พากย์ไทยบท "โจ๊กเกอร์" ในเรื่อง Suicide Squad ทำลายทุกอย่าง



สวัสดี...กระทู้แรกของการมาอยู่บนพันทิพย์ก็เปิดตัวด้วยการบ่นเลยแหละ ^ ^

ตามที่กล่าวในหัวข้อเลย...พากย์ไทยในบทโจ๊กเกอร์ทำลายทุกอย่าง...
แต่ทุกอย่างในที่นี้ไม่ใช่ทุกอย่างของตัวหนัง (ในส่วนหนังไม่ขอวิจารณ์ เพราะรวมๆแล้วก็สนุกบ้างง่วงบ้างเป็นบางช่วง)
แต่ทุกอย่างที่ว่ามันคือทุกอย่างของอารมณ์ในบทและน้ำเสียงความสะใจในถ้อยคำที่ตัวนักแสดงทำไว้ให้กลายเป็น พัง พัง พัง และพัง

เอ้าแล้วทำไมเพิ่งมาบ่น...หนังตั้งแต่ปีที่แล้ว...อันที่จริงอยากบ่นตั้งแต่เข้าไปดูในโรงรอบแรกแต่ยังไม่ชัวร์
ขอเข้าไปดูอีกรอบแต่เป็นแบบซาวด์แทร็ค...โห...พอดูแบบเรียลๆ ไม่มีเสียงพากย์ อารมณ์เหมือนหนังคนละม้วนเลย
แต่ก็ยังไม่กล้าบ่นนะ...เวลาผ่านมามันติดคาอยู่ในใจ เลยย้อนดูกลับไปกลับมาซักสองรอบทั้งพากย์ไทยและซาวด์แทร็ค
มันก็เลยอดรนทนไม่ไหวขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่มาบ่นหน่อยเถอะ (ไม่รู้ว่าในเรื่องเกี่ยวกับการพากย์ไทยของบทนี้มีคนบ่นไปหรือยัง)

คราวนี้มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าไปดู Suicide Squad แบบพากย์มากกว่าแบบซาวด์แทร็ค
แล้วก็รู้สึกว่า เจเร็ตเล่นไม่ถึง ไม่เป็นธรรมชาติ ดูพยายามมากเกินไป บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ (เอามือทาบอก สะเทือนใจ)
อยากจะบอกว่าเห็นด้วยสุดๆ พอไปดูพากย์ไทยแล้วคิดแบบนั้นจริงๆ แอบน้อยอกน้อยใจในตัวเจเร็ต
ว่าทำไม๊ทำไมถึงทำกันแบบนี้ แต่งตัวซะหล่อ ลงทุนโกนคิ้ว ย้อมผมเขียว ขอบตาดำ ทาปากแดงซะขนาดนั้น
แถมตอนแสดงก็ถึงขั้นต้องเข้าพบจิตแพทย์เพราะเกิดการอินกับบทเกินไปจนเกือบจะถูกบทกลืนกินตัวตน
แต่ดั๊นหนังออกมาดูเหมือนพวกหื่นกาม(จากน้ำเสียงการพากย์) มากกว่าคนที่มีอาการทางประสาทที่มีความขัดแย้งในตัวเอง
และน้ำเสียงในการพากย์ คำพูดคำจาก็ดูขัดกับท่าทางการแสดงออกของสีหน้าแววตา มันขัดหูขัดตาไปหมด โอ้แม่เจ้า



จากตอนแรกที่เหวี่ยงทุกอย่างไปที่เจเร็ต...แต่พอไปดูแบบซาวด์แทร็คจบ อารมณ์ประมาณว่า เห๊ยยยย...อะไรกันนิ
มันคนละอย่างกันเลย น้ำเสียงบวกกับท่าทางที่เคยมองว่ามันดูขัดกันไปหมดกลับกลายเป็นความสะใจในอารมณ์นั้น
ความย้อนแย้งภายในที่เกิดขึ้นกับตัวโจ๊กเกอร์ว่าจะร้ายหรือจะรัก ก็ทำได้ดีเชียวล่ะ น้ำเสียงที่เคยฟังเป็นพวกหื่นกาม
พอฟังเสียงของนักแสดงจริงๆ มันได้อารมณ์มากกว่า พอออกจากโรงมาตอนนั้นคิดกับตัวเองว่า
อะไรวะ...เหมือนดูหนังคนละเรื่องทั้งที่ก็เรื่องเดียวกัน บทโจ๊กเกอร์คนเดียวกัน
เพียงแต่รอบแรกพากย์ไทยกับรอบสองแบบซาวด์แทร็ค

เลยมานั่งคิดว่า...ตกลงมันเป็นเพราะคนพากย์ไม่สามารถเข้าถึงจุดที่นักแสดงทำไว้ใช่มั้ย?
หรือว่าคนที่พากย์เขาเข้าใจอารมณ์ของตัวละครไปอีกแบบ (ตีโจทย์ไปคนละข้อ)
แต่อยากจะบอกว่าซาวด์แทร็คดีกว่ามากจริงๆ (เฉพาะในส่วนของบทโจ๊กเกอร์)
ส่วนพากย์ไทยนั้นยังยืนยันคำเดิมว่าพัง พัง พัง และพัง

สำหรับเรื่องเปรียบเทียบเวอร์ชั่นเก่ากับใหม่
คือหนังก็เรื่องใหม่ บทก็ใหม่ คนแสดงก็คนใหม่ การตีความก็ฉีกไปจากเดิม
เขาบอกชัดอยู่แล้วว่าจะทำโจ๊กเกอร์ให้ฉีกไปจากเดิมแบบสิ้นเชิง
เวอร์ชั่นเก่า ฮีธ (นักแสดงคนก่อนที่เสียชีวิตไป) ทำไว้ดีงามโคตรๆ อันนั้นไม่เถียง เป็นภาพจดจำแบบนั้นจริงๆ (ปรบมือ)
ต่อให้ใครไปแสดงเป็นคาแร็คเตอร์ที่เหมือนกับที่ฮีธทำไว้ในครั้งนั้น หน้าไหนก็สู้ไม่ได้พูดเลย

แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคาแร็คเตอร์ที่เจเร็ตสร้างขึ้นเป็นเครื่องหมายการค้าของโจ๊กเกอร์ยุคปัจจุบันก็โดดเด่นทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นทรงผม การแต่งหน้า การแต่งตัว ใส่สูท มีรอยสัก ไฮแฟชั่น เสียงหัวเราะ ความยูนีค และมีกลิ่นของการเป็นแก๊งค์สเตอร์
ซึ่งเป็นโจ๊กเกอร์ยุคใหม่ที่หล่อขึ้น กวนขึ้น แว๊นขึ้น เซ็กซี่ขึ้น มีความทันสมัยมากขึ้นในหลายๆอย่าง ที่มันแปลกใหม่สำหรับเรา
ภาพที่เราจดจำในบทโจ๊กเกอร์ใครจะคิดว่ามันจะฉีกมาได้ขนาดนี้

บอกว่าโจ๊กเกอร์ของเจเร็ตเทียบฮีธไม่ได้ อารมณ์ไม่ได้แบบฮีธทำ...จริง เห็นด้วย
ถ้าเอาโจ๊กเกอร์เวอร์ชั่นเจเร็ตไปอยู่ในหนังของฮีธมันเทียบไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งการตีความและองค์ประกอบของหนัง
แต่ถ้าเอาโจ๊กเกอร์ของฮีธมาอยู่ในเรื่อง Suicide Squad ก็เทียบการตีความของเจเร็ตไม่ได้ เชื่อสิ
หนังใคร หนังมัน แค่ทามไลน์ในเรื่องก็ต่างกันแล้ว โจ๊กเกอร์ของฮีธเป็นบทเด่น โจ๊กเกอร์ของเจเร็ตเป็นแค่บทเสริมของ ฮาร์ลีย์ ควีนน์

ตอนแรกที่รู้ว่าเจเร็ตได้บทโจ๊กเกอร์คือรู้สึกสบายใจมาก...เพราะด้วยผลงานที่ผ่านมา และรางวัลสมทบชายออสการ์การันตีมาเรียบร้อย
จึงเชื่อสนิทใจแบบไม่มีข้อสงสัยว่าเจเร็ตจะแสดงบทนี้ออกมาได้ดีแน่นอน...ซึ่งเขาก็ทำได้ดีแบบไม่น่าผิดหวังเลยในความรู้สึกของเรา
แต่อาจจะแปลกใหม่สำหรับคนบางคน...แต่ถ้าเราตัดภาพเดิมๆ ของบทโจ๊กเกอร์ออกไป เปิดใจรับรูปแบบใหม่ในปัจจุบัน
เชื่อว่าหลายคนจะสนุกกับการดูมากกว่านี้...บทโจ๊กเกอร์สร้างสีสันให้กับเรื่องได้ดีทีเดียว

สุดท้ายและท้ายสุด จะไม่มานั่งเรียกร้องว่าถ้ามีพากย์ต่อไปขอให้คนพากย์ทำการบ้านมากกว่านี้ ไม่ค่ะ...เราจะไม่เรียกร้อง
เพราะเราเจอทางเลือกของเราแล้ว นั่นคือ ซาวด์แทร็ก เท่านั้นคือทางออก

ถ้าจะเรียกร้องจริงๆ ถ้าผู้กำกับอ่านภาษาไทยออก(หวังว่า ^ ^) ขอให้ประณีตมากกว่านี้หน่อย ฉากบู้ตอนยิงกันถ้าใส่ซาวด์เพลง
ที่ใส่มาในตัวอย่างหนังนะ จะเพิ่มความมันได้มากเลย นี่มันดูเงียบๆ อึนๆ มันไม่สุด และการเรียบเรียงฉาก
ยังมีแผลเยอะอยู่ในความรู้สึก...ภาคต่อไปก็หวังแหละว่าจะออกมาดีกว่าเดิมมาก เพราะภาคแรกเจอวิจารณ์ยับซะ
ยังไงภาคต่อไปก็จะติดตาม...(หลงรักพ่อรอยสักคนนั้น...ตกลงนางตายมั้ย?)

เอาล่ะ...พอแค่นี้แหละกับกระทู้แรกบนพันทิพย์
โต้ตอบได้ด่าได้ แต่อย่าแรงนะ เค้าอ่อนแอต่อสภาวะทางอารมณ์ T T เดี๋ยวมีอะไรจะมาบ่นใหม่ บ๊ายยยย ^ ^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่