะเราเป็น advance
ก่อนดำน้ำ เราก็เช็คอุปกรณ์ตามที่ครูเราสอนมา ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็ลงน้ำปกติ แต่พอเริ่มหายใจในน้ำ ใน เร็คกูเลเตอร์ มีน้ำเข้านิดๆ เราคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะตอนเรียนก็เคยมีปัญหาแบบนี้ เราก็แค่เคลียร์น้ำออกปกติ และคิดว่าจบไดว์นี้จะขอเปลี่ยนเร็คกูเลเตอร์อันใหม่ แต่สิ่งที่เรากังวลคือ เราดำน้ำตามหลัง dive master และ บัดดี้ คือพวกเค้าไม่เคยหันมามองเราเลย เค้าทั้งสองคนมัวแต่ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ
ดำไปประมาณ 20 นาที ผ่านความลึกไป 20 เมตรแล้ว เริ่มไต่ความตื้น จนถึงตอนนี้ไม่มีปัญหา แต่เราไม่สบายใจคือ เราว่ายตาม dive master และบัดดี้ เราก็เลยว่ายไปข้างหน้าในลักษณะเยื้อง ระยะใกล้ๆ เพราะอยากให้เค้าเห็นเรา ไม่อยากถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลังคนเดียว dive master ส่งสัญญาณให้เราช้าๆ และตามหลังเค้า เราก็โอเค พอเค้าสองคนหันหลังไปต่อ เราว่ายตาม น้ำก็เริ่มเข้าเร็คกูเลเตอร์มากขึ้นอีกนิด เราพยายามว่ายตาม dive master เพื่อบอกถึงปัญหา ถึงจะเหลือเวลาดำน้ำอีกแค่ 10 กว่านาที ตอนนี้น้ำเข้ามาแบบเต็มเลย เราเคลียร์ออกได้ พอหายใจน้ำก็เข้ามาเต็มเหมือนเดิม เราจึงเปลี่ยนไปใช้ท่อหายใจสำรอง ในขณะที่เราเริ่มมีปัญหา dive master กับ บัดดี้ ก็เริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการหันกลับมามอง เราใช้ท่อหายใจสำรองได้แป้บนึง และพยายามว่ายตามพวกเค้า น้ำก็เริ่มเข้ามา และมากขึ้นเรื่อยๆ เราพยายามเคลียร์น้ำและว่ายตาม น้ำก็ยิ่งเข้ามามากจนหายใจไม่ได้ ตรงนี้เรานึกถึงอุปกรณ์ที่ใช้เคาะกับแท็งค์เวลาอยู่ใต้น้ำเพื่อส่งเสียง ถ้าเรามีอุปกรณ์นั้น ชีวิตเราคงไม่เสี่ยงตายแบบนี้ ก่อนหน้านี้เราคิดว่าไม่จำเป็น เพราะตอนดำกับครูกับบัดดี้ที่ภูเก็ต เค้าจะเห็นเราเสมอ เราจึงคิดว่าไม่จำเป็นซึ่งเป็นความคิดที่ผิดและโง่มาก เราเกือบต้องตายเพราะความคิดนี้
พอถึงตอนนี้เราหายใจไม่ได้แล้ว เกิด panic แล้ว ทุรนทุรายแล้ว ตาเหลือก เวียนหัวมองอะไรไม่ชัดแล้ว เริ่มคายท่อเริ่มหายใจ พอคิดได้ว่าถ้าเอาออกก็ต้องตาย ก็เอาใส่ใหม่ ก็หายใจไม่ได้ เอาเข้าแล้วก็คายออกอยู่อย่างนั้น ทุกอย่างสับสน เราคิดว่าเรากำลังจะหมดสติ แต่ยังมีสติอันน้อยนิด จับท่อหายใจสำรองใส่ปากอีกครั้ง เคลียร์น้ำออก หายใจเข้าเอาอากาศอันน้อยนิดที่แทบจะไม่มีเลย พยายามขึ้นสู่ผิวน้ำ พยายามขึ้นแบบช้าๆ แต่ก็ยังเร็วไปอยู่ดี แต่เราต้องเสี่ยง ไม่งั้นก็ต้องจมน้ำตาย เราขึ้นสู่ผิวน้ำได้ทันก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง ด้วยอาการแบบเจ็บภายใน ตะโกนขอความช่วยเหลือ จากเรือที่อยู่ใกล้ที่สุด ลอยตัวรอเรือมารับ
