กมธ.ยกร่างฯ แฉทุจริตวงการศึกษาย้ายตามหลัก กม.
http://www.thairath.co.th/content/493838
นายกฯ แจงย้ายข้าราชการศธ. เพื่อปฏิรูป ไม่เกี่ยวคดีทุจริต
http://www.thairath.co.th/content/494041
'บิ๊กต๊อก' ถก 4 หน่วยงานหลักพรุ่งนี้ สอบปมทุจริต ศธ.
http://www.thairath.co.th/content/494040
ย้ายด้วยอำนาจพิเศษ...โดย ซี.12
http://www.thairath.co.th/content/493796
แถมอีก 1 คอลัมน์ค่ะ อ่านกันเต็มๆ
ขจัดต้นตอก่อนปฏิรูปศึกษา
ก่อนที่จะถึงชุดใหญ่ 100 ข้าราชการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้รับรายชื่อจาก
ป.ป.ท. เนื่องจากสอบสวนแล้วพบว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริต ปรากฏว่าได้มีคำสั่งหัวหน้า
คสช. ให้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ 5 คน ตาม ม.44 อย่างเช่น
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเลขาธิการสภาการศึกษา นายพินิติ
รตะนานุกูล เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
นายกำจร ตติยกวี จากเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
นอกจากนี้ ยังพ่วงด้วยคำสั่งให้ปลดบอร์ดสำคัญอีก 3 ชุด และให้เลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการ
สกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
ทั้งนี้ จะให้ คตร.ตรวจสอบความถูกต้องและโปร่งใสในการใช้ จ่ายงบประมาณ การบริหารการเงิน
ทรัพย์สินและผลประโยชน์ของกรรมการทั้ง 3 ชุด ทั้งแง่บุคคลและองค์กรด้วย
คำสั่งของ คสช.ในเรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนการบริหารด้านศึกษาเพื่อให้สอดรับ
กับแนวทางปฏิรูปการศึกษา
และอีกส่วนหนึ่งว่าด้วยการทุจริตประพฤติมิชอบ
ในส่วนของการทุจริตคอร์รัปชันนั้น แม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ก็ไม่มีการสะสางหรือจัดการปัญหาให้
เป็นข้อยุติได้ เพราะมันพัวพันกันไปหมด ทั้งระดับหัวจนมาถึงผู้รับผิดชอบในแต่ละองค์กรที่มีนอก
มีในเกาะเกี่ยวกันไปหมด
จะเล่นงานหัวก็ติดหาง จะเล่นงานหางก็ติดหัว
อย่างกรณีที่มีการนำเงินกว่า 2,000 ล้านบาทของ สอศ. ไปลงทุนโครงการพลังงานไฟฟ้า
ทดแทนกับภาคเอกชนนั้น ก็ชัดเจนว่ามีความไม่ชอบมาพากล โดยมีบอร์ดส่วนหนึ่งเข้าไป
มีอิทธิพลและเกี่ยวพันกับนักการเมืองเก่า
พอเรื่องบานออกไปก็ไปข่มขู่นักธุรกิจที่ร่วมลงทุนเพื่อเรียกเอาเงินและให้ใช้อำนาจบีบบอร์ด
ชุดใหม่ออก เพราะเกรงว่าจะถูกเปิดโปงจนเป็นข่าวเกรียวกราว
“ผู้ใหญ่ในกระทรวง” ที่จะต้องรับผิดชอบต่างก็เงียบไม่กล้าเข้าไปจัดการ เพราะได้ข่าวว่ามีส่วนได้
เสียด้วย พูดง่ายๆว่าลูบหน้าปะจมูกกันไปหมด
ทุกอย่างมันเลยเละเทะกันไปหมด
อีกเรื่องก็คือการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ มีปัญหามาตั้งแต่ต้น เมื่อ คสช. เข้ามาดูแลใหม่ๆ
ได้มีการสอบถามว่ากระทรวงศึกษาฯมีแนวคิดที่จะปฏิรูปอย่างไรบ้างก็ไม่ได้คำตอบ ถามอะไรก็ไม่รู้
ตอนนั้นก็เกือบจะสั่งปลดอยู่แล้วโชคดีที่ยังเกาะเก้าอี้เหนียวอยู่
จนกระทั่งมีการตั้งซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน เพราะเห็นว่าหากปล่อย
ให้ข้าราชการทำกันเองคงไม่ได้เรื่อง จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาและก็ได้เรื่องจริงๆ เพราะข้าราชการใน
ส่วนที่รับผิดชอบไม่ได้ทำอะไรกันเลย
อีกทั้งยังไม่ยอมรับฟังความเห็น ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
5 แท่งสำคัญที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในด้านการศึกษาคือ สำนักงานปลัดกระทรวงซึ่งจะต้อง
ประสานงานร่วมกันกับอีก 4 แท่ง คือสภาการศึกษา สภาอุดมศึกษา สภาการศึกษาขั้นพื้นฐาน
และสภา การอาชีวะ ต่างคนต่างทำงานไม่ได้มีการเชื่อมต่อกันแม้แต่น้อย แท่งใครแท่งมัน
ทุกอย่างมันเลยเละ แท่งใครแท่งมันไม่ได้มีการประสานเชื่อม ต่อ ปลัดกระทรวงศึกษาฯที่ควรจะเป็น
แม่งานสำคัญก็เอาตัวรอดไปวันๆ ไม่มีแนวคิดหรือแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
กลายเป็นว่าระยะเวลา 8-9 เดือน การจะปฏิรูปการศึกษาจึงไม่มีอะไรคืบหน้า วนเวียนกันอยู่แต่เรื่อง
ตำแหน่งแห่งหน ความก้าวหน้าเฉพาะตัว
ไม่ได้คิดถึงเด็กนักเรียน ครู และระบบการศึกษา ซึ่งเป็น “ต้นตอ” สำคัญ.
