ขอเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่สามีนอกใจ. ตอนนั้น ฉันย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่สมุทรปราการ ทำงานอยู่ 6 เดือน. ได้ย้ายกลับมาทำงานใกล้บ้าน. แต่อยู่ต่างอำเภอ มีลูกชายอยู่ในความดูแลของยายและสามี ตลอดเวลาที่ทำงานสมุทรปราการ ฉันกลับบ้านทุกวันพุธและเสาร์ อาทิตย์ เมื่อย้ายมาใกล้บ้าน ก้อไป - กลับทุกวัน
สัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงที่เรียกว่าเมีย ก้อพอจะสังเกตพฤติกรรมความเปลี่ยนแปลงของสามีตัวเองได้ว่าเปลี่ยนไป แต่งตัวเก่งขึ้น. ใช้เงินเก่ง และหวงโทรศัพท์ ชอบปลีกตัวขึ้นชั้นบนและล็อคห้อง เคยมีอยู่ครั้งนึงผู้หญิงโทรมา ว่าออกมาหรือยัง. และบางทีโทรไปหาสามีก้อมีเสียงผู้หญิงอยู่ข้างๆ แต่เขาก้อให้พูดกับผู้หญิง และบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงาน อย่าคิดมาก ไม่มีอะไร
อยู่มาวันนึง. เรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อนก้อทำให้หัวใจแทบสลาย น้องถ่ายรูปรองเท้าคัทชูผู้หญิงหน้าบ้านให้ดูตอนเที่ยง และถามว่าใช่รองเท้าฉันป่าว เมื่อดูแล้วไม่ใช่ ก้อเลยให้น้องแอบเฝ้าดูไว้ ตอนนั้นใจนี้เดือดเป็นไฟแล้ว ขับรถระยะทางจากที่ทำงาน 20 กม เพียง 20 กว่านาทีมั้ง แต่ด้วยความคับแค้นใจ โทรหาแม่สามีว่าลูกชายเขาพาผู้หญิงเข้ามานอนที่บ้านตอนเที่ยงๆ ที่เราไม่อยู่ เขาบอกว่า ถ้าถึงขั้นแตกหัก ก้ออย่าขายทรัพย์สินนะ เผื่อกลับมาดีกันได้
สงสัยว่าแม่เขาคงโทรบอกลูกชายให้รู้ตัว เลยหนีออกจากบ้านไปก่อน เราโทรตามให้มาเคลียร์ว่าจะเอายังไง ทำอย่างนี้มันหยามกันมาก ฉันไล่เขาออกจากบ้าน แต่เขาไม่ไป. แถมไม่ยอมรับด้วยว่าพามากัน ฉันโทรไปที่ทำงานผู้หญิง ให้มาคุย ฉันไม่ต้องการผู้ชาย
คนนี้แล้ว ผู้หญิงก้อบอกว่าก้อให้สามีเราเป็นคนมาหาเขาเอง บางทีรู้สึกเหมือนสามีเราเขาไม่เอาผู้หญิงคนนี้จริง เพราะเขาบอกเลือกครอบครัว เลือกเรา จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ผ่านไปไม่กี่วัน ผู้หญิงก้อโทรมาราวีตลอด เราไม่ไหว พาลูกหนีไปอยู่กับเพื่อนที่ทำงานเก่า สามีทั้งโทรตามและตามหาตลอด เขาบอกขาดเราและลูกไม่ได้ ให้กลับมาและสัญญาจะไม่นอกใจอีก เราใจอ่อนกลับไปและเขียนหนังสือสัญญาว่าถ้าหากทำอีก ให้เขาออกไปแต่ตัว ไม่มีการอ้างสิทธิ์ในลูกและสมบัติทั้งสิ้น หลังจากนั้นก้อได้ข่าวผู้หญิงคนนั้นติดคุกในคดียาเสพติด เวรกรรมตามสนองทันตาเห็น
หลังจากนั้นผ่านมา 3-4 ปี มีเจ้าหน้าที่ใหม่เข้ามาทำงานที่ทำงานสามี เป็นคนสวย น่ารัก เฟรนลี่ เห็นเขามาเม้นท์โพสต์สามี ก้อถามว่าใคร สามีบอกว่าเพื่อนทีทำงาน. อย่าคิดมาก เขามีลูกมีผัวกันแล้ว สืบมา ก้อมีครอบครัวแล้วจริงๆ
มีวันนึง ฉันเจอปัญหาที่ทำงาน โทรไประบายความอัดอั้นตันใจให้สามีฟัง เขาก้อปลอบใจว่าจะพาไปกินข้าว ดูหนัง พอถึงเวลานัด เขาก้อบอกติดงาน กลับ 3 ทุ่ม พอโทรอีกทีก้อปิดเครื่องไม่รับแล้ว. คืนนั้นทั้งคืน ฉันนอนไม่หลับ ร้องไห้ตลอด ใจก้อนึกว่าทำไมเวลาเรามีปัญหาแต่ละครั้ง ไม่เคยมีเขาอยู่เคียงข้างเราเลย ด้วยความน้อยใจและตาบวม เนื่องจากผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน ไม่กล้าไปทำงาน จึงกะจะไปพักกะน้องสักสองวัน ประมาณ 7 โมงเช้า สามีกลับมา เห็นเราเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง ก้อรีบเอาไปเก็บ แล้วถามว่ามีอะไร ฉันทั้งโมโหและร้องไห้ว่าเวลามีปัญหาไม่เคยมีเขาอยู่เคียงข้างเลย เขาเลยบอกว่าที่หายไป เพื่อนชวนไปกินเหล้า. ไม่มีอะไร เขาติดเพื่อน แต่เราดมกลิ่นตัวแล้วไม่ใช่ เขาก้อเลยเบี่ยงว่าเล่นการพนันกันทั้งคืน กินนิดหน่อย เขากลัวเราหนี เลยชวนไปรับลูกกลับจากบ้านย่า ตอนนั้นใกล้เปิดเทอมแล้ว พอขึ้นรถ เราดันไปเห็นไลน์ที่สามีเราพิมพ์แบบถูกๆ. ผิดๆ ว่า พี่รักตัวเองที่สุดในโลก ผู้หญิงก้อตอบกลับว่า สัญญานะจะเป็นเด็กดี มันเป็นคนเดียวกะที่เราถามว่าคนที่มาเม้นท์นี้ใคร
ทำไงดีกะผู้ชายเจ้าชู้ไม่หาย กะผู้หญิงชอบแย่งของคนอื่น
สัญชาตญาณความเป็นผู้หญิงที่เรียกว่าเมีย ก้อพอจะสังเกตพฤติกรรมความเปลี่ยนแปลงของสามีตัวเองได้ว่าเปลี่ยนไป แต่งตัวเก่งขึ้น. ใช้เงินเก่ง และหวงโทรศัพท์ ชอบปลีกตัวขึ้นชั้นบนและล็อคห้อง เคยมีอยู่ครั้งนึงผู้หญิงโทรมา ว่าออกมาหรือยัง. และบางทีโทรไปหาสามีก้อมีเสียงผู้หญิงอยู่ข้างๆ แต่เขาก้อให้พูดกับผู้หญิง และบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงาน อย่าคิดมาก ไม่มีอะไร
อยู่มาวันนึง. เรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อนก้อทำให้หัวใจแทบสลาย น้องถ่ายรูปรองเท้าคัทชูผู้หญิงหน้าบ้านให้ดูตอนเที่ยง และถามว่าใช่รองเท้าฉันป่าว เมื่อดูแล้วไม่ใช่ ก้อเลยให้น้องแอบเฝ้าดูไว้ ตอนนั้นใจนี้เดือดเป็นไฟแล้ว ขับรถระยะทางจากที่ทำงาน 20 กม เพียง 20 กว่านาทีมั้ง แต่ด้วยความคับแค้นใจ โทรหาแม่สามีว่าลูกชายเขาพาผู้หญิงเข้ามานอนที่บ้านตอนเที่ยงๆ ที่เราไม่อยู่ เขาบอกว่า ถ้าถึงขั้นแตกหัก ก้ออย่าขายทรัพย์สินนะ เผื่อกลับมาดีกันได้
สงสัยว่าแม่เขาคงโทรบอกลูกชายให้รู้ตัว เลยหนีออกจากบ้านไปก่อน เราโทรตามให้มาเคลียร์ว่าจะเอายังไง ทำอย่างนี้มันหยามกันมาก ฉันไล่เขาออกจากบ้าน แต่เขาไม่ไป. แถมไม่ยอมรับด้วยว่าพามากัน ฉันโทรไปที่ทำงานผู้หญิง ให้มาคุย ฉันไม่ต้องการผู้ชายคนนี้แล้ว ผู้หญิงก้อบอกว่าก้อให้สามีเราเป็นคนมาหาเขาเอง บางทีรู้สึกเหมือนสามีเราเขาไม่เอาผู้หญิงคนนี้จริง เพราะเขาบอกเลือกครอบครัว เลือกเรา จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ผ่านไปไม่กี่วัน ผู้หญิงก้อโทรมาราวีตลอด เราไม่ไหว พาลูกหนีไปอยู่กับเพื่อนที่ทำงานเก่า สามีทั้งโทรตามและตามหาตลอด เขาบอกขาดเราและลูกไม่ได้ ให้กลับมาและสัญญาจะไม่นอกใจอีก เราใจอ่อนกลับไปและเขียนหนังสือสัญญาว่าถ้าหากทำอีก ให้เขาออกไปแต่ตัว ไม่มีการอ้างสิทธิ์ในลูกและสมบัติทั้งสิ้น หลังจากนั้นก้อได้ข่าวผู้หญิงคนนั้นติดคุกในคดียาเสพติด เวรกรรมตามสนองทันตาเห็น
หลังจากนั้นผ่านมา 3-4 ปี มีเจ้าหน้าที่ใหม่เข้ามาทำงานที่ทำงานสามี เป็นคนสวย น่ารัก เฟรนลี่ เห็นเขามาเม้นท์โพสต์สามี ก้อถามว่าใคร สามีบอกว่าเพื่อนทีทำงาน. อย่าคิดมาก เขามีลูกมีผัวกันแล้ว สืบมา ก้อมีครอบครัวแล้วจริงๆ
มีวันนึง ฉันเจอปัญหาที่ทำงาน โทรไประบายความอัดอั้นตันใจให้สามีฟัง เขาก้อปลอบใจว่าจะพาไปกินข้าว ดูหนัง พอถึงเวลานัด เขาก้อบอกติดงาน กลับ 3 ทุ่ม พอโทรอีกทีก้อปิดเครื่องไม่รับแล้ว. คืนนั้นทั้งคืน ฉันนอนไม่หลับ ร้องไห้ตลอด ใจก้อนึกว่าทำไมเวลาเรามีปัญหาแต่ละครั้ง ไม่เคยมีเขาอยู่เคียงข้างเราเลย ด้วยความน้อยใจและตาบวม เนื่องจากผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน ไม่กล้าไปทำงาน จึงกะจะไปพักกะน้องสักสองวัน ประมาณ 7 โมงเช้า สามีกลับมา เห็นเราเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง ก้อรีบเอาไปเก็บ แล้วถามว่ามีอะไร ฉันทั้งโมโหและร้องไห้ว่าเวลามีปัญหาไม่เคยมีเขาอยู่เคียงข้างเลย เขาเลยบอกว่าที่หายไป เพื่อนชวนไปกินเหล้า. ไม่มีอะไร เขาติดเพื่อน แต่เราดมกลิ่นตัวแล้วไม่ใช่ เขาก้อเลยเบี่ยงว่าเล่นการพนันกันทั้งคืน กินนิดหน่อย เขากลัวเราหนี เลยชวนไปรับลูกกลับจากบ้านย่า ตอนนั้นใกล้เปิดเทอมแล้ว พอขึ้นรถ เราดันไปเห็นไลน์ที่สามีเราพิมพ์แบบถูกๆ. ผิดๆ ว่า พี่รักตัวเองที่สุดในโลก ผู้หญิงก้อตอบกลับว่า สัญญานะจะเป็นเด็กดี มันเป็นคนเดียวกะที่เราถามว่าคนที่มาเม้นท์นี้ใคร