5 นาทีหลังจากนั้น dive master กับบัดดี้ ตามขึ้นมาที่ผิวน้ำ ถามเราว่า "พี่เป็นอะไร" เราบอกเร็คกูเลเตอร์มันเสีย เค้าก็ดึงไปดู ไปส่อง "ไหน ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ไม่เห็นมีอะไรฉีกเสียหาย" เราก็เลยบอก ก็ลองเอาไปดำน้ำดู มันหายใจไม่ได้เลย น้ำเข้าเต็มไปหมด เค้าก็ถามอีก "แล้วก่อนลงน้ำพี่ไม่ได้เช็คหรอ" เราบอก เช็คแล้วบนเรือ ไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นเค้าก็บอก "พี่รู้ไหม พี่เรียกเรือผิดลำ" เราเลยบอก "คนกำลังจะตาย ใครจะไปสนว่าเรือลำไหน"
พอขึ้นมาบนเรือ ได้ยินเสียงคนนึงพูด "ไม่มีอะไรหรอก ตกใจไปเอง" คือเราขึ้นมาแบบไม่โวยวายเลยนะ เค้าถาม เราก็ตอบสิ่งที่เกิดขึ้น คือไม่ยอมรับผิดเลย ที่เอาเครื่องมือเสียมาให้เราใช้ ไม่ยอมรับผิดเลยที่ปล่อยเราว่ายคนเดียวตามหลังโดยไม่มีการหันกลับมามอง มัวแต่ถ่ายวิดีโอ มัวแต่ไปดูแลบัดดี้เราที่เป็นฝรั่ง อยากได้ทิปล่ะสิ รู้หรอก ระบบบัดดี้ก็ห่วยแตก มัวแต่ถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูป ไม่ได้สนใจใครเลย คือเราว่ายตามพวกเค้าตลอดนะ จนตามไปไม่ทันเพราะท่อหายใจมีปัญหา ไหนจะเคลียร์น้ำออกน้ำเข้า เพื่อนเราบอก กลับเถอะ ดำกับคนที่ไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้ แต่เราบอกว่า มีเวลาอีกชั่วโมงกว่าจะถึงไดว์ต่อไป ถ้าเรายังเจ็บข้างในอยู่เราก็จะยกเลิก แต่ถ้าไม่เป็นไรเราก็ดำต่อ เปลี่ยนเร็คกูเลเตอร์แล้วคงไม่มีปัญหา เราก็ดำต่อนะ ใครจะว่าบ้าว่าโง่ก็แล้วแต่ เรามีสปิริตนะ แค่นี้ไม่ได้ทำให้เรากลัว เราอยากแสดงให้เห็นว่าปัญหามันมาจากเครื่องมือของเขา ไม่ใช่เกิดจากเรา พอเปลี่ยนเครื่องมือแล้วก็ไม่มีปัญหา ก่อนดำไดว์ต่อไปเรากำชับ dive master คอยอยู่ใกล้ๆ หน่อย คอยมองหน่อย เค้าก็โอเคๆ พี่ก็อย่าไปไวนัก เออ..เราก็ผิดอยู่ดี ไม่ดำนำหน้าก็ต้องดำตามหลังแล้วแบบไม่เคยหันมามอง ไม่รอ แต่ไม่อยากพูดอะไร เพราะต้องดำด้วยกันอีก 6 ไดว์ ส่วนอั้ยบัดดี้ก็ปล่อยมันถ่ายรูป ปะการังของมันไป ไม่รู้มันจบมาจากโรงเรียนไหน เค้าไม่ได้สอนระบบบัดดี้หรือไง หรือแม้แต่ dive master เสียเงินจ้างมาเพื่อ..ถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูป ของตัวเอง ไม่ดูแลลูกค้า พอเกิดปัญหาโยนความผิดให้ลูกค้าอีกต่างหาก
