จากที่วันนี้ 19/04/2558  อากาศประเทศไทยร้อนเหมือนอยู่ทะเลทราย  จะขาดก็แค่อูฐเท่านั้น  เมื่ออดทนเอาชีวิตรอดมาถึงตอนเย็นแดดหมดได้  ก็เกิดความหิวโหยที่ต้องหาร้านแอร์เย็นๆอาหารอร่อยๆกินให้สบายพุง  แล้วคำถามโลกแตกก็พุงเข้ามาในสมองว่า  "แล้วเย็นนี้จะกินอะไรดีวะ"  คิดได้ไม่ถึง 20 วินาที  แฟนก็ชวนไปกินชาบูย่า  ร้านนี้ตัวผมเองเพิ่งเคยได้ยินไม่นานมานี้เองว่า  "ไม่เวิร์ค  ธรรมดา  ลองร้านอื่นดีกว่า"  แต่ใจมันก็ยังอยากไปลอง  เลยตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่า  ตามใจแฟน  เราไปกินกัน

          



        
         ไปถึงร้านเวลาประมาณ 19.00 น.   แปลกใจอย่างแรกเลยคือ  ทำไมคนน้อยจัง  ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์  แต่มีลูกค้าแค่ 2 โต๊ะเอง  หรือที่ฟังจากเพื่อนมาว่า "ไม่เวิร์ค"  จะเป็นความจริงนะ  แต่ไหนๆมาถึงร้านแล้ว  ต้องลองให้รู้กันไป  

         เมื่อเข้าไป  ลักษณะการบริการของพนักงานคล้ายๆชาบูชิเจ้าดัง  คือเข้ามาสอบถามว่า "มากี่ท่าน" "รับแบบบุฟเฟ่หรือไม่บุฟเฟ่" เราสั่งเป็นแบบบุฟเฟ่ไป  แล้วก็จะหาโต๊ะหาที่ว่างให้  แต่เราจะเลือกเองก็ได้   แรกเห็นที่สังเกตุได้ภายในร้าน  สะอาด  สว่าง  และดูน่านั่งดี  ทางร้านมีน้ำซุปให้เลือก 3 แบบคือ  น้ำใส น้ำดำ และ ต้มยำ  ตัวผมเองและแฟนใจตรงกันตัดสินใจเลือกต้มยำ   ลองชิ้มน้ำต้มยำเปล่าๆแล้ว  อื้ม  อร่อยใช้ได้เลย  แล้วก็มาลองชิมน้ำจิ้มกันต่อ  โดยน้ำจิ้มวางอยู่บริเวณกลางร้านให้เราได้บริการตัวเอง  มีทั้งเผ็ดน้อยและเผ็ดมาก   หลังจากได้ลองชิมก็คือ  อร่อยนะ  แต่เหมือนมันไม่สุด  ก็จัดการเติมพริกปั่นและกระเทียม แต่ "ไหนน้ำมะนาว"  ทำไมไม่มีน้ำมะนาว  หลังจากขอไปประกฏว่า  ไม่มีน้ำมะนาวสด  เป็นน้ำมะนาวจากผงมะนาว  ซึ่งหลังจากเติมไป 2 ช้อนก็ยังไม่เปรี้ยวเลย  แต่น้ำจิ้มลงตัวกว่าเติม  (อันนี้ความชอบส่วนตัวผมนะ 555)  หลังจากนี้ก็ต้องมองหาแก้วน้ำเพื่อไปเติมน้ำ  น้ำแข็งที่วางเตรียมไว้เป็นน้ำแข็งที่ใส่กระป๋องเล็กๆแบบร้านอาหารไว้ 2 กระป๋อง  ซึ่งส่วนตัวมองว่าแปลกๆอ่ะ  แบบนี้ใส่เป็นกระติกใหญ่ๆจะดูโอเคกว่าอีก  แล้วน้ำก็ยังมีให้เลือกไม่เยอะเท่าที่เห็นจะมี  น้ำชาจีน  ชาดำ กระเจี๊ยบ (มั้งถ้าจำไม่ผิด)  น้ำเปล่า และโค๊ก  ประเด็นอยู่ที่  ทีแรกนึกว่าโค๊กอยู่ในทาวเวอร์แก้ว  เกือบไปกดแล้วเห็นสีดำๆ  แต่ที่ไหนได้  นั่นมันชาดำ  โชคดีที่พนักงานมาบอกทัน  เราเลยหันซ้ายหันขวาหาโค๊ก  อ้าว  วางหลบอยู่หลังกระติกน้ำแข็ง  มาเป็นขวดลิตรวางไว้ทื่อๆเลย  2 ขวด  ผมก็เลยมองว่ามันแปลกๆไม่เข้ากับร้านเลย  ร้านจัดดูดีมากๆเลย  





