ในพระไตรปิฎก ทำไมปุถุชนที่บรรลุโสดาบันส่วนใหญ่ จึงบรรลุธรรมจากการฟังธรรม ไม่ใช่จากการนั่งสมาธิ

(ในกระทู้นี้ ขอพูดถึงการบรรลุโสดาบันก่อน เพราะเป็นบันไดขั้นแรก  ยังไม่ขอพูดเรื่องการบรรลุธรรมชั้นอื่น) 

ผมไม่คิดว่า พระไตรปิฎกที่สวดท่องรักษาสืบต่อมาสองพันห้าร้อยกว่าปี มีความผิดพลาดเรื่องนี้ เพราะบอกตรงกันหมดว่า บรรดาคฤหัสถ์ ปุถุชน พระราชา เศรษฐี พ่อค้า หรือเด็ก ล้วนแล้วแต่บรรลุธรรมตอนที่ได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะจากพระพุทธเจ้าโดยตรง หรือฟังคำของผู้อื่นที่นำคำของพระพุทธเจ้ามากล่าวให้ฟัง เช่นตอนท่านอัสสชิ กล่าวแก่ท่านสารีบุตร ตอนยังเป็นปุถุชนอยู่ จนได้บรรลุโสดาบัน  ท่านอัสสชิไม่ใช่พระอรหันต์ที่มีฤทธิอ่านวาระจิตของผู้อื่นได้

ผมเชื่ออยู่อย่างว่า บรรดาท่านเหล่านี้ที่ได้บรรลุโสดาบัน ต้องได้สั่งสมการฟังธรรมของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ มามากมายหลายแสนกัปป์ เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ภาพกว้างใหญ่มหาศาลที่ต้องค่อยๆ เอาตัวจิ๊กซอว์ทีละชิ้น (ซึ่งเปรียบเสมือนความรู้ความเข้าใจของเรา) ต่อเข้าไปทีละชิ้นๆ ในภาพ ชาติแล้วชาติเล่าที่ได้เกิดมาโชคดีในยุคที่มีพระพุทธศาสนา และต้องโชคดีที่เกิดมาพร้อมกับปัญญาที่จะเข้าใจพระธรรมได้  จนที่สุดปัญญาบารมีที่สั่งสมมาพร้อมอย่างเกือบจะสมบูรณ์  ขาดแต่เพียงจิ๊กซอว์ไม่กี่ตัวสุดท้ายที่จะมาเติมเต็ม  เมื่อสารีบุตรปริพาชิกได้เพียงฟังพระธรรมประโยคเดียวจากท่านอัสสชิว่า "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติทรงสั่งสอนอย่างนี้" 
ครั้นได้ฟังธรรมปริยายนี้ ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลี ปราศจากมลทินว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา ได้เกิดขึ้นแก่สารีบุตรปริพาชก  เมื่อฟังจบ สารีบุตรปริพาชกก็มีดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบันทันที

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

นอกจากนั้น ท่านอื่น ก็บรรลุธรรมในขณะที่หุงหาอาหาร ทำกับข้าวในครัว ซึ่งเป็นชีวิตปกติประจำวัน ซึ่งเป็นการเจริญสติปัฏฐานในชีวิตประจำวัน คือเป็นผู้มีปรกติเจริญสติปัฏฐานจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่