ในโลกนี้คนโง่มากกว่าคนฉลาด
อุปติสสะปริพาชกหรือพระสารีบุตรนั่นเอง ได้พบกับพระอัสสชิเถระ
ท่านมีกิริยาน่าเลื่อมใส จึงสอบถามได้ฟังธรรมว่า "ธรรมเหล่าใด
มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติ
ตรัสอย่างนี้." ได้บรรลุเป็นโสดาบันแล้วก็ไปบอกแก่โกลิตะหรือ
พระโมคคัลลานะนั่นเอง ทำให้ท่านบรรลุเป็นโสดาบันด้วย.
ทั้งสองจึงพากันไปชวนสัญชัยปริพาชกผู้เป็นอาจารย์.
สัญชัยห่วงลาภสักการะจึงไม่ไป แต่ได้ถามว่า "ในโลกนี้คนโง่
หรือคนฉลาดมากกว่ากัน" พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะตอบว่า
"คนโง่มีมากกว่า " สัญชัยปริพาชกจึงกล่าว "ถ้าอย่างนั้น คนฉลาด ๆ
จักไปสู่สำนักของพระสมณโคดม ส่วนคนโง่ ๆ จักมาสู่สำนักของเรา"
ดังนี้แล้วก็ไม่ไป.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ หน้าที่ ๑๒๘
คนโง่ย่อมมีมากกว่าคนฉลาด สัญชัยปริพาชก นี่แสบจริงๆ
อุปติสสะปริพาชกหรือพระสารีบุตรนั่นเอง ได้พบกับพระอัสสชิเถระ
ท่านมีกิริยาน่าเลื่อมใส จึงสอบถามได้ฟังธรรมว่า "ธรรมเหล่าใด
มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติ
ตรัสอย่างนี้." ได้บรรลุเป็นโสดาบันแล้วก็ไปบอกแก่โกลิตะหรือ
พระโมคคัลลานะนั่นเอง ทำให้ท่านบรรลุเป็นโสดาบันด้วย.
ทั้งสองจึงพากันไปชวนสัญชัยปริพาชกผู้เป็นอาจารย์.
สัญชัยห่วงลาภสักการะจึงไม่ไป แต่ได้ถามว่า "ในโลกนี้คนโง่
หรือคนฉลาดมากกว่ากัน" พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะตอบว่า
"คนโง่มีมากกว่า " สัญชัยปริพาชกจึงกล่าว "ถ้าอย่างนั้น คนฉลาด ๆ
จักไปสู่สำนักของพระสมณโคดม ส่วนคนโง่ ๆ จักมาสู่สำนักของเรา"
ดังนี้แล้วก็ไม่ไป.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ หน้าที่ ๑๒๘