การแสดง + พิธีกร - บีบวก การจัดการ-บีบวก พลุ-เอ
ในภาพรวม 9 เต็ม 10
ประทับใจ มาดูกันว่า แต่ละด้าน มีข้อด้อยที่น่าจะปรับปรุงในปีหน้าอย่างไรบ้าง
ระบบการลงทะเบียนเข้างาน
สำหรับแบบเข้าชมฟรี ชื่นชมในความใจปั้ม ให้นั่งในห้องแอร์ และแจกกระบองไฟ
แต่ข้อด้อย คือ
1. การจัดการ งานระดับ world class ควรมีเจ้าหน้าที่ที่ใช้เสียงแบบ 2 - 3 ภาษาทุกสเต็ป
ไม่จำเป็นว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่ควรมีประจำในแต่ละทีม
ทุกวันนี้ นิสิตจบอักษรศาสตร์ยังจำเป็นสำหรับธุรกิจ เพราะการสื่อสารที่ชัดเจน จำเป็นมาก
ในการคุมสถานการณ์ที่คนจำนวนมากมางาน
ภาษาอังกฤษ สำคัญ เมื่อพิจารณารับคนเข้าทำงานเป็นทีมงานเบื้องหลังอีเว้นท์ ทีมรักษาความปลอดภัย
โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โทรโข่ง จัดระบบผู้เข้าชม และขอฝากถึงสถานีรถไฟฟ้าไอคอนสยามด้วย
ที่ควรมีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้ เพราะเป็นสถานีที่ชาวต่างชาติใช้บริการจำนวนมาก
เวลาเลิกงาน การกำกับการเข้าคิวขึ้นรถ หรือ แจ้งข่าว ควรเป็นระบบ 2-3 ภาษา ไทย-จีน-อังกฤษ
2. การใช้ธง ป้าย ช่วยในการลำเลียงจัดระบบผู้เข้าชม ไม่สนุก ที่จะฟังประกาศ
ภาษาไทยหลายสิบครั้งในเรื่องเดิมๆ ทั้งที่สามารถแยกคนด้วยการใช้ป้าย สีธง
และขึ้นจอด้วย inforgraphic เกี่ยวกับลำดับขั้นตอนการลงทะเบียน
และหากจะเก็บค่าเข้าชมสักหลักร้อย ก็ได้
แต่ wristband บอกสีและโซน อาจจะใช้แบบ ready made พร้อมแจกร่วมกับบัตรคิว
และสแกนได้ ต้องไม่สามารถทำเลียนแบบได้ภายใน 1 วัน
การแสดง
PIT BABE THE SERIES --- เป็นวงน้องใหม่ มีจุดขายแนว Y
ไม่น่าเบื่อ แต่น่าจะขับเคลื่อนทางอารมณ์ให้น่าประทับใจขึ้นอีก
ทุกคนหน้าตาดี มีทักษะการเต้นการร้องพอสมควร
ATLAS, 4EVE ศิลปิน+เพลง การเต้นมาตรฐาน
มีคุณภาพ ยังขาดครีเอทีฟที่ออกแบบให้ผลงานมีมิติมากขึ้น
ATLAS จังหวะหนักหน่วง มีความ wild ปลดปล่อยความดิบออกมา
คาร์เรกเตอร์ น่าจะแบบ Modern ทาซาน คือ ดึงความเท่ห์ สร้างอารมณ์ดนตรีกับ story ออกมา
4EVE เป็นผู้หญิงหวานสวย เต้นเก่ง ร้องเก่ง แต่อาจจะจัดประเภทบุคลิกวงให้ย่อยลงไปอีก
อย่าง Blackpink หวาน + ดุ + moody ซึ่งทำให้ดูมีมิติขึ้นกว่า Girl Generations
เราอยากเห็น 4EVE ในแบบที่ปราศจากเงาของ Blackpink โดยสร้างคาเรกเต้อร์
ที่อิงกับนางเอกละครไทย อย่าง Pink Venom MV ก็คือ การสร้าง Story ออกมา
ทั้งสองวง เต้นเก่ง ดนตรีดี แต่ขาดคาเรกเตอร์ เพื่อให้นักร้องกุมใจคนได้เหมือนซีรีย์
ทั้งสองวงมีคุณภาพ แต่ยังขาดการออกแบบบุคลิกของวง การประยุกต์ Modern Music
โดยใช้องค์ความรู้หลายด้าน เช่น วรรณกรรม จิตรกรรม ภาพยนต์
การแสดงชุดพิธีเปิด -- กองทัพพีคสง่ามาก การแสดงยิ่งใหญ่
เห็นความเป็นสายน้ำ นักร้องหญิงเสียงดี แต่อยากให้ออกแบบการแสดง
โดยให้มีลูกเล่น มี surprise บ้าง ตัวอย่าง งานเปิดโอลิมปิคฝรั่งเศส
คิดออกมาเป็นม้าสีเงิน วิ่งมาบนน้ำ และมีอัศวินขี่ม้า -- วิธีคิดสะท้อนระดับความสร้างสรรค์
ของไทยเรายังผ้าเป็นตัวแทนสายน้ำ ซึ่งมุขนี้เห็นมาแล้วหลายงาน
Jeff Satur--- He is the artist. มีความเป็นศิลปิน
สามารถบาลานส์ ความลึก ความบ้าคลั่ง และความอ่อนโยนออกมาได้อย่างมีเสน่ห์
NONT TANONT --- ไม่มีพัฒนาการ เพลงเขียนมาดีมาก แต่เหมือนนนท์จะพัฒนา
มาสู่จุดหนึ่งแล้วอยู่ที่เดิมมาพักหนึ่งแล้ว จุดแข็งคือ ร้องเพลงรักได้ไพเราะ
เสื้อนอกโอเค แต่แว่นที่เลือกมา ไม่เสริมบุคลิกเท่าใดนัก
ไม่ใช้พื้นที่บนเวทีอย่างเต็มที่ ร้องหลายเพลงแต่ยืนที่เดิม
และฉากหลังไม่ได้สร้างอารมณ์เสริมเนื้อหาของเพลงมากนัก
Billkin & PP Krit -- พีพีเซ็กซี่ บิวกิ้นน่ารัก ภาพรวมก็ฟิน รีแล็กซ์
ลิซ่า -- ขาดเครเอทีฟระดับยอดฝีมือ มาช่วยออกแบบโชว์
ที่มีความซับซ้อนสร้างสรรค์อลังการห์
ศักยภาพของลิซ่าสูง ในแง่ การเต้น เครื่องแต่งกาย ความสวยงาม
เป๊ก ผลิตโชค -- ไม่ได้ดู เพราะรถไฟฟ้าปิด 2 am ต้องรีบกลับ
ซึ่งปีหน้าอยากให้รัฐบาลขยายเวลา
พิธีกร ชอบที่มี 3 ภาษาและแต่ละคนพูดได้เลื่อนไหล เป็นมืออาชีพ
แต่เนื่องจากช่วงเปลี่ยนศิลปินค่อนข้างนาน ทำให้พิธีกรต้องคุมสถานการณ์
ทีมเบื้องหลังน่าจะเตรียมเกมส์มาเล่นกับคนดูหลากหลายเกมส์
และพิธีกร อาจเตรียมเนื้อหาหลากหลายเกี่ยวกับประเทศไทยและไอคอนสยาม
ไม่ใช่พูดซ้ำเรื่องเดิมบ่อยๆ กับคนดูกลุ่มเดิม
ระบบเสียง -- ไมค์เสียงร้องค่อนข้างเบา
ให้คนที่มีความรู้เรื่องนี้มาช่วยแสดงความเห็นดีกว่า
พลุ ไม่นานมาก แต่สำหรับคนที่ได้ดูสด คือ ยอมรับว่าสวยงามและคุ้มค่าการรอคอย
พลุสีสดใส เย็นตา และแทบจะเอื้อมจับได้ คล้าย จักรวาลดาว
การจุดพลุ สามจุดพร้อมกัน ทำให้เห็นพลุจากขอบตาซ้ายไปขอบตาขวา
ตระการตา คิดมาดี
พลุ+ลิซ่า ทำให้งานวันที่ 31 ธค เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ยากจะลืม
แม้จะเสียเวลาทั้งวัน เพื่อรอคอย
หลายฝ่าย ตั้งใจสร้างงานนี้ให้เกิดขึ้น และเป็นงานระดับนานาชาติ
feedback นี้ น่าจะมีประโยชน์ในการพัฒนางานในโอกาสต่อไป
สำหรับการสร้างแบรนด์ Iconsiam ให้คนจดจำได้ เราคิดว่า สำหรับเรา
เรารักไอคอนสยามมากขึ้นจากประสพการณ์วันที่ 31 ธค 2567
และหากมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง เป็นเรื่องธรรมดา
รอโอกาสครั้งหน้า ร่วมกันสร้างงานที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