         มาถึงอาหารบ้างดีกว่า  อาหารที่มาตามสายพานก้เบสิกทั่วไปที่ชาบูควรจะมี  ไม่เห็นอะไรที่พิเศษเพิ่มเติม  และยังมีอาหารอย่างอื่นที่เราต้องสั่งเองจากพนักงาน  ไม่เห็นนะว่ามีป้ายบอก  (หรือเราไม่เห็นก็ไม่รู้)  พนักงานจะเดินมาบอกเองว่ามีอะไรอย่างอื่นที่เราสามารถสั่งได้จากพนักงานอีก  เช่น  ปลาแซลม่อน  เนื้อ กุ้ง  และยังมีอีกหลายอย่างที่เราเองก็จำไม่ได้  คุณภาพอาหารถือว่าดีเลยนะ  เอ่อ! เกือบลืมไป  ตามสายพาน  ไม่มีผักนะ  ถ้าจะกินผัก  ต้องไปหยิบเองอยู่บริเวณเครื่องดื่ม  ซึ่งแปลกๆอีกแล้ว  ความรู้สึกเหมือนบุฟเฟ่หมูกระทะเลย  มันขัดกับร้านมากเลยในความรู้สึกเรานะ  คนอื่นอาจจะไม่รู้สึกก็ได้  แล้วก็พอได้กินแล้ว  น้ำต้มยำ  + น้ำจิ้ม  เห้ยแปลกใจอีกแล้ว  มันอร่อยกว่าที่คาดการไว้มากเลย  อร่อยแบบถ้าอยากกินชาบูชิ  ยอมไม่ไปกินก้ได้ (เพชรบุรี ไม่มีชาบูชิ)  มากินที่นี่แทนได้เลย  อร่อยสมราคา 259 บาท(ช่วงโปรโมชั่น 259 บาท/คน  ปกติ 299 บาท/คน ตามป้าย)  ส่วนอาหารอื่นๆก็มีซูชิ มีหน้าให้เลือกไม่เยอะเท่าไร  มีสลัดให้เราทำเอง  (ผักมีน้อย)  มีไอศครีม  (มีรสให้เลือกแค่ 3-4 รสเอง ผิดหวังนิดหนึ่ง)  มียำต่างๆ  เท่าที่เห็นมีประมาณนี้นะ  

    


       สุดท้ายถ้าใครคิดอะไรไม่ออกอยากกินอะไรที่ต้มๆลวกๆ  ลองไปโดนกันดูนะ  ร้าน Shabuya-ชาบูย่า  ตั้งอยู่บริเวณ  ด้านข้างของเขาวัง  ซีกวัดถ้ำแก้ว  เป็นร้านอยู่ในตึดแถว   ราคาช่วงโปรโมชั่น 259 บาท/คน  ปกติ 299 บาท/คน ตามป้าย  ไม่รู้ว่าโปรโมชั่นนี้มีถึงเมื่อไรนะ  อาหารไม่เก่า  ต้มยำอร่อย  ร้านสะอาด  ลองไปกินกันดูนะครับ  

ปล.รีวิวนี้เป็นรีวิวครั้งแรกนะ  ผิดพลาดอะไรก็ติชมกันได้นะครับ  
ปล2. ถ่ายรูปมาน้อยเพราะห่วงกิน