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทหารณ์สำหรับเพื่อนๆ นักดำน้ำ อุปกรณ์ในการดำน้ำที่เราคิดว่าไม่จำเป็น มีไว้เถอะค่ะ อย่าคิดได้ในขณะที่เกือบจะสายเกินไปเหมือนเรา เวลาเกิดปัญหา สติค่ะ สำคัญที่สุด เราเองก็หลุดไปแล้วนะ เหตุผลเดียวที่รอดมาได้ในเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ...น้ำไม่ลึกมาก โชคดีที่ปัญหาเกิดตอนกำลังไต่ระดับความตื้น ไม่งั้นคงเกิด decompression sickness ตอนพยายามขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่กระนั้นก็ยังเจ็บภายในเลย ถ้าน้ำลึกว่านี้สักหน่อย คงจะตายไปแล้ว
ระบบบัดดี้ คุณไปดำน้ำ ดูปะการัง ถ่ายรูป วิดีโอก็จริง แต่ควรมองบัดดี้ของคุณด้วย ไม่งั้นระบบบัดดี้จะมีเพื่ออะไร
ฝากถึง dive master และ instructor อย่าลืมว่าหน้าที่ของคุณคืออะไร คุณลงไปดำน้ำกับลูกค้าเพื่ออะไร จากเหตุการณ์ครั้งนี้เรายังสงสัยอยู่ทุกวันนี้ ว่าวันนั้น dive master ดำลงไปกับเราเพื่ออะไร อ้อ..ลงไปถ่ายวิดีโอ เราลืมไป
ขอโทษนะคะ ถ้าแท็กผิดหรืออะไร ไม่ค่อยได้โพสต์ค่ะ
ประสบการณ์เฉียดตายจากการดำน้ำ
เราไปดำน้ำครั้งแรกที่เกาะหลีเป๊ะ ทีแรกก็กลัวมากๆ กลัวขนาดว่าเปลี่ยนใจในวินาทีที่ต้องกระโดดลงจากเรือ จน dive master ต้องปลอบใจอยู่นาน ถึงยอมกระโดด มีการสอนสกิลเบื้องต้นประมาณ 5 นาที แล้วก็ดำน้ำกันเลย ดำน้ำครั้งแรก ผ่านไปด้วยดี เพราะ dive master คอยช่วยทุกอย่าง เค้ามืออาชีพมากๆ และดูแลเราดีมาก
เราเริ่มชอบการดำน้ำ และอยากเรียนจริงๆ จังๆ หลังจากทริปนั้น เราก็สมัครเรียนดำน้ำที่ภูเก็ต หลักสูตร open water เราขอที่ร้านไปว่า ขอครูสอนดำน้ำที่เป็นคนไทย เพราะเราไม่อยากพลาดในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ปลีกย่อย เพราะมันหมายถึงชีวิตของเรา ตอนดำน้ำที่หลีเป๊ะ dive master เก่งก็จริงแต่เค้าพูดภาษาอังกฤษ เราเข้าใจประมาณ 80% ซึ่งมันไม่พอและมันไม่ฉลาดเลยที่เราไปดำน้ำครั้งแรกโดยที่ไม่ได้เข้าเรียนในคลาสก่อน
ตอนไปเรียนเราบอกที่โรงเรียนไปว่า เราอยากเรียนจริงจังนะ ถ้าผ่าน open water แล้วเราต้องทำอะไรต่อ เค้าเลยแนะนำว่า เรียน advance ต่อเลยก็ได้ เพราะถ้าซื้อเป็น package จะได้ในราคาที่ถูกกว่า เราก็ตกลง ซื้อเลย เรียนในคลาส 1 วัน ออกทะเล 4 วัน 12 ไดว์
