...สวัสดีครับ พอดีเป็นประสบการณ์ส่วนตัวเผื่อจะมีประโยชน์บ้างเลยนำมาแบ่งปันกัน...
     ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมาเกือบ 10 ปี ตกลงกันว่าจะไม่มีลูกด้วยกัน แฟนเลยไปฉีดยาคุมที่โรงพยาบาลเอกชนทั่วไป ประมาณ 3 ปีที่แล้วแฟนคลำพบก้อนเนื้อที่หน้าอกก็เลยไปตรวจอย่างละเอียดมีการเจาะชิ้นเนื้อไปทดสอบผลปรากฎว่าเป็นเนื้อร้าย หมอท่านที่ตรวจเลยแนะให้ทำการตัดเต้านมออกข้างหนึ่ง แต่ด้วยที่ทางคุณหมอแทบไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรเลยทางแฟนก็เลยอยากไปพบคุณหมอท่านอื่นดูก่อน หลังจากไปพบคุณหมอท่านใหม่(ที่โรงพยาบาลใหม่) คุณหมอก็ให้รายละเอียดของการผ่าตัดอย่างดีมากและไม่จำเป็นต้องตัดเต้านมทิ้ง ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะผ่าตัดกับคุณหมอท่านนี้ หลังการผ่าก็ถือว่าเป็นโชคดีที่เนื้อร้ายยังไม่ลามไปต่อมน้ำเหลือง คุณหมอท่านก็เก่งมากใช้วิธีคว้านก้อนเนื้อออกมา(เหมือนควักเนื้อแตงโม)แล้วนำชิ้นเนื้อเข้าแลปตรวจดูตอนนั้นเลย ถ้าพบว่ายังมีส่วนของเนื้อที่ไม่ดีหรืออาจจะไม