เจอทุเรียนอ่อน ทำอย่างไร แจ้งความอย่างไรดี

เจอทุเรียนอ่อน ทำอย่างไร แจ้งความอย่างไรดี

สวัสดีค่ะ หลายๆคนคงเห็นข่าวในโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และข่าวออนไลน์ตามเวปไซต์ต่างๆ เรื่อง 2 ผัวเมียที่นำเอาทุเรียนอ่อนเข้าแจ้งความที่ จ.จันทบุรี เราได้อ่านคอมเม้นต์ในเฟสบุคตามเพจต่างๆแล้วพบว่าส่วนมากจะบอกว่า ดีๆเข้าให้เข็ด, เจอเหมือนกัน, ตรงนี้ก็มีมาจับหน่อย, โง่จริงๆทำไมไม่รู้จักเลือกฯ มีการพบทุเรียนอ่อนกันทั่วไทยเลยค่ะไม่เฉพาะแต่ในจ.จันทบุรี วันนี้เราเลยจะขอเล่าเรื่องราวของเราซึ่งเข้าแจ้งความเพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง และแนะนำว่าเจอทุเรียนอ่อนควรทำอย่างไร เพื่อให้เกิดการพัฒนาผลไม้ไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

เรื่องเริ่มจากเราและครอบครัวอาศัยอยู่ที่ จ.จันทบุรี สามีรับราชการและมีคำสั่งย้ายไปที่จังหวัดได้ 2 ปีกว่าๆ ปิดเทอมเราได้พาลูกมาอยู่กับตายายที่จ.สระบุรี และในวันเสาร์ ที่ 26 เม.ย สามีได้เดินทางมาจากจ.จันทบุรีเพื่อมารับลูกเมียกลับ โดยได้ซื้อทุเรียนจากร้านทุเรียนข้างทางเพื่อนำมาฝากพ่อแม่เรา (เวลาปประมาณเที่ยง) จำนวน 1 ลูก ราคาก.ก.ละ 100 บาท รวม 450 บาท โดยสามีเราได้บอกพ่อค้าทุเรียนว่า "ผมดูไม่เป็นเลย เลือกให้หน่อย จะเอาที่กินเย็นนี้" พ่อค้าทุเรียนก็เคาะทุเรียน แล้วบอกลูกนี้กินได้สามีเราบอก"แกะไม่เป็นนะ ช่วยกรีดพลูให้หน่อย ขอดูเนื้อด้วย" พ่อค้าทุเรียนได้บ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่า"ถ้าดูเนื้อ อากาศจะเข้าและทำให้ทุเรียนเสีย"สามีเราก็เชื่อค่ะ (บอกแล้วว่าดูทุเรียนไม่เป็นจริงๆ เชื่อพ่อค้าหมด) หลังจากมาถึงบ้าน ช่วงประมาณ 1 ทุ่ม เราได้แกะทุเรียนแล้วพบว่ามันอ่อนมาก

เราฉุนมาก หงุดหงิด เสียหน้าด้วยเพราะตั้งใจจะให้พ่อแม่ได้กินผลไม้มีชื่อของจังหวัดจันทบุรี เราเลยโพสรูปและข้อความลงในกลุ่มชื่อจังหวัดทางเฟสบุค เพื่อหาเจ้าของร้านให้มาแสดงความรับผิดชอบ มีการลงพิกัดร้านชัดเจน เนื่องจากเราเชื่อว่าร้านหรือคนที่รู้จักเจ้าของร้านจะต้องเล่นเฟสบุคและอยู่ในกลุ่มนี้แน่นอน โพสของเรามีคอมเม้นต์ในกลุ่มมากมายภายในคืนเดียว ไม่มีใครออกมารับว่าเป็นเจ้าของร้านในพิกัดที่เราได้แจ้งแต่อย่างใด คอมเม้นท์วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับทุเรียนลูกนี้เยอะมาก หลายๆท่านได้แนะนำให้เราไปแจ้งความเพื่อเอาผิดร้านทุเรียนนี้ ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาการหลอกขายทุเรียนอ่อนมีกันมายาวนาน ทำให้เสียชื่อเสียงของจังหวัดและกระทบต่อการส่งออกอีกด้วย

หลังจากไม่มีใครออกมารับผิดชอบ เราจึงเข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.มวกเหล็ก และโทรแจ้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี โดยแจ้งความประสงค์ที่จะดำเนินคดีเพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างแก่พ่อค้า แม่ค้าที่มักง่าย มีเจตนาคดโกง นำทุเรียนไม่ดีมาหลอกขายนักท่องเที่ยว ซึ่งทางนั้นได้รับเรื่อง นำเรียนท่านเกษตรจังหวัด ท่านอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร และท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านสามารถ ลอยฟ้า แม้จะเป็นเพียงทุเรียนลูกเดียวแต่ท่านทั้งสองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากรับเรื่องไปท่านก็ได้ประสานงานกับทางสถานีตำรวจให้เรา และเมื่อเราเดินทางกลับมาถึง จ.จันทบุรีในตอนบ่ายวันอังคารที่ 29 เม.ย.ก็เข้าแจ้งความที่ สภ.จันทบุรี (การหอบทุเรียน 4.5 ก.ก. ข้ามจังหวัดไปมาไม่ใช่เรื่องสนุกนะคะ แต่เราเอาจริงค่ะ ต้องทำให้พ่อค้าแม่ค้าเห็นแก่ได้เห็นเป็นตัวอย่าง) ท่านเกษตรจังหวัดได้เดินทางมารับเรื่องด้วยตนเองโดยนำจนท.ฝ่ายต่างๆมา และนักวิชาการเกษตรดูทุเรียนเราก็บอกว่าอ่อนจริงๆ โดยอ่อนถึงขั้นไม่ต้องเคาะ มองดูก็รู้เพราะหนามยังไม่ห่าง ก้นยังไม่แตก (ทุเรียนหมอนทองสุกก้นจะแตกค่ะ)

ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแม้ท่านจะติดภารกิจไม่ได้มาด้วยตนเอง แต่ท่านได้สั่งการให้ตำรวจพาเราไปชี้ร้านในทันที หลังจากไปที่ร้าน ร้านก็ยอมรับค่ะว่าเป็นคนขายทุเรียนลูกนี้จริงๆ โดยอ้างว่าเด็กที่ขายยังไม่มีความชำนาญ และบอกว่า"ทำไมไม่เข้ามาเปลี่ยนดีๆขอเปลี่ยนก็ให้เปลี่ยน" ท่านเกษตรได้ถามว่า "แล้วถ้าคนซื้อเค้าอยู่ไกล อยู่ตจว. เค้าจะมาเปลี่ยนได้อย่างไร" ทางร้านบอกว่า "วันหน้าวันหลังมาเที่ยวเมืองจันท์ก็มาบอกผม ผมขายทุกวัน เดี๋ยวผมเอาลูกใหม่ให้" T_T และเมื่อตรวจร้านก็พบว่าร้านมีทุเรียนอ่อนในปริมาณที่มากค่ะ
นอกจากนี้เรายังได้ยินคนในร้านพูด "คนนี้ไงที่โพสทุเรียนอ่อนในกลุ่มจันทบุรี" เราเลยถามไปว่า "เห็นเราโพสทำไมไม่ติดต่อกลับ" เค้าก็เงียบ

สำหรับคดีทุเรียนอ่อน ทางเจ้าหน้าที่จะมีการพิจารณาตรวจสอบปัจจัยหลายๆอย่างประกอบกันค่ะ เจตนา ความชำนาญในการขาย ปริมาณทุเรียนอ่อนที่พบในร้าน ฯ โดยความอ่อนแก่ของทุเรียนสามารถทดสอบด้วยการวัดเปอร์เซ็นต์แป้ง ทุเรียนที่เก็บตั้งแต่ยังอ่อนแม้จะบ่มนานเปอร์เซ็นต์ของแป้งก็เปลี่ยนเพียงเล็กน้อย จึงเป็นสาเหตุให้เราเห็นหลายๆคนบ่นว่าก็ทุเรียนก็เหลืองสวยดีแต่กินแล้วจืดมาก นอกจากนี้ยังมีการทำให้สุกโดยใช้น้ำยาป้ายสุก รสชาดทุเรียนจะเปรี้ยวๆชืดๆ ดังนั้นถ้าท่านไปซื้อทุเรียนที่อยู่ในถาดโฟมก็อาจจะเจอทุเรียนอ่อนได้ค่ะ

โดยใช้บทลงโทษทางกฎหมายสำหรับคดีนี้คือ 1) กฎหมายอาญามาตรา 271 ผู้ใดขายโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพ หรือปริมาณแห่งของอันเป็นเท็จนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 2) พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 ผู้ใดเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่น อันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หกเดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับคดีเราศาลได้ตัดสินเรียบร้อยแล้วนะคะ "ปรับ 3,000 บาท จำคุก 2 เดือนแต่ให้รอลงอาญา 1 ปี"

เราอยากจะบอกกับทุกๆคนว่า เมื่อท่านเจอทุเรียนอ่อน อย่าบ่นในเฟสบุคแล้วเอามันทิ้งไปเพียงอย่างเดียวค่ะ หากท่านพิจารณาดูแล้วว่าคนขายมีเจตนาหลอกลวงขายทุเรียนอ่อนท่านสามารถนำทุเรียนมาแจ้งความกับคนขายได้ (ถ้าท่านซื้อจากร้านประจำที่เค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆก็นำไปเปลี่ยนได้ค่ะ ถ้าเจตนาเค้าบริสุทธิ์ย่อมให้เปลี่ยนแน่นอน) จะมีจนท.ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามหากพบว่าเป็นการกลั่นแกล้งผู้ขายก็มีบทลงโทษผู้แจ้งด้วย

การนำทุเรียนอ่อนเข้าแจ้งความจะต้องแจ้งสน.ที่เกิดเหตุค่ะ (อย่างเราจะต้องนำกลับไปแจ้งที่จันทบุรี) ทำให้ยากลำบากค่ะ หากเราซื้อเป็นของฝากแล้วคงยากจะกลับมาเปลี่ยนเพราะมันไม่คุ้มค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา แต่ถึงอย่างไรท่านก็สามารถแจ้งเบาะแสร้านทุเรียนอ่อนที่ท่านซื้อโดยส่งจดหมายหรือโทรแจ้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดที่ท่านซื้อหรือที่สายด่วน 1567 ได้ตลอด 24 ชม.ค่ะ การบ่นแต่ในเฟสบุคไม่เกิดผลอะไรหรือการคอมเม้นท์ใต้ข่าวว่าตรงนั้นก็มีมาจับสิ ข้อความเหล่านี้จะไม่ถูกส่งเข้าไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค่ะ ท่านเพียงสละเวลาสักนิด อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยค่ะ ทุเรียนอ่อน 1-2 ลูกในมือท่านเมื่อรวมกับหลายๆท่านก็เป็นหมื่นเป็นแสน เงินไม่กี่ร้อยก็เป็นเงินรวมเป็นล้านได้ค่ะ และถ้าทุเรียนนี้มีการส่งออกก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาคการส่งออกผลไม้ไทยกันทั้งประเทศ ต้องร่วมมือกันค่ะตั้งแต่ชาวสวน คนตัดทุเรียน ล้งรับซื้อ ร้านผลไม้ปลีก จะต้องไม่เห็นแก่ได้เอาของไม่มีคุณภาพมาขาย และผู้บริโภคเองเมื่อพบทุเรียนอ่อนก็ควรแจ้งหน่วยงานภาครัฐเข้าไปจัดการเพื่อให้พ่อค้า แม่ค้าเกรงกลัวค่ะ

หลังจากที่เราได้ดำเนินคดีเป็นคดีตัวอย่าง ตอนแรกก็หวั่นๆว่าคนอื่นๆในจังหวัดจะไม่พอใจเราหรือไม่ที่เราทำให้จังหวัดมีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย ผลตอบรับกลับมากับตรงกันข้ามเราได้รับข้อความมาให้กำลังใจจากคนในจังหวัดจันทบุรีจำนวนมาก เกือบทุกคนเห็นด้วยและเห็นว่าการที่เราเข้าแจ้งความเป็นสิ่งที่ดีเพราะพ่อค้าแม่ค้าที่ทำไม่ดี เห็นแก่ได้ เป็นบ่อนทำลายชื่อเสียงของจังหวัดจะได้เกรงกลัว ละอาย และเลิกทำกันบ้าง
ขอขอบพระคุณพี่ๆน้องๆจังหวัดจันทบุรีทุกๆคนเลยนะคะที่เข้าใจและให้กำลังใจเรา

ขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ท่านสามารถ ลอยฟ้า ที่ท่านไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้มองว่าแค่ทุเรียนลูกเดียวแต่เอาจริงเอาจังกวดขันเอาจริงเอาจัง ดูแลให้ประชาชนได้กินทุเรียนอร่อยๆ และทำให้เมืองจันท์เป็นเมืองแห่งผลไม้ที่มีคุณภาพต่อไป ขอบพระคุณท่านมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่