เรียน หนุ่มพุทธมณฑลสาย2
คุณถามว่า
"ถ้าคนพุทธ /ศาสนาอื่นๆไปทำลายมัสยิด /ทุบคำสั่งสอนของอิสลาม คุณที่นับถืออิสลามจะสะเทือนใจไหม/จะตอบโต้อย่างไร?"
ผมคิดว่าเป็นคำถามที่ดี ทำให้มุสลิมได้มีโอกาส อธิบายคำสอนของศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ซึ่งจะสร้างความเข้าใจอันดีงามในการสนทนาทางศาสนาในภายหน้า
สำหรับผมและมุสลิมส่วนมาก คงจะไม่รู้สึกอะไรมากหลอกครับเกี่ยว กับ ความรู้สึกทางศาสนา เนื่องจาก เรื่องการทำลายทรัพย์สินนี้มีกฏหมาย คุ้มครองอยู่แล้ว, ส่วนเรื่องคำสอนถ้าคุณหมายถึงอัลกุรอาน เป็นสิ่งที่หาทดแทนได้จะเผาทิ้งสักกี่พันเล่ม หลักคำสอนก็คงเดิมและหาทดแทนได้, การด่า หรือ ดูถุก เหยียดหยามศาสดา และหลักการของอิสลาม นั้น ถ้ามุสลิมที่เข้าใจหลักการคำสอนของศาสนาอิสลาม อย่างถูกต้องแล้ว, จะคิดได้ว่าการกระทำเช่นนั้นไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้อง ภายในสังคมของการอยู่ร่วมกันในหลายๆศาสนา, และจะทำใจได้ และดำเนินชีวิตตามปกติต่อไปตามหลักการของศาสนาอิสลาม
เรื่องสิทธิในการพูดและการเขียนนั้นไปได้กับหลักการของอิสลามได้เป็นอย่างดี ถ้าหากผู้ใช้นำไปใช้อย่างถูกต้องแล้ว จะสร้างมิครภาพและนำสันติมาสู่สังคมโดยรวมได้
ผมขออธิบายตอบคุณโดยสังเขป ว่า มีเรื่องเล่าว่า ท่านศาสดามูฮัมมัด กล่าวว่า
“มุสลิมผู้ที่อยู่ร่วมกับกลุ่มชน ที่ผสมผสานในความศรัทธาต่างๆ และสามารถที่จะแบกรับคำเสียดสีหรือกล่าวร้ายต่อตนเองต่อศาสนาอิสลามและต่อ ตัวท่านศาสดามูฮัมมัด, นั้นเป็นมุสลิมที่ดีกว่ามุสลิมที่อยู่แต่ในสังคมมุสลิมเท่านั้นซึ่งไม่ได้แสดงความอดทนต่อ คำเสียดสีหรือกล่าวร้ายต่อตนเองต่อศาสนาอิสลามและต่อ ท่านศาสดามูฮัมมัด”
(จาก: มิชกัต, หนังสือแห่งคุณธรรม, บทที่เกี่ยวกับ "ความสุภาพ,ความถ่อมตัว และ ความประพฤติและมารยาทที่ดี" ของมุสลิม)
คำกล่าวนี้เป็น คำแนะนำที่สูงส่ง,ซึ่งสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้ใน โลกปัจจุบันซึ่งภายในสังคมของโลกปัจจุบันนี้ มุสลิมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับบุคคลที่มีความศรัทธาต่างๆกัน
เป็นความคิดและความเข้าใจที่ผิด,เป็นทั้งความเท็จและไม่มีมูลความจริงโดยสิ้นเชิง,ที่ทั้งมุสลิมและผู้ต่างศรัทธา บางท่านหรือส่วนมาก ที่อ้างว่าหรือกล่าวหาว่า ศาสนาอิสลามสอนให้มุสลิมฆ่าทุกๆคน,หรือประกาศฆ่าหรือสั่งฆ่า ผุ้ที่ใช้วาจาหยาบคายหรือ ดูถูกศาสนาอิสลามหรือศาสดาของศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือ หักหาญน้ำใจต่อความศรัทธาในศาสนาอิสลาม
ในทางตรงกันข้าม, ศาสนาอิสลามสอนให้มุสลิมทุกๆคนที่ศรัทธาต่ออิสลามอย่างแท้จริง,จะต้องแสดงออกในการ แสดงความอดทนภายใต้การยั่วยุ, และจะต้องมองข้ามและไม่สนใจต่อการทำผิดมารยาทของบุคคลเหล่านั้น , อย่างแน่นอนถ้าการกล่าวหาหรือเหยียดหยามที่มีต่อหลักการศาสนาอิสลามใดๆ หรือต่อ ท่านศาสดามูฮัมหมัดซึ่งต้องการที่จะตอบโต้หรือ ให้คำอธิบายแล้วสิ่งเหล่านี้ควรจะตอบ ด้วยวาจาและมารยาทที่สุภาพหรือดีกว่าเท่านั้น ห้ามใช้กำลังและความหยาบคายอย่างเด็ดขาด
จากคำสอนในอัลกุรอานโดยทั่วๆไปเราจะเห็นว่าในอัลกุรอานเองได้มีบันทึก ในการที่ศัตรูหรือผุ้ที่ต่อต้านกล่าวหาต่อท่านศาสดามูฮัมมัด,ว่าท่านเป็นผู้บ้าคลั่ง, แก้ไขและดัดแปลงคัมภีร์อัลกุรอาน, และรวมทั้ง บันทึกการตอบโต้ ข้อกล่าวหาดังกล่าว,
ซึ่งไม่มีบันทึกในที่ใดในอัลกุรอาน ในบทลงโทษให้มีการลงโทษอย่างหนึ่งอย่างใด ต่อผู้ที่ กล่าวหรือ ติเตียน ท่านศาสดามูฮัมมัด ในกรณีใดๆก็ตาม
1. ถ้ามุสลิมตกอยู่ในกรณีที่เจ้าของกระทู้ถาม ศาสนาอิสลามสอนให้ คงไว้ซึ่งความอดทนต่อสิ่งยั่วยุ
2. อย่าใส่ใจต่อการกระทำที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเรา หรือ เป็นภัยต่อชุมชนและครอบครัว
3. ให้ออกห่างจากจากกลุ่มชนที่ ทำการท้าทายยั่วเป็นการชั่วคราว
ข้อสำคัญก็คือ...ผู้ถามหรือผู้ตั้งกระทู้ จะต้องแยกให้เข้าใจว่า หลักการของอิสลาม กับ มุสลิมผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ต่างกันอย่างไร?
อิสลามเป็นศาสนา, มีหลักความศรัทธาต่อพระเจ้า, อัลกุรอาน และ ท่านศาสดามูฮัมมัด
มุสลิมคือผู้ที่นับถือและปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอิสลามอย่างถูกต้อง, "มุสลิมไม่ใช่อิสลาม" ดังนั้นการปฏิบัติที่ออกนอกคำสอนของมุสลิมจึงไม่ใช่ หลักการของอิสลาม
ตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์เรื่อง "Innocence Of Muslims - Prophet Muhammad"
1. เหตุการร้ายแรงที่มีการฆ่าฟันกันโดยอ้างความเกี่ยวพันถึงเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ การกระทำเช่นนั้น ไม่ใช่อิสลามหรือมีอยู่
ในหลักคำสอน ของอิสลาม
2. การสร้างภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสดาของศาสนหนึ่งศาสนาใดไม่ใช่การใช่สิทธิในการพูดการเขียนที่ถูกต้อง "not freedom of speech",
ตามหลักการของอิสลาม (ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของผู้สร้างภาพยนตร์) อิสระในการแสดงออก จะต้องอยู่ในขอบเขตของ ศีลธรรม
และ จริยาธรรม โดยให้ความเคารพในสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน
สำหรับมุสลิมจะต้องมีมารยาทดีและไม่หยาบคายต่อผู้ต่างศรัทธา ที่ต้องการทราบหลักการของอิสลาม หรือผู้ที่นำหลักการที่มุสลิมนำมาใช้อย่างผิดๆ ด้วยความเข้าใจผิด มาถามหรือมาล้อเลียน, หน้าที่ของมุสลิมมีอย่างเดียวคือการ อธิบายสิ่งที่ถูกต้องให้เขาเข้าใจ ด้วยความอดทนและมารยาทที่ดีเท่านั้น การใช้กำลังและความหยาบคายไม่ใช่หลักการของอิสลามเช่นกัน
"ถ้าคนพุทธ /ศาสนาอื่นๆไปทำลายมัสยิด /ทุบคำสั่งสอนของอิสลาม คุณที่นับถืออิสลามจะสะเทือนใจไหม/จะตอบโต้อย่างไร?"
คุณถามว่า
"ถ้าคนพุทธ /ศาสนาอื่นๆไปทำลายมัสยิด /ทุบคำสั่งสอนของอิสลาม คุณที่นับถืออิสลามจะสะเทือนใจไหม/จะตอบโต้อย่างไร?"
ผมคิดว่าเป็นคำถามที่ดี ทำให้มุสลิมได้มีโอกาส อธิบายคำสอนของศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ซึ่งจะสร้างความเข้าใจอันดีงามในการสนทนาทางศาสนาในภายหน้า
สำหรับผมและมุสลิมส่วนมาก คงจะไม่รู้สึกอะไรมากหลอกครับเกี่ยว กับ ความรู้สึกทางศาสนา เนื่องจาก เรื่องการทำลายทรัพย์สินนี้มีกฏหมาย คุ้มครองอยู่แล้ว, ส่วนเรื่องคำสอนถ้าคุณหมายถึงอัลกุรอาน เป็นสิ่งที่หาทดแทนได้จะเผาทิ้งสักกี่พันเล่ม หลักคำสอนก็คงเดิมและหาทดแทนได้, การด่า หรือ ดูถุก เหยียดหยามศาสดา และหลักการของอิสลาม นั้น ถ้ามุสลิมที่เข้าใจหลักการคำสอนของศาสนาอิสลาม อย่างถูกต้องแล้ว, จะคิดได้ว่าการกระทำเช่นนั้นไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้อง ภายในสังคมของการอยู่ร่วมกันในหลายๆศาสนา, และจะทำใจได้ และดำเนินชีวิตตามปกติต่อไปตามหลักการของศาสนาอิสลาม
เรื่องสิทธิในการพูดและการเขียนนั้นไปได้กับหลักการของอิสลามได้เป็นอย่างดี ถ้าหากผู้ใช้นำไปใช้อย่างถูกต้องแล้ว จะสร้างมิครภาพและนำสันติมาสู่สังคมโดยรวมได้
ผมขออธิบายตอบคุณโดยสังเขป ว่า มีเรื่องเล่าว่า ท่านศาสดามูฮัมมัด กล่าวว่า
“มุสลิมผู้ที่อยู่ร่วมกับกลุ่มชน ที่ผสมผสานในความศรัทธาต่างๆ และสามารถที่จะแบกรับคำเสียดสีหรือกล่าวร้ายต่อตนเองต่อศาสนาอิสลามและต่อ ตัวท่านศาสดามูฮัมมัด, นั้นเป็นมุสลิมที่ดีกว่ามุสลิมที่อยู่แต่ในสังคมมุสลิมเท่านั้นซึ่งไม่ได้แสดงความอดทนต่อ คำเสียดสีหรือกล่าวร้ายต่อตนเองต่อศาสนาอิสลามและต่อ ท่านศาสดามูฮัมมัด”
(จาก: มิชกัต, หนังสือแห่งคุณธรรม, บทที่เกี่ยวกับ "ความสุภาพ,ความถ่อมตัว และ ความประพฤติและมารยาทที่ดี" ของมุสลิม)
คำกล่าวนี้เป็น คำแนะนำที่สูงส่ง,ซึ่งสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้ใน โลกปัจจุบันซึ่งภายในสังคมของโลกปัจจุบันนี้ มุสลิมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับบุคคลที่มีความศรัทธาต่างๆกัน
เป็นความคิดและความเข้าใจที่ผิด,เป็นทั้งความเท็จและไม่มีมูลความจริงโดยสิ้นเชิง,ที่ทั้งมุสลิมและผู้ต่างศรัทธา บางท่านหรือส่วนมาก ที่อ้างว่าหรือกล่าวหาว่า ศาสนาอิสลามสอนให้มุสลิมฆ่าทุกๆคน,หรือประกาศฆ่าหรือสั่งฆ่า ผุ้ที่ใช้วาจาหยาบคายหรือ ดูถูกศาสนาอิสลามหรือศาสดาของศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือ หักหาญน้ำใจต่อความศรัทธาในศาสนาอิสลาม
ในทางตรงกันข้าม, ศาสนาอิสลามสอนให้มุสลิมทุกๆคนที่ศรัทธาต่ออิสลามอย่างแท้จริง,จะต้องแสดงออกในการ แสดงความอดทนภายใต้การยั่วยุ, และจะต้องมองข้ามและไม่สนใจต่อการทำผิดมารยาทของบุคคลเหล่านั้น , อย่างแน่นอนถ้าการกล่าวหาหรือเหยียดหยามที่มีต่อหลักการศาสนาอิสลามใดๆ หรือต่อ ท่านศาสดามูฮัมหมัดซึ่งต้องการที่จะตอบโต้หรือ ให้คำอธิบายแล้วสิ่งเหล่านี้ควรจะตอบ ด้วยวาจาและมารยาทที่สุภาพหรือดีกว่าเท่านั้น ห้ามใช้กำลังและความหยาบคายอย่างเด็ดขาด
จากคำสอนในอัลกุรอานโดยทั่วๆไปเราจะเห็นว่าในอัลกุรอานเองได้มีบันทึก ในการที่ศัตรูหรือผุ้ที่ต่อต้านกล่าวหาต่อท่านศาสดามูฮัมมัด,ว่าท่านเป็นผู้บ้าคลั่ง, แก้ไขและดัดแปลงคัมภีร์อัลกุรอาน, และรวมทั้ง บันทึกการตอบโต้ ข้อกล่าวหาดังกล่าว, ซึ่งไม่มีบันทึกในที่ใดในอัลกุรอาน ในบทลงโทษให้มีการลงโทษอย่างหนึ่งอย่างใด ต่อผู้ที่ กล่าวหรือ ติเตียน ท่านศาสดามูฮัมมัด ในกรณีใดๆก็ตาม
1. ถ้ามุสลิมตกอยู่ในกรณีที่เจ้าของกระทู้ถาม ศาสนาอิสลามสอนให้ คงไว้ซึ่งความอดทนต่อสิ่งยั่วยุ
2. อย่าใส่ใจต่อการกระทำที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเรา หรือ เป็นภัยต่อชุมชนและครอบครัว
3. ให้ออกห่างจากจากกลุ่มชนที่ ทำการท้าทายยั่วเป็นการชั่วคราว
ข้อสำคัญก็คือ...ผู้ถามหรือผู้ตั้งกระทู้ จะต้องแยกให้เข้าใจว่า หลักการของอิสลาม กับ มุสลิมผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ต่างกันอย่างไร?
อิสลามเป็นศาสนา, มีหลักความศรัทธาต่อพระเจ้า, อัลกุรอาน และ ท่านศาสดามูฮัมมัด
มุสลิมคือผู้ที่นับถือและปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอิสลามอย่างถูกต้อง, "มุสลิมไม่ใช่อิสลาม" ดังนั้นการปฏิบัติที่ออกนอกคำสอนของมุสลิมจึงไม่ใช่ หลักการของอิสลาม
ตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์เรื่อง "Innocence Of Muslims - Prophet Muhammad"
1. เหตุการร้ายแรงที่มีการฆ่าฟันกันโดยอ้างความเกี่ยวพันถึงเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ การกระทำเช่นนั้น ไม่ใช่อิสลามหรือมีอยู่
ในหลักคำสอน ของอิสลาม
2. การสร้างภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสดาของศาสนหนึ่งศาสนาใดไม่ใช่การใช่สิทธิในการพูดการเขียนที่ถูกต้อง "not freedom of speech",
ตามหลักการของอิสลาม (ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของผู้สร้างภาพยนตร์) อิสระในการแสดงออก จะต้องอยู่ในขอบเขตของ ศีลธรรม
และ จริยาธรรม โดยให้ความเคารพในสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน
สำหรับมุสลิมจะต้องมีมารยาทดีและไม่หยาบคายต่อผู้ต่างศรัทธา ที่ต้องการทราบหลักการของอิสลาม หรือผู้ที่นำหลักการที่มุสลิมนำมาใช้อย่างผิดๆ ด้วยความเข้าใจผิด มาถามหรือมาล้อเลียน, หน้าที่ของมุสลิมมีอย่างเดียวคือการ อธิบายสิ่งที่ถูกต้องให้เขาเข้าใจ ด้วยความอดทนและมารยาทที่ดีเท่านั้น การใช้กำลังและความหยาบคายไม่ใช่หลักการของอิสลามเช่นกัน