เนื้อเรื่อง มี 2 ตอนคะ
ตอนที่ 1 ไม่ได้ทำการซื้อขาย
ตอนที่ 2 มีการซื้อขาย (ตอนนี้ละคะที่มีปัญหา)
วันที่ 29 พ.ค. 2556 ตอนที่ 1
ได้ต้อนรับลูกค้าชาวอิสราเอลคะ ขอใช้ชื่อว่านายสุ
พามาดูสินค้ามือ2 ที่ฉันขายอยู่คะ ทางฉันเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ
คุยกับเขาใช้ภาษามือ วาดรูปอธิบาย และก็แอพแปลภาษาคะ
ก็คุยกันลำบากพอดู ซึ่งนายสุก็ดูเข้าใจดีคะ แต่ฉันก็ยังไม่มั่นใจ
จึงใช้ตัวช่วยคะ นายสุมีภรรยาเป็นคนไทย
ฉันจึงใช้วิธีการสรุปโดยคุยผ่านโทรศัพท์ให้ภรรยานายสุฟัง แล้วให้เขาคุยกับนายสุคะ
เข้าก็บอกว่า นายสุเข้าใจทุกอย่างตามที่ดิฉันบอกเลยคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นายสุ ในวันนั้นมีทั้งวิดีโอคอลกับญาติ และถ่ายรูป
และนายสุก็ได้ทำการซื้อสินค้าจากดิฉันไปในจำนวนไม่เกิน 30 ตัวคะ (จำจำนวนแน่ชัดไม่ค่อยได้คะ)
แต่ขอซื้อในราคาเรทที่ฉันขายสำหรับ 500 ตัวคะ
ตอนแรกฉันก็ไม่ยอมลดคะ เพราะทางฉันเองมีเรทราคาที่กำหนดไว้ชัดเจน
แต่คุยกันนานจนเหนื่อย เลยยอมๆขายไปคะ จะได้จบการขาย
หลังจากนั้น ก็มีการติดต่อคุยกันเหมือนจะซื้อขาย
แต่ติดประเด็นเหล่านี่คะ
1.ฉันต้องการเงินมัดจำสินค้า 50% ของยอดรวมสินค้า
เพราะเป็นเพียงร้านเล็กๆก็อยากได้เงินไปหมุนเวียนในการจัดทำสินค้า
แต่เขาไม่ยอมมัดจำใดๆทั้งสิ้นจะจ่ายเงินเมื่อได้สินค้าเท่านั้น
2.ตอนนั้นเขาเสนอเป็นการว่าเขาจะโอนเงิน100% ให้ธนาคาร เมื่อส่งของครบ
ธนาคารก็จะปลดล็อค และเราก็รับเงินได้ (ไม่แน่ใจนะคะว่าเรียกว่าการเปิด L/C รึป่าว)
ซึ่งฉันก็กลัวโดนหลอกเอาของไปฟรีๆก็ไม่เลยไม่ตกลงซื้อขาย
3. นายสุ เหมือนเป็นตัวกลางมาซื้อขายแทนญาติของเขา
ญาติของเขาต้องโอเคกับข้อตกลงต่างๆก่อน เขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจทำอะไรได้
สรุป ต่างคนต่างไม่ไว้ใจกันคะ และมีเหตุผลจุกจิกอีกหลายอย่างจากทางเขาเลยไม่ได้ทำการซื้อขายกันคะ
*ปวดหัวสุดๆ*เมื่อมีลูกค้าเป็นคนอิสราเอล (อยากปรึกษาเรื่องกฏหมายด้วยคะ)
ตอนที่ 1 ไม่ได้ทำการซื้อขาย
ตอนที่ 2 มีการซื้อขาย (ตอนนี้ละคะที่มีปัญหา)
วันที่ 29 พ.ค. 2556 ตอนที่ 1
ได้ต้อนรับลูกค้าชาวอิสราเอลคะ ขอใช้ชื่อว่านายสุ
พามาดูสินค้ามือ2 ที่ฉันขายอยู่คะ ทางฉันเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ
คุยกับเขาใช้ภาษามือ วาดรูปอธิบาย และก็แอพแปลภาษาคะ
ก็คุยกันลำบากพอดู ซึ่งนายสุก็ดูเข้าใจดีคะ แต่ฉันก็ยังไม่มั่นใจ
จึงใช้ตัวช่วยคะ นายสุมีภรรยาเป็นคนไทย
ฉันจึงใช้วิธีการสรุปโดยคุยผ่านโทรศัพท์ให้ภรรยานายสุฟัง แล้วให้เขาคุยกับนายสุคะ
เข้าก็บอกว่า นายสุเข้าใจทุกอย่างตามที่ดิฉันบอกเลยคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และนายสุก็ได้ทำการซื้อสินค้าจากดิฉันไปในจำนวนไม่เกิน 30 ตัวคะ (จำจำนวนแน่ชัดไม่ค่อยได้คะ)
แต่ขอซื้อในราคาเรทที่ฉันขายสำหรับ 500 ตัวคะ
ตอนแรกฉันก็ไม่ยอมลดคะ เพราะทางฉันเองมีเรทราคาที่กำหนดไว้ชัดเจน
แต่คุยกันนานจนเหนื่อย เลยยอมๆขายไปคะ จะได้จบการขาย
หลังจากนั้น ก็มีการติดต่อคุยกันเหมือนจะซื้อขาย
แต่ติดประเด็นเหล่านี่คะ
1.ฉันต้องการเงินมัดจำสินค้า 50% ของยอดรวมสินค้า
เพราะเป็นเพียงร้านเล็กๆก็อยากได้เงินไปหมุนเวียนในการจัดทำสินค้า
แต่เขาไม่ยอมมัดจำใดๆทั้งสิ้นจะจ่ายเงินเมื่อได้สินค้าเท่านั้น
2.ตอนนั้นเขาเสนอเป็นการว่าเขาจะโอนเงิน100% ให้ธนาคาร เมื่อส่งของครบ
ธนาคารก็จะปลดล็อค และเราก็รับเงินได้ (ไม่แน่ใจนะคะว่าเรียกว่าการเปิด L/C รึป่าว)
ซึ่งฉันก็กลัวโดนหลอกเอาของไปฟรีๆก็ไม่เลยไม่ตกลงซื้อขาย
3. นายสุ เหมือนเป็นตัวกลางมาซื้อขายแทนญาติของเขา
ญาติของเขาต้องโอเคกับข้อตกลงต่างๆก่อน เขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจทำอะไรได้
สรุป ต่างคนต่างไม่ไว้ใจกันคะ และมีเหตุผลจุกจิกอีกหลายอย่างจากทางเขาเลยไม่ได้ทำการซื้อขายกันคะ