“สายล่อฟ้า”
http://www.thairath.co.th/content/493783
เลขาธิการ ..นายกฯ ไม่ได้รายงานหรือ ว่าตะละคน ให้ข่าวสื่อไปแบบไหน
ทำไมถึงปล่อยให้ท่าน ให้ข่าวสื่อ ขัดแย้งกับเจ้าของข่าว
แล้วแบบนี้ .... ผ็สื่อข่าวไทยรัฐ และคอลัมนิสต์ จะต้องถูกเชิญปรับทัศนะคติไหม ?
วันนี้ ขอราตรีสวัสดิ์ แต่หัวค่ำค่ะ เพราะต้องไปทำกายภาพรอบดึก ...
แถมพรุ่งนี้เช้าไปร.พ.อีก นี่คือภาระกิจผู้ชรา เจอกัน บ่ายๆ พรุ่งนี้ค่ะ ....
ย้ายข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ ...ไม่ตกลงกันก่อนว่าจะใช้เหตุผลอะไร ???? ...ไทยรัฐออนไลน์../sao..เหลือ..noi
http://www.thairath.co.th/content/493838
นายกฯ แจงย้ายข้าราชการศธ. เพื่อปฏิรูป ไม่เกี่ยวคดีทุจริต
http://www.thairath.co.th/content/494041
'บิ๊กต๊อก' ถก 4 หน่วยงานหลักพรุ่งนี้ สอบปมทุจริต ศธ.
http://www.thairath.co.th/content/494040
ย้ายด้วยอำนาจพิเศษ...โดย ซี.12
http://www.thairath.co.th/content/493796
แถมอีก 1 คอลัมน์ค่ะ อ่านกันเต็มๆ
ขจัดต้นตอก่อนปฏิรูปศึกษา
ก่อนที่จะถึงชุดใหญ่ 100 ข้าราชการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้รับรายชื่อจาก
ป.ป.ท. เนื่องจากสอบสวนแล้วพบว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริต ปรากฏว่าได้มีคำสั่งหัวหน้า
คสช. ให้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ 5 คน ตาม ม.44 อย่างเช่น
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเลขาธิการสภาการศึกษา นายพินิติ
รตะนานุกูล เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
นายกำจร ตติยกวี จากเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
นอกจากนี้ ยังพ่วงด้วยคำสั่งให้ปลดบอร์ดสำคัญอีก 3 ชุด และให้เลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการ
สกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
ทั้งนี้ จะให้ คตร.ตรวจสอบความถูกต้องและโปร่งใสในการใช้ จ่ายงบประมาณ การบริหารการเงิน
ทรัพย์สินและผลประโยชน์ของกรรมการทั้ง 3 ชุด ทั้งแง่บุคคลและองค์กรด้วย
คำสั่งของ คสช.ในเรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนการบริหารด้านศึกษาเพื่อให้สอดรับ
กับแนวทางปฏิรูปการศึกษา
และอีกส่วนหนึ่งว่าด้วยการทุจริตประพฤติมิชอบ
ในส่วนของการทุจริตคอร์รัปชันนั้น แม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ก็ไม่มีการสะสางหรือจัดการปัญหาให้
เป็นข้อยุติได้ เพราะมันพัวพันกันไปหมด ทั้งระดับหัวจนมาถึงผู้รับผิดชอบในแต่ละองค์กรที่มีนอก
มีในเกาะเกี่ยวกันไปหมด
จะเล่นงานหัวก็ติดหาง จะเล่นงานหางก็ติดหัว
อย่างกรณีที่มีการนำเงินกว่า 2,000 ล้านบาทของ สอศ. ไปลงทุนโครงการพลังงานไฟฟ้า
ทดแทนกับภาคเอกชนนั้น ก็ชัดเจนว่ามีความไม่ชอบมาพากล โดยมีบอร์ดส่วนหนึ่งเข้าไป
มีอิทธิพลและเกี่ยวพันกับนักการเมืองเก่า
พอเรื่องบานออกไปก็ไปข่มขู่นักธุรกิจที่ร่วมลงทุนเพื่อเรียกเอาเงินและให้ใช้อำนาจบีบบอร์ด
ชุดใหม่ออก เพราะเกรงว่าจะถูกเปิดโปงจนเป็นข่าวเกรียวกราว
“ผู้ใหญ่ในกระทรวง” ที่จะต้องรับผิดชอบต่างก็เงียบไม่กล้าเข้าไปจัดการ เพราะได้ข่าวว่ามีส่วนได้
เสียด้วย พูดง่ายๆว่าลูบหน้าปะจมูกกันไปหมด
ทุกอย่างมันเลยเละเทะกันไปหมด
อีกเรื่องก็คือการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ มีปัญหามาตั้งแต่ต้น เมื่อ คสช. เข้ามาดูแลใหม่ๆ
ได้มีการสอบถามว่ากระทรวงศึกษาฯมีแนวคิดที่จะปฏิรูปอย่างไรบ้างก็ไม่ได้คำตอบ ถามอะไรก็ไม่รู้
ตอนนั้นก็เกือบจะสั่งปลดอยู่แล้วโชคดีที่ยังเกาะเก้าอี้เหนียวอยู่
จนกระทั่งมีการตั้งซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน เพราะเห็นว่าหากปล่อย
ให้ข้าราชการทำกันเองคงไม่ได้เรื่อง จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาและก็ได้เรื่องจริงๆ เพราะข้าราชการใน
ส่วนที่รับผิดชอบไม่ได้ทำอะไรกันเลย
อีกทั้งยังไม่ยอมรับฟังความเห็น ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
5 แท่งสำคัญที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในด้านการศึกษาคือ สำนักงานปลัดกระทรวงซึ่งจะต้อง
ประสานงานร่วมกันกับอีก 4 แท่ง คือสภาการศึกษา สภาอุดมศึกษา สภาการศึกษาขั้นพื้นฐาน
และสภา การอาชีวะ ต่างคนต่างทำงานไม่ได้มีการเชื่อมต่อกันแม้แต่น้อย แท่งใครแท่งมัน
ทุกอย่างมันเลยเละ แท่งใครแท่งมันไม่ได้มีการประสานเชื่อม ต่อ ปลัดกระทรวงศึกษาฯที่ควรจะเป็น
แม่งานสำคัญก็เอาตัวรอดไปวันๆ ไม่มีแนวคิดหรือแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
กลายเป็นว่าระยะเวลา 8-9 เดือน การจะปฏิรูปการศึกษาจึงไม่มีอะไรคืบหน้า วนเวียนกันอยู่แต่เรื่อง
ตำแหน่งแห่งหน ความก้าวหน้าเฉพาะตัว
ไม่ได้คิดถึงเด็กนักเรียน ครู และระบบการศึกษา ซึ่งเป็น “ต้นตอ” สำคัญ.
“สายล่อฟ้า”
http://www.thairath.co.th/content/493783
เลขาธิการ ..นายกฯ ไม่ได้รายงานหรือ ว่าตะละคน ให้ข่าวสื่อไปแบบไหน
ทำไมถึงปล่อยให้ท่าน ให้ข่าวสื่อ ขัดแย้งกับเจ้าของข่าว
แล้วแบบนี้ .... ผ็สื่อข่าวไทยรัฐ และคอลัมนิสต์ จะต้องถูกเชิญปรับทัศนะคติไหม ?
วันนี้ ขอราตรีสวัสดิ์ แต่หัวค่ำค่ะ เพราะต้องไปทำกายภาพรอบดึก ...
แถมพรุ่งนี้เช้าไปร.พ.อีก นี่คือภาระกิจผู้ชรา เจอกัน บ่ายๆ พรุ่งนี้ค่ะ ....