การแต่งกายตามวัฒนธรรมเดียวกันเป็นเครื่องหมายของความสามัคคี

เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากที่มุสลิมไทยทั้งหญิงและชายจะต้องแต่งกายตามวัฒนธรรมไทยและเครื่องแต่งกายที่เป็นสัญญาลักษณ์แทนประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ในภูมิภาคและท้องถิ่นที่อยู่อาศัย แต่ต้องให้ถูกต้องตามหลักการของศาสนาอิสลาม คือชายแต่งตัวสากลหรือนุ่งกางเกงปิดหัวเข่าสวมเสื้อให้เหมาะสมตามสภาพภูมิศาสตร์ หญิงมุสลิมที่สำคัญคือต้องปิดทรวงอกและส่วนเย้ายวนเพศตรงข้ามตามที่บัญญัติไว้ในอัลกุรอาน (24:31)

หญิงมุสลิม แต่งกายให้เหมาะสมกับการพักผ่อนในบ้าน อย่างส่วนตัวและ/หรือ เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยือน แต่เมื่ออกจากบ้านให้มีเสื้อชั้นนอกสวมใส่ตามวัฒนธรรมไทยในปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือ ต้องปิดทรวงอกและร่องอกให้มิดชิด, ไม่รัดรูปจนเห็นทรวดทรงภายใน ไม่สั้นจนเลยเข่าหรือให้เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่การงานในชีวิตประจำวันตามหน้าที่การงาน, สำหรับชายมุสลิมก็เช่นกันแต่งตัวปกปิดร่างกายเมื่ออกจากบ้านเช่นชายไทยทั่วๆไป กางเกงจะขาสั้นหรือขายาวควรให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทยเมื่ออยู่ในบ้านส่วนตัวหรือกับสมาชิกในครอบครัวพิจารณาให้เหมาะสม เมื่ออกนอกบ้านการแต่งตัวเป็นสากลหรือตามประเพณีนิยมของท้องถิ่น สิ่งที่ใช้พิจารณาก็คือ อิสลามห้ามทั้งชายและหญิงแต่งตัวเพื่อเป็นการเร้า "อารมณ์ทางเพศ" ของเพศตรงข้าม 

การนับถือศาสนาอิสลามไม่มีเครื่องแบบประจำศาสนา การแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างสำรวมนั้นคือเครื่องหมายของการเป็นผู้ศรัทธา ถ้าเราเป็นคนไทยไปแต่งตัวเป็นชาว อรับ หรือ ตามประชาชาติในภาคตะวันออกกลาง หรือ อินโดนีเซีย หรือ ญี่ปุ่น หรือ เอสกิโม แล้วอะไรที่จะแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าเราเป็นคนไทย

ศาสนาอิสลามสอนให้มุสลิมปฏิบัติตามแบบฉบับของท่านศาสดามูฮัมมัด นั้นหมายถึงแบบฉบับทางจรรยาธรรมการปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอิสลาม ตามแนวทางในอัลกุรอาน ไม่ใช่การปฏิบัติของท่านรอซูลตามประเพณีหรือวัฒนธรรมอรับ ทั้งนี้เพราะว่าอัลลอฮ์ได้บัญญัติไว้เป็นมารตฐานว่าผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามควรวางตัวอย่างไรในสังคม และมีข้อห้ามข้อปฏิบัติอย่างไรซึ่งเป็นวินัยของมุสลิมทุกๆคนที่จะต้องถือปฏิบัติ ข้อสำคัญคือมุสลิมจะต้องมีความรู้ความเข้าใจอัลกุรอานตามบริบทที่อัลลอฮ์ทรงระบุไว้  อิสลามสอนว่า "อย่าเชื่อสิ่งใดโดยขาดสติปัญญา,จะต้องไตร่ตรองจนเข้าใจเสียก่อนแล้วจึงจะเชื่อและนำมาปฏิบัติ" ทุกๆเรื่องราว และข้อห้ามต่างๆ จะต้องอยู่ภายในบริบทของอัลกุรอาน
 
ในสังคมไทยเราประชาชนส่วนใหญ่ของชาติไทยเรานับถือพุทธศาสนา เกือบ 100%  มีมุสลิมเป็นส่วนน้อยมาก การแต่งกายแสดงสัญญาลักษณ์คนไทยจึงสำคัญ ต่อความเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นการสร้างความสามัคคีเช่นชนชาติเดียวกัน มุสลิมบางท่านยอาจจะอ้างว่า แล้วเราจะแยกได้อย่างไรว่าใครนับถือศาสนาอะไร เรื่องนั้นไม่สำคัญ, ถ้าพุทธศาสนิกชนเและมุสลิมไทย ต่างก็นับถือศาสนาของตนเองอย่างมีวินัย การปฏิบัติในชีวิตประจำวันจะเป็นเครื่องหมาย ของการแสดงความเป็นผู้ศรัทธาและไม่จำเป็นต้องแสดงออกให้เห็นทางเครื่องแต่งกาย เนื่องจากแต่ละคนมีความรับผิดชอบในศาสนาของตนเอง ตัวอย่างเช่นเราจะเห็นชาวไทยคริสเตียนไปโบสถ์ในวันอาทิตย์, พุทธศาสนิกชนชาวไทยใส่บารตในตอนเช้า และไทยมุสลิมทำละหมาด 5 เวลาและไปมัสยิดในวันศุกรเป็นประจำ

การแต่งกายที่เป็นวัฒนธรรมเดียวกัน, การล้อเลียนหลักศรัทธาของกันและกันก็จะลดน้อยลง ก็คงจะเหลือแต่ผู้ที่มีจิตใจทรามเท่านั้นที่จะฝ่าฝืนคำสอนของทั้งสามศาสดาในเรื่องห้ามการดูถูกและดูหมิ่นความศรัทธาของกันและกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่