รีวิว ตัดเกรดงาน Amazing Thailand Countdown 2025 ที่ไอคอนสยาม
ในภาพรวม 9 เต็ม 10
ประทับใจ มาดูกันว่า แต่ละด้าน มีข้อด้อยที่น่าจะปรับปรุงในปีหน้าอย่างไรบ้าง
ระบบการลงทะเบียนเข้างาน
สำหรับแบบเข้าชมฟรี ชื่นชมในความใจปั้ม ให้นั่งในห้องแอร์ และแจกกระบองไฟ
แต่ข้อด้อย คือ
1. การจัดการ งานระดับ world class ควรมีเจ้าหน้าที่ที่ใช้เสียงแบบ 2 - 3 ภาษาทุกสเต็ป
ไม่จำเป็นว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่ควรมีประจำในแต่ละทีม
ทุกวันนี้ นิสิตจบอักษรศาสตร์ยังจำเป็นสำหรับธุรกิจ เพราะการสื่อสารที่ชัดเจน จำเป็นมาก
ในการคุมสถานการณ์ที่คนจำนวนมากมางาน
ภาษาอังกฤษ สำคัญ เมื่อพิจารณารับคนเข้าทำงานเป็นทีมงานเบื้องหลังอีเว้นท์ ทีมรักษาความปลอดภัย
โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โทรโข่ง จัดระบบผู้เข้าชม และขอฝากถึงสถานีรถไฟฟ้าไอคอนสยามด้วย
ที่ควรมีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้ เพราะเป็นสถานีที่ชาวต่างชาติใช้บริการจำนวนมาก
เวลาเลิกงาน การกำกับการเข้าคิวขึ้นรถ หรือ แจ้งข่าว ควรเป็นระบบ 2-3 ภาษา ไทย-จีน-อังกฤษ
2. การใช้ธง ป้าย ช่วยในการลำเลียงจัดระบบผู้เข้าชม ไม่สนุก ที่จะฟังประกาศ
ภาษาไทยหลายสิบครั้งในเรื่องเดิมๆ ทั้งที่สามารถแยกคนด้วยการใช้ป้าย สีธง
และขึ้นจอด้วย inforgraphic เกี่ยวกับลำดับขั้นตอนการลงทะเบียน
และหากจะเก็บค่าเข้าชมสักหลักร้อย ก็ได้
แต่ wristband บอกสีและโซน อาจจะใช้แบบ ready made พร้อมแจกร่วมกับบัตรคิว
และสแกนได้ ต้องไม่สามารถทำเลียนแบบได้ภายใน 1 วัน
การแสดง
PIT BABE THE SERIES --- เป็นวงน้องใหม่ มีจุดขายแนว Y
ไม่น่าเบื่อ แต่น่าจะขับเคลื่อนทางอารมณ์ให้น่าประทับใจขึ้นอีก
ทุกคนหน้าตาดี มีทักษะการเต้นการร้องพอสมควร
ATLAS, 4EVE ศิลปิน+เพลง การเต้นมาตรฐาน
มีคุณภาพ ยังขาดครีเอทีฟที่ออกแบบให้ผลงานมีมิติมากขึ้น
ATLAS จังหวะหนักหน่วง มีความ wild ปลดปล่อยความดิบออกมา
คาร์เรกเตอร์ น่าจะแบบ Modern ทาซาน คือ ดึงความเท่ห์ สร้างอารมณ์ดนตรีกับ story ออกมา
4EVE เป็นผู้หญิงหวานสวย เต้นเก่ง ร้องเก่ง แต่อาจจะจัดประเภทบุคลิกวงให้ย่อยลงไปอีก
อย่าง Blackpink หวาน + ดุ + moody ซึ่งทำให้ดูมีมิติขึ้นกว่า Girl Generations
เราอยากเห็น 4EVE ในแบบที่ปราศจากเงาของ Blackpink โดยสร้างคาเรกเต้อร์
ที่อิงกับนางเอกละครไทย อย่าง Pink Venom MV ก็คือ การสร้าง Story ออกมา
ทั้งสองวง เต้นเก่ง ดนตรีดี แต่ขาดคาเรกเตอร์ เพื่อให้นักร้องกุมใจคนได้เหมือนซีรีย์
ทั้งสองวงมีคุณภาพ แต่ยังขาดการออกแบบบุคลิกของวง การประยุกต์ Modern Music