เราได้ Instructor เป็นคนไทย ซึ่งเค้ามีประสบการณ์ และสอนเราดีมาก ตลอดคอร์สเราดำน้ำกับนักดำน้ำชาวจีนอีกคนที่กำลังเรียนระดับ rescue ซึ่งเค้านิสัยดี และคอยสอนเราอีกคน พอเราจบ advance พอดีเพื่อนเราอยากไป snorkeling ที่สิมิลัน เราเลยอยากไปดำน้ำด้วย ก็ตกลงไปวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ค้างคืน 1 คืนบนเรือ ซึ่งเราจะได้ดำน้ำ 7 ไดว์ ดำกลางวัน 6 ไดว์ ดำกลางคืน 1 ไดว์ ไม่ขอลงรายละเอียดละกันว่าบริษัทอะไร เพราะไม่ต้องการให้ใครเสียหายต่อเหตุการณ์นี้ แค่อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะไปดำน้ำหรือแม้แต่ dive master หรือ instructor ให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำน้ำ
ก่อนการดำน้ำไดว์แรก จะมีเอกสารให้กรอก ว่าเราเป็นนักดำน้ำระดับไหน เราบอกไปว่า "advance แต่มีแค่ 12 ไดว์ เพราะเรียนต่อจาก open water มาเลย" และเราได้ย้ำไปด้วยว่า "ยังไม่เก่งนะ ในเรื่องการลอยตัว ช่วยดูแลด้วย" คือที่เราออกตัวแบบนี้คือ อยากให้ดูแลเรา อย่าปล่อยเราเพียงเพราะเราเป็น advance
ก่อนดำน้ำ เราก็เช็คอุปกรณ์ตามที่ครูเราสอนมา ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็ลงน้ำปกติ แต่พอเริ่มหายใจในน้ำ ใน เร็คกูเลเตอร์ มีน้ำเข้านิดๆ เราคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะตอนเรียนก็เคยมีปัญหาแบบนี้ เราก็แค่เคลียร์น้ำออกปกติ และคิดว่าจบไดว์นี้จะขอเปลี่ยนเร็คกูเลเตอร์อันใหม่ แต่สิ่งที่เรากังวลคือ เราดำน้ำตามหลัง dive master และ บัดดี้ คือพวกเค้าไม่เคยหันมามองเราเลย เค้าทั้งสองคนมัวแต่ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ
ดำไปประมาณ 20 นาที ผ่านความลึกไป 20 เมตรแล้ว เริ่มไต่ความตื้น จนถึงตอนนี้ไม่มีปัญหา แต่เราไม่สบายใจคือ เราว่ายตาม dive master และบัดดี้ เราก็เลยว่ายไปข้างหน้าในลักษณะเยื้อง ระยะใกล้ๆ เพราะอยากให้เค้าเห็นเรา ไม่อยากถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลังคนเดียว dive master ส่งสัญญาณให้เราช้าๆ และตามหลังเค้า เราก็โอเค พอเค้าสองคนหันหลังไปต่อ เราว่ายตาม น้ำก็เริ่มเข้าเร็คกูเลเตอร์มากขึ้นอีกนิด เราพยายามว่ายตาม dive master เพื่อบอกถึงปัญหา ถึงจะเหลือเวลาดำน้ำอีกแค่ 10 กว่านาที ตอนนี้น้ำเข้ามาแบบเต็มเลย เราเคลียร์ออกได้ พอหายใจน้ำก็เข้ามาเต็มเหมือนเดิม เราจึงเปลี่ยนไปใช้ท่อหายใจสำรอง ในขณะที่เราเริ่มมีปัญหา dive master กับ บัดดี้ ก็เริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการหันกลับมามอง เราใช้ท่อหายใจสำรองได้แป้บนึง และพยายามว่ายตามพวกเค้า น้ำก็เริ่มเข้ามา และมากขึ้นเรื่อยๆ เราพยายามเคลียร์น้ำและว่ายตาม น้ำก็ยิ่งเข้ามามากจนหายใจไม่ได้ ตรงนี้เรานึกถึงอุปกรณ์ที่ใช้เคาะกับแท็งค์เวลาอยู่ใต้น้ำเพื่อส่งเสียง ถ้าเรามีอุปกรณ์นั้น ชีวิตเราคงไม่เสี่ยงตายแบบนี้ ก่อนหน้านี้เราคิดว่าไม่จำเป็น เพราะตอนดำกับครูกับบัดดี้ที่ภูเก็ต เค้าจะเห็นเราเสมอ เราจึงคิดว่าไม่จำเป็นซึ่งเป็นความคิดที่ผิดและโง่มาก เราเกือบต้องตายเพราะความคิดนี้
พอถึงตอนนี้เราหายใจไม่ได้แล้ว เกิด panic แล้ว ทุรนทุรายแล้ว ตาเหลือก เวียนหัวมองอะไรไม่ชัดแล้ว เริ่มคายท่อเริ่มหายใจ พอคิดได้ว่าถ้าเอาออกก็ต้องตาย ก็เอาใส่ใหม่ ก็หายใจไม่ได้ เอาเข้าแล้วก็คายออกอยู่อย่างนั้น ทุกอย่างสับสน เราคิดว่าเรากำลังจะหมดสติ แต่ยังมีสติอันน้อยนิด จับท่อหายใจสำรองใส่ปากอีกครั้ง เคลียร์น้ำออก หายใจเข้าเอาอากาศอันน้อยนิดที่แทบจะไม่มีเลย พยายามขึ้นสู่ผิวน้ำ พยายามขึ้นแบบช้าๆ แต่ก็ยังเร็วไปอยู่ดี แต่เราต้องเสี่ยง ไม่งั้นก็ต้องจมน้ำตาย เราขึ้นสู่ผิวน้ำได้ทันก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลง ด้วยอาการแบบเจ็บภายใน ตะโกนขอความช่วยเหลือ จากเรือที่อยู่ใกล้ที่สุด ลอยตัวรอเรือมารับ
5 นาทีหลังจากนั้น dive master กับบัดดี้ ตามขึ้นมาที่ผิวน้ำ ถามเราว่า "พี่เป็นอะไร" เราบอกเร็คกูเลเตอร์มันเสีย เค้าก็ดึงไปดู ไปส่อง "ไหน ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ไม่เห็นมีอะไรฉีกเสียหาย" เราก็เลยบอก ก็ลองเอาไปดำน้ำดู มันหายใจไม่ได้เลย น้ำเข้าเต็มไปหมด เค้าก็ถามอีก "แล้วก่อนลงน้ำพี่ไม่ได้เช็คหรอ" เราบอก เช็คแล้วบนเรือ ไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นเค้าก็บอก "พี่รู้ไหม พี่เรียกเรือผิดลำ" เราเลยบอก "คนกำลังจะตาย ใครจะไปสนว่าเรือลำไหน"
พอขึ้นมาบนเรือ ได้ยินเสียงคนนึงพูด "ไม่มีอะไรหรอก ตกใจไปเอง" คือเราขึ้นมาแบบไม่โวยวายเลยนะ เค้าถาม เราก็ตอบสิ่งที่เกิดขึ้น คือไม่ยอมรับผิดเลย ที่เอาเครื่องมือเสียมาให้เราใช้ ไม่ยอมรับผิดเลยที่ปล่อยเราว่ายคนเดียวตามหลังโดยไม่มีการหันกลับมามอง มัวแต่ถ่ายวิดีโอ มัวแต่ไปดูแลบัดดี้เราที่เป็นฝรั่ง อยากได้ทิปล่ะสิ รู้หรอก ระบบบัดดี้ก็ห่วยแตก มัวแต่ถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูป ไม่ได้สนใจใครเลย คือเราว่ายตามพวกเค้าตลอดนะ จนตามไปไม่ทันเพราะท่อหายใจมีปัญหา ไหนจะเคลียร์น้ำออกน้ำเข้า เพื่อนเราบอก กลับเถอะ ดำกับคนที่ไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้ แต่เราบอกว่า มีเวลาอีกชั่วโมงกว่าจะถึงไดว์ต่อไป ถ้าเรายังเจ็บข้างในอยู่เราก็จะยกเลิก แต่ถ้าไม่เป็นไรเราก็ดำต่อ เปลี่ยนเร็คกูเลเตอร์แล้วคงไม่มีปัญหา เราก็ดำต่อนะ ใครจะว่าบ้าว่าโง่ก็แล้วแต่ เรามีสปิริตนะ แค่นี้ไม่ได้ทำให้เรากลัว เราอยากแสดงให้เห็นว่าปัญหามันมาจากเครื่องมือของเขา ไม่ใช่เกิดจากเรา พอเปลี่ยนเครื่องมือแล้วก็ไม่มีปัญหา ก่อนดำไดว์ต่อไปเรากำชับ dive master คอยอยู่ใกล้ๆ หน่อย คอยมองหน่อย เค้าก็โอเคๆ พี่ก็อย่าไปไวนัก เออ..เราก็ผิดอยู่ดี ไม่ดำนำหน้าก็ต้องดำตามหลังแล้วแบบไม่เคยหันมามอง ไม่รอ แต่ไม่อยากพูดอะไร เพราะต้องดำด้วยกันอีก 6 ไดว์ ส่วนอั้ยบัดดี้ก็ปล่อยมันถ่ายรูป ปะการังของมันไป ไม่รู้มันจบมาจากโรงเรียนไหน เค้าไม่ได้สอนระบบบัดดี้หรือไง หรือแม้แต่ dive master เสียเงินจ้างมาเพื่อ..ถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูป ของตัวเอง ไม่ดูแลลูกค้า พอเกิดปัญหาโยนความผิดให้ลูกค้าอีกต่างหาก
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทหารณ์สำหรับเพื่อนๆ นักดำน้ำ อุปกรณ์ในการดำน้ำที่เราคิดว่าไม่จำเป็น มีไว้เถอะค่ะ อย่าคิดได้ในขณะที่เกือบจะสายเกินไปเหมือนเรา เวลาเกิดปัญหา สติค่ะ สำคัญที่สุด เราเองก็หลุดไปแล้วนะ เหตุผลเดียวที่รอดมาได้ในเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ...น้ำไม่ลึกมาก โชคดีที่ปัญหาเกิดตอนกำลังไต่ระดับความตื้น ไม่งั้นคงเกิด decompression sickness ตอนพยายามขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่กระนั้นก็ยังเจ็บภายในเลย ถ้าน้ำลึกว่านี้สักหน่อย คงจะตายไปแล้ว
ระบบบัดดี้ คุณไปดำน้ำ ดูปะการัง ถ่ายรูป วิดีโอก็จริง แต่ควรมองบัดดี้ของคุณด้วย ไม่งั้นระบบบัดดี้จะมีเพื่ออะไร
ฝากถึง dive master และ instructor อย่าลืมว่าหน้าที่ของคุณคืออะไร คุณลงไปดำน้ำกับลูกค้าเพื่ออะไร จากเหตุการณ์ครั้งนี้เรายังสงสัยอยู่ทุกวันนี้ ว่าวันนั้น dive master ดำลงไปกับเราเพื่ออะไร อ้อ..ลงไปถ่ายวิดีโอ เราลืมไป
ขอโทษนะคะ ถ้าแท็กผิดหรืออะไร ไม่ค่อยได้โพสต์ค่ะ