จากเรื่อง siam banana ที่กำลังดราม่าอยู่ตอนนี้ ได้อ่านมาหลายกระทู้ คนส่วนใหญ่ก็ถล่ม CP กันตามระเบียบ ตามหลักจิตวิทยานายทุนผิดเสมอ อันนี้ก็ว่ากันไป แต่ก็มีบางความเห็นมองต่างมุมได้น่าสนใจ เลยอยากจะเอามาขยายความ

เรื่องลอกเลียนแบบ
หลายคนให้ความเห็นว่า เอาจริงๆสยามบานาน่าเอง ก็ไปเลียนแบบโตเกียวบานาน่าที่ญี่ปุ่นมาเหมือนกัน โอเคสูตรน่ะอาจจะแกะเอง ไม่ได้ลอกต้นฉบับ แต่รูปทรง แพคเกจจิ้ง แม้แต่ชื่อที่มีคำว่าบานาน่า และอ้างตัวว่าเป็นโตเกียวบานาน่าเมืองไทย อันนี้มันออกจะดูชัดเจนไปหน่อยมั้ย มันอาจจะไม่ได้ถึงขนาด copy and paste แต่มันก็ละม้ายคล้ายกัน ทั้งสี ทั้งจุด รูปทรงตัวขนมยังคล้ายกันมาก ถ้าคนมองผ่านๆก็มีสิทธิ์คิดว่าเป็นโตเกียวบานาน่าตัวจริงได้ (ก็เหมือนกับที่หลายๆคนกำลังด่าของเลียนแบบซีพี พวกนมอัดเม็ด คาลพิส ซันไลต์ตราเซเว่น นั่นแหละ)

คำถามคือ แล้วแบบนี้เจ้าของสยามบานาน่าเองก็ผิดมั้ย อาจจะไม่ผิดกฎหมาย แล้วจรรยาบรรณล่ะ? ในเมื่อคุณก็ลอกเค้ามาเหมือนกัน
เราด่า CP ว่าทำแบบนี้ผิด แล้วสยามบานาน่าล่ะ หรือเราแบ่งผิดถูกกันด้วยคำว่านายทุนกับรายย่อย (นายทุนทำ เลว รายย่อยทำ ไม่ผิด เพราะไม่ได้รวย)
หรือ สมมติเราบอกว่าไม่ผิด เพราะไม่ได้ก้อปทั้งดุ้น เปลี่ยนลายแล้ว เปลี่ยนสีแล้ว ถ้างั้น CP ก็ไม่ผิดสิ??

ว่ากันตามตรง เรายังไม่รู้จริงว่าตกลง CP ก้อปสูตรสยามบานาน่าจริงรึเปล่า ฝั่ง CP ก็อ้างว่าตูไม่ได้ก้อปนะ R&D ทำเอง ฝั่งสยามบานาน่าก็พูดทำนองเหมือนตัวเองโดนก้อป พอทำได้เองก็ลอยแพ ประมาณนั้น เพราะงั้นตรงนี้ไม่ฟังธงถูกผิด (แต่สำหรับบางท่านที่ฟันธงในใจไปแล้วว่า CP ก้อปสูตรชัวร์ ข้ามตรงนี้ไปเลยเถอะครับ เพราะท่านมีธงในใจอยู่แล้วนิ ถ้าเชื่อว่าก้อป ยังไงก็ผิด)

สมมติผมจำลองสถานการณ์นะ วันที่เจรจากัน บังเอิญ R&D ก็ได้ชิมขนมของสยามบานาน่าด้วย แล้วเกิดแรงบันดาลใจว่าอื้ม อร่อย เลยรีบกลับไปแกะสูตร ดั้นนนน แกะได้สำเร็จช่วงต้นปีนี้ เลยมีคำสั่งรีบทำออกมาขายเลย ทำแพคเกจเองในชื่อเลอแปง ไม่ได้เหมือนสยามบานาน่าด้วย รถชาติก็ไม่เหมือน เพราะไม่มีกล้วยผสมจริงๆ พอออกมาขาย ก็ไปยกเลิกของสยาม บอกตูไม่เอาละนะ ตูทำเองละ สยามบานาน่าเลยเคือง ก็มาปล่อยข่าวตามที่ดราม่ากันอยู่เนี่ย CP ก็ออกมาแก้ข่าว แล้วก็มาเป็นอย่างทุกวันนี้

แบบนี้ CP ผิดมั้ย

ส่วนเรื่องการยกเลิกสัญญา เราก็ไม่รู้กันจริงๆอีกนั่นแหละว่าทำไมยกเลิก มีแค่คู่กรณีเท่านั้นที่รู้ เราก็คาดเดากันไป

ขอยกคอมเม้นนึงในกระทู้มาเลยนะครับ มันมองอีกมุมได้ชัดเจน

มองได้หลายมุมเลยนะคะ ในฐานะคนนอก

1. อันนี้เป็นการเรียกร้อง ความเห็นใจ Viral Marketing ที่ได้ผล
คนเห็นใจ ผลิตภัณฑ์โด่งดัง มีการแชร์ไปในโลกออนไลน์
คนไปสั่งซื้อ ให้กำลังใจในเพจเพียบเลย

2. มีการเชิญ มีความสัมพันธ์แน่ๆ เคยไปทานข้าวกัน
ผลประโยชน์ไม่ตรงกันก็เป็นไปได้
ทางปลาเล็กจะขอเป็น Supplier
จะขอปลาใหญ่ให้ช่วยขาย
หรือ เรื่อง Deal ล่ม ปลาใหญ่ขอทำเองก็น่าสนใจ
เพราะบอกว่าอยู่ระหว่างเจรจา

รู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่พูดออกมาทั้งหมด มีกั๊กๆบ้าง
แต่พูดความจริงครึ่งเดียวแน่นอน
2 ฝ่ายพูดเรื่องเดียวกัน ต้องมีคนโกหกคนนึง ไม่ก็โกหกทั้งสองคน
ไม่มีทางที่จะพูดจริงทั้งสองฝ่าย
ความจริงย่อมมีเพียงหนึ่งเดียว

3. แบรนด์ใหญ่ต้องผิดตลอด อันนี้ไม่ชัวร์
ชาวบ้านเป็นผู้ถูกเสมอ อันนี้ไม่แน่ใจ
แต่ อ.ประจักษ์ ก้องกีรติ เคยกล่าวในงานสัมมนา
ว่า เวลาชาวบ้านทะเลาะกัน ก็ตีกัน มือเปล่า ความรุนแรงมันเบาๆ
แต่เวลาชาวบ้านกับผู้มีอิทธิพลตีกัน
เค้ามีทั้ง อาวุธ กองทัพ เงิน ความรุนแรงนี่เจ็บหนัก ไม่ก็ถึงตาย (หมายถึงฝั่งชาวบ้านนะ)

ชาวบ้านก็มีแค่ พันทิป เฟซบุค หรือ ของอะไรไกล้ตัวที่พอสู้ได้
อีกฝ่ายมีสื่อ มีทีมอุ้ม มีทีมแก้ข่าว มีสี

การสู้ครั้งนี้ไม่ยุติธรรม และประเทศเราก็ไม่มีสิ่งนี้

เราคนนอกไม่รู้หรอกค่ะ ได้แต่คาดเดากันไป

สุดท้ายเราไม่รู้จริงหรอกครับว่าเรื่องราวเป็นยังไง แต่เราด่า CP ไปแล้วแหละ สะใจดี (ซึ่งก็มีหลายอย่างที่ควรด่าจริงๆ เพราะ CP ก็ทำเลวเยอะ อย่างเช่นการไปเปิดเซเว่นแข่งกับเจ้าของเซเว่นเดิมที่ขายดี อันนี้ชัด)

อยากให้แยกแยะประเด็นนะครับ

การลอกเลียนแบบผิด = สยามบานาน่าผิด ที่ลอกโตเกียวบานาน่า และ CP ก็ผิด ที่ลอกสยามบานาน่า (หรืออาจจะไม่เกี่ยวกะสยามเลย เค้าตั้งใจลอกโตเกียวบานาน่าแต่ต้นแล้ว)
สรุปผิดทั้งคู่ และเราก็ไม่ควรเห็นใจทั้งคู่

แต่ถ้าแบบนั้นเรียกการ adapt งั้น CP ก็ไม่ผิดด้วย เพราะไม่ได้เหมือนเด๊ะทุกอย่าง ปรับบางอย่างแล้ว ไม่ได้เหมือนกัน