บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีฯ และร้านเทเลวิช สาขาเซ็นทรัลรามอินทรา คุณทำแบบนี้ได้ยังไงคะ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน จนถึงตอนนี้ก็ล่วงเลยมาเวลามาเกือบเดือน
ขอเล่าเลยนะคะ กระเป๋าสตางค์ของเราหายค่ะ ในนั้นมีบัตรเครดิต 2 ใบคือบัตรธนาคารกรุงไทย (KTC) และบัตรธนาคารกรุงศรีอยุธยา นอกนั้นก็จะเป็นบัตรกดเงินสดของบริษัทอิออนและซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต
บัตรใบอื่นๆไม่มีปัญหาค่ะ ได้โทรไปอายัดบัตรเรียบร้อยพร้อมทั้งถามว่าได้มีการนำบัตรไปใช้หรือไม่ ทุกใบตอบว่าไม่มีค่ะ จะมีได้ไงคะเพราะอย่างบัตรกดเงินสดเราไม่เคยเขียนรหัสไว้ในกระเป๋า ใช้ความจำล้วนๆ ส่วนบัตรเครดิตถ้าจะรูดได้ก็ไม่น่าเกิน 4,000 บาท เพราะเราใช้เกือบเต็มวงเงินทุกเดือน
แต่แล้วปัญหาก็เกิดจนได้............
เมื่อโทรไปหาCall Center ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ปรากฏว่ามีการใช้บัตรรูดซื้อสินค้าไป 2 ครั้งๆละ 14,900 บาท รวมเป็นเงิน 29,800 บาท ครั้งแรกที่รู้เรางงมากว่ารูดได้ไง เพราะบัตรใบนี้ใกล้เต็มวงเงินแล้ว ใช้ได้ไม่เกิน 2,000 บาท
อ่อ ลิมบอกค่ะ บัตรเครดิตเราทั้ง 2 ใบ เป็นบัตรเสริมค่ะ บัตรหลักคือคุณแม่ค่ะ
พอได้ยินแบบนั้นเราก็เลยถามต่อว่าเอาไปใช้ที่ไหน  คำตอบคือร้านเทเลวิช สาขาเซ็นทรัลรามอินทรา  พอรู้แบบนั้นก็เลยรีบไปแจ้งความที่ สน.บางเขน แล้วก็รีบไปที่ร้านเทเลวิช สาขาเซ็นทรัลรามอินทรา เพื่อขอหลักฐานทั้งหมด เพราะเราคิดไว้ในในใจว่าการซื้อสินค้าราคามากๆแบบนี้ ทางร้านต้องขอสำเนาบัตรประชาชนแน่นอน ยิ่งใช้บัตรเครดิตด้วยแล้วยิ่งต้องใช้ประกอบกัน
แต่+++++ เราต้องผิดหวังอย่างมากกกกกกค่ะ
ทางร้านเทเลวิช ไม่ได้เอาหลักฐานอะไรไว้เลย มีเพียงแผ่นกระดาษให้คนร้ายจดชื่อ นามสกุล ที่อยู่และเลขบัตรประชาชน >>>>แล้วใครมันจะโง่ให้ของจริงล่ะคะ ปลอมทั้งนั้นค่ะ มีแต่ชื่อนามสกุลค่ะที่มันจดเป็นชื่อเรา พอถามพนักงานว่าทำไมไม่ขอสำเนาบัตรปปช.เอาไว้ พนักงานตอบแบบน่าหมั่นไส้ว่า “ก็ลูกค้าบอกว่าไม่มี ไม่ได้เอามาก็เลยขอแค่นี้” เราก็เลยถามต่อว่าลายเซ็นหลังบัตรล่ะ ไม่ได้ดูเลยเหรอ พนักงานตอบว่าไม่ดูค่ะ ไม่เคยดู โฮย!!!!!!!ฉันจะบ้าตาย ตอบแบบนี้กันเลยเหรอ ไม่มีจรรยาบรรณ ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความรอบคอบ จะเอาแต่ขายของอย่างเดียวเลยเหรอ เราก็เลยขอดูกล้องวงจรปิด ผจก.ร้านบอกว่าต้องรอทางศูนย์ส่งมาให้ ให้เราทิ้งเบอร์ติดต่อกลับไว้  เราก็รอ ร๊อ รอค่ะ ผ่านไป3 ชม. ไม่มีการติดต่อกลับ ก็เลยไปที่ร้านอีกรอบ คราวนี้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดค่ะ แต่ทำไมคุณไม่โทรบอกล่ะคะ เฮ้อออออ
ส่วนลายเซ็นต์ในสลิป ก็เซ็นต์ไม่เหมือนกันทั้งสองใบ พนักงานไม่สังเกตอะไรเลยเหรอคะ อยากรู้มากอ่ะ




มาถึงทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ฝ่ยตรวจสอบทุจริตโทรมาขอทราบรายละเอียดและขอหลักฐานทั้งหมดที่เรามี เราก็เล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ฟังพร้อมทั้งส่งหลักฐานทั้งหมดที่มีให้ไป รวมทั้งไดด้พูดคุยถึงหนี้ภาระค่าใช้จ่ายที่เกดขึ้นซึ่งเราไม่ได้เป็นคนใช้ซื้อสินค้า ทางนั้นบอกให้เราส่ง E-Mail เข้าไปแล้วเค้าจะเสนอทางหัวหน้าเค้าให้  
>>>> ผ่านไป2 อาทิตย์ ใบแจ้งหนี้มีมาค่ะ รวมทั้งยอดค่าใช้จ่ายจำนวน 29,800 บาทด้วย  เราก็เลยติดต่อไปทางธนาคารว่าทำไมยังคงเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจำนวนนี้ ในเมื่อเราแจ้งแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ทางธนาคารบอกว่าเป็นการใช้วงเงินก่อนมีการอายัดบัตร เราก็งงเลยค่ะ งั้นเราก็เลยถามต่อว่าถ้างั้นช่วยชี้แจงหน่อยว่าทำไมคนร้ายถึงเอาบัตรไปรูดซื้อสินค้าได้ เกือบ 30,000 บาทททั้งที่ วงเงินเรามันแค่ 35,000 บาท และเราก็ใช้เกือบเต็มวงเงินแล้ว ปรากฏว่าให้คำตอบไม่ได้ค่ะ ตอบแต่ว่าต้องขอเช็คระบบ รอจนถึงวันนี้จะ1 เดือนเต็มแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ แล้วยอดหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นทุกๆวัน เพราะมันมีดอกเบี้ย
เราสอบถามไปทางบริษัทเทเลวิชสำนักงานใหญ่ว่าจะรับผิดชอบถึงความประมาทของทางพนักงานอย่างไร แต่ไม่ได้รับคำตอบ (ติดต่อกับคุณกฤษณาหรือคุณ แหม่ม)
ขอเถอะค่ะ ทางบริษัทเทเลวิชคะ ช่วยออกมารับผิดชอบกับความประมาทเลินเล่อของทางพนักงานคุณด้วย รวมทั้งทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบบคุณผิดพลาดแต่คุณไม่ยอมรับ กลับผลักภาระมาที่ลูกค้าแบบนี้ มันไม่ใช่เลยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่