**ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลนะครับ เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เมื่อก่อนผมก็จะเหมือนกับคนทั่วไปที่ชื่นชอบการดูหนังแอ็คชั่น แต่ระยะหลังพอโตขึ้นได้เจอเว็บ IMDB ก็แปลกใจกับคะแนนหนังหลายๆเรื่องที่สูงมากๆ ในขณะที่หนังแอ็คชั่นดีๆส่วนใหญ่คะแนนจะอยู่ระหว่าง 6-7 จึงทำให้ลองหาหนังหลายๆแนวมาดู มันเหมือนกับได้พบโลกใบใหม่เลย
ตอนเป็นเด็กที่เคยรำคาญช่วงดราม่าของหนัง เคยงงกับอเมริกันโจ๊กที่ว่ามันขำตรงไหน มาตอนนี้สามารถซึมซับความยอดเยี่ยมเหล่านั้นได้แล้ว แม้กระทั่งย้อนกลับไปดูหนังบางเรื่องที่เคยดูตอนเด็ก มันกลับสนุกยิ่งกว่าเดิมเพราะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้ามไป
เคยไปดูกัปตันอเมริกา2กับเพื่อน ไอ้เราก็นั่งขำกับมุกจิกกัดที่แทรกตลอดทั้งเรื่อง พอออกจากโรงมาโดนถามว่า ขำอะไรหรอเห็นหัวเราะจัง หรือแม้กระทั่งแกรนด์บูดาเปสโฮเต็ล ที่เพื่อนๆส่วนใหญ่ที่ดูก็จะขำกันแค่ช่วงแหกคุก สกี ดวลปืน ทั้งๆที่เรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่านั้นแท้ๆ
ระยะหลังนี้พยายามให้น้องๆที่รู้จักกันหลายๆคน หัดดูหนังสไตล์เน้นสตอรี่มากขึ้น เพราะอยากมีเพื่อนดูหนัง บางทีเราดูหนังเรื่องนี้แล้วชอบมาก แต่กลับไปคุยกับใครไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็ต้องมาเปิดอ่านรีวิวในพันทิป เพื่ออ่านความรู้สึกของคนอื่นที่ดูหนังเรื่องเดียวกับเรา ผมตั้งเกณฑ์กับน้องๆไว้ครับว่า เมื่อไหร่ที่เข้าใจ 3 ข้อนี้ แสดงว่าเราทันกันแล้ว
1.รู้ว่า Chapter แรกของ Inglourious Basterds ไม่ใช่ฉากน่าเบื่อ
2.ดู 12 Angry Men จนจบ แล้วรู้สึกว่ามันเจ๋ง
3.Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb เป็นหนังตลก
ไอ้ผมก็ไม่ใช่ปรมาจารย์หนังที่จะมาอวดตัวได้หรอกนะครับ จริงๆยังมีหนังอีกหลายแนวที่ผมยังเข้าไม่ถึงอยู่ ทุกวันนี้ก็เริ่มหัดดูหนังซาวด์แทร็คทั้งๆที่เป็นคนอ่อนภาษา แต่อารมณ์ที่ได้มันต่างกันจริงๆ เช่นเรื่อง Whiplash ใครไม่ได้ดูซาวด์แทร็ค อย่าเพิ่งวิจารณ์ J.K. Simmons นะครับ
ทุกท่านล่ะครับ มีเกณฑ์หรือแนวคิดยังไงเกี่ยวกับหนังฮอลลีวูดบ้าง มาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ
ทุกท่านมีเกณฑ์ยังไงที่บ่งบอกว่าคนๆนี้เข้าถึงหนังฮอลลีวูดแล้ว
เมื่อก่อนผมก็จะเหมือนกับคนทั่วไปที่ชื่นชอบการดูหนังแอ็คชั่น แต่ระยะหลังพอโตขึ้นได้เจอเว็บ IMDB ก็แปลกใจกับคะแนนหนังหลายๆเรื่องที่สูงมากๆ ในขณะที่หนังแอ็คชั่นดีๆส่วนใหญ่คะแนนจะอยู่ระหว่าง 6-7 จึงทำให้ลองหาหนังหลายๆแนวมาดู มันเหมือนกับได้พบโลกใบใหม่เลย
ตอนเป็นเด็กที่เคยรำคาญช่วงดราม่าของหนัง เคยงงกับอเมริกันโจ๊กที่ว่ามันขำตรงไหน มาตอนนี้สามารถซึมซับความยอดเยี่ยมเหล่านั้นได้แล้ว แม้กระทั่งย้อนกลับไปดูหนังบางเรื่องที่เคยดูตอนเด็ก มันกลับสนุกยิ่งกว่าเดิมเพราะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้ามไป
เคยไปดูกัปตันอเมริกา2กับเพื่อน ไอ้เราก็นั่งขำกับมุกจิกกัดที่แทรกตลอดทั้งเรื่อง พอออกจากโรงมาโดนถามว่า ขำอะไรหรอเห็นหัวเราะจัง หรือแม้กระทั่งแกรนด์บูดาเปสโฮเต็ล ที่เพื่อนๆส่วนใหญ่ที่ดูก็จะขำกันแค่ช่วงแหกคุก สกี ดวลปืน ทั้งๆที่เรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่านั้นแท้ๆ
ระยะหลังนี้พยายามให้น้องๆที่รู้จักกันหลายๆคน หัดดูหนังสไตล์เน้นสตอรี่มากขึ้น เพราะอยากมีเพื่อนดูหนัง บางทีเราดูหนังเรื่องนี้แล้วชอบมาก แต่กลับไปคุยกับใครไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็ต้องมาเปิดอ่านรีวิวในพันทิป เพื่ออ่านความรู้สึกของคนอื่นที่ดูหนังเรื่องเดียวกับเรา ผมตั้งเกณฑ์กับน้องๆไว้ครับว่า เมื่อไหร่ที่เข้าใจ 3 ข้อนี้ แสดงว่าเราทันกันแล้ว
1.รู้ว่า Chapter แรกของ Inglourious Basterds ไม่ใช่ฉากน่าเบื่อ
2.ดู 12 Angry Men จนจบ แล้วรู้สึกว่ามันเจ๋ง
3.Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb เป็นหนังตลก
ไอ้ผมก็ไม่ใช่ปรมาจารย์หนังที่จะมาอวดตัวได้หรอกนะครับ จริงๆยังมีหนังอีกหลายแนวที่ผมยังเข้าไม่ถึงอยู่ ทุกวันนี้ก็เริ่มหัดดูหนังซาวด์แทร็คทั้งๆที่เป็นคนอ่อนภาษา แต่อารมณ์ที่ได้มันต่างกันจริงๆ เช่นเรื่อง Whiplash ใครไม่ได้ดูซาวด์แทร็ค อย่าเพิ่งวิจารณ์ J.K. Simmons นะครับ
ทุกท่านล่ะครับ มีเกณฑ์หรือแนวคิดยังไงเกี่ยวกับหนังฮอลลีวูดบ้าง มาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