มุสลิมที่ละหมาด ถือศีลอด และปฏิบัติศาสนกิจอื่นๆ ตามคำสั่งของอัลเลาะห์ จะยังไม่ เป็นมุสลิมที่แท้จริงตราบใดที่เขายังละเมิด ด้วยการทำร้ายด้วยมือ และวาจา กับมุสลิมด้วยกัน
ดังฮะดีษที่ว่า :
المسلم من سلم المسلمون من لسا نه ويده
“มุสลิมที่แท้จริงคือ ผู้ที่มุสลิมทั้งหลายปลอดภัยจากลิ้นและมือของเขา”
จากอัลกูรอ่าน
“และบรรดาผู้กล่าวร้ายแก่บรรดาผู้ศรัทธาชาย และบรรดาผู้ศรัทธาหญิงในสิ่งที่พวกเขามิได้กระทำ แน่นอน พวกเขาได้แบกการกล่าวร้ายและบาปอันชัดแจ้งไว้”
จากฮาดิษ
“การด่าทอมุสลิมนับเป็นการละเมิด และการรบราฆ่าฟันกันนับเป็นการปฏิเสธศรัทธา”
(บันทึกโดยอิมาม อัลบุคอรีย์ อิมามมุสลิม อัตติรมิซีย์ และอันนะซาอีย์)
“พวกเรา(บรรดาเศาะฮาบะห์) เมื่อเราเห็นผู้ใดสาปแช่งพี่น้องมุสลิมด้วยกัน เราจะเห็นว่าเขาได้ทำบาปใหญ่แล้ว”
(บันทึกโดยอัฎฎอบรอนีย์ ด้วยสายสืบที่ดี)
จะสาปแช่งใครได้บ้าง!!
ท่านอิมาม อันนะวะวีย์ได้กล่าวว่า : การสาปแช่งมุสลิมนั้นเป็นที่ต้องห้าม(ฮะรอม) โดยมติเอกฉันท์ของบรรดาอุละมาอฺ แต่อนุญาตให้สาปแช่งผู้ที่มีลักษณะเลวร้าย เช่นการกล่าวว่า ขอให้อัลเลาะห์ สาปแช่งบรรดาผู้อธรรม ผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกยิว และพวกคริสต์ บรรดาผู้ละเมิด และบรรดาผู้นับถือรูปเคารพ อย่างนี้เป็นต้น
มุสลิมจะไม่ทำร้ายมุสลิมด้วยกัน แม้จะด้วยวาจา
ดังฮะดีษที่ว่า :
المسلم من سلم المسلمون من لسا نه ويده
“มุสลิมที่แท้จริงคือ ผู้ที่มุสลิมทั้งหลายปลอดภัยจากลิ้นและมือของเขา”
จากอัลกูรอ่าน
“และบรรดาผู้กล่าวร้ายแก่บรรดาผู้ศรัทธาชาย และบรรดาผู้ศรัทธาหญิงในสิ่งที่พวกเขามิได้กระทำ แน่นอน พวกเขาได้แบกการกล่าวร้ายและบาปอันชัดแจ้งไว้”
จากฮาดิษ
“การด่าทอมุสลิมนับเป็นการละเมิด และการรบราฆ่าฟันกันนับเป็นการปฏิเสธศรัทธา”
(บันทึกโดยอิมาม อัลบุคอรีย์ อิมามมุสลิม อัตติรมิซีย์ และอันนะซาอีย์)
“พวกเรา(บรรดาเศาะฮาบะห์) เมื่อเราเห็นผู้ใดสาปแช่งพี่น้องมุสลิมด้วยกัน เราจะเห็นว่าเขาได้ทำบาปใหญ่แล้ว”
(บันทึกโดยอัฎฎอบรอนีย์ ด้วยสายสืบที่ดี)
จะสาปแช่งใครได้บ้าง!!
ท่านอิมาม อันนะวะวีย์ได้กล่าวว่า : การสาปแช่งมุสลิมนั้นเป็นที่ต้องห้าม(ฮะรอม) โดยมติเอกฉันท์ของบรรดาอุละมาอฺ แต่อนุญาตให้สาปแช่งผู้ที่มีลักษณะเลวร้าย เช่นการกล่าวว่า ขอให้อัลเลาะห์ สาปแช่งบรรดาผู้อธรรม ผู้ปฏิเสธศรัทธา พวกยิว และพวกคริสต์ บรรดาผู้ละเมิด และบรรดาผู้นับถือรูปเคารพ อย่างนี้เป็นต้น