โดยใช้องค์ความรู้หลายด้าน เช่น วรรณกรรม จิตรกรรม ภาพยนต์
การแสดงชุดพิธีเปิด -- กองทัพพีคสง่ามาก การแสดงยิ่งใหญ่
เห็นความเป็นสายน้ำ นักร้องหญิงเสียงดี แต่อยากให้ออกแบบการแสดง
โดยให้มีลูกเล่น มี surprise บ้าง ตัวอย่าง งานเปิดโอลิมปิคฝรั่งเศส
คิดออกมาเป็นม้าสีเงิน วิ่งมาบนน้ำ และมีอัศวินขี่ม้า -- วิธีคิดสะท้อนระดับความสร้างสรรค์
ของไทยเรายังผ้าเป็นตัวแทนสายน้ำ ซึ่งมุขนี้เห็นมาแล้วหลายงาน
Jeff Satur--- He is the artist. มีความเป็นศิลปิน
สามารถบาลานส์ ความลึก ความบ้าคลั่ง และความอ่อนโยนออกมาได้อย่างมีเสน่ห์
NONT TANONT --- ไม่มีพัฒนาการ เพลงเขียนมาดีมาก แต่เหมือนนนท์จะพัฒนา
มาสู่จุดหนึ่งแล้วอยู่ที่เดิมมาพักหนึ่งแล้ว จุดแข็งคือ ร้องเพลงรักได้ไพเราะ
เสื้อนอกโอเค แต่แว่นที่เลือกมา ไม่เสริมบุคลิกเท่าใดนัก
ไม่ใช้พื้นที่บนเวทีอย่างเต็มที่ ร้องหลายเพลงแต่ยืนที่เดิม
และฉากหลังไม่ได้สร้างอารมณ์เสริมเนื้อหาของเพลงมากนัก
Billkin & PP Krit -- พีพีเซ็กซี่ บิวกิ้นน่ารัก ภาพรวมก็ฟิน รีแล็กซ์
ลิซ่า -- ขาดเครเอทีฟระดับยอดฝีมือ มาช่วยออกแบบโชว์
ที่มีความซับซ้อนสร้างสรรค์อลังการห์
ศักยภาพของลิซ่าสูง ในแง่ การเต้น เครื่องแต่งกาย ความสวยงาม
เป๊ก ผลิตโชค -- ไม่ได้ดู เพราะรถไฟฟ้าปิด 2 am ต้องรีบกลับ
ซึ่งปีหน้าอยากให้รัฐบาลขยายเวลา
พิธีกร ชอบที่มี 3 ภาษาและแต่ละคนพูดได้เลื่อนไหล เป็นมืออาชีพ
แต่เนื่องจากช่วงเปลี่ยนศิลปินค่อนข้างนาน ทำให้พิธีกรต้องคุมสถานการณ์
ทีมเบื้องหลังน่าจะเตรียมเกมส์มาเล่นกับคนดูหลากหลายเกมส์
และพิธีกร อาจเตรียมเนื้อหาหลากหลายเกี่ยวกับประเทศไทยและไอคอนสยาม
ไม่ใช่พูดซ้ำเรื่องเดิมบ่อยๆ กับคนดูกลุ่มเดิม
ระบบเสียง -- ไมค์เสียงร้องค่อนข้างเบา
ให้คนที่มีความรู้เรื่องนี้มาช่วยแสดงความเห็นดีกว่า
พลุ ไม่นานมาก แต่สำหรับคนที่ได้ดูสด คือ ยอมรับว่าสวยงามและคุ้มค่าการรอคอย
พลุสีสดใส เย็นตา และแทบจะเอื้อมจับได้ คล้าย จักรวาลดาว
การจุดพลุ สามจุดพร้อมกัน ทำให้เห็นพลุจากขอบตาซ้ายไปขอบตาขวา
ตระการตา คิดมาดี
พลุ+ลิซ่า ทำให้งานวันที่ 31 ธค เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ยากจะลืม
แม้จะเสียเวลาทั้งวัน เพื่อรอคอย
หลายฝ่าย ตั้งใจสร้างงานนี้ให้เกิดขึ้น และเป็นงานระดับนานาชาติ
feedback นี้ น่าจะมีประโยชน์ในการพัฒนางานในโอกาสต่อไป
สำหรับการสร้างแบรนด์ Iconsiam ให้คนจดจำได้ เราคิดว่า สำหรับเรา
เรารักไอคอนสยามมากขึ้นจากประสพการณ์วันที่ 31 ธค 2567
และหากมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง เป็นเรื่องธรรมดา
รอโอกาสครั้งหน้า ร่วมกันสร้างงานที่ดียิ่งขึ้นต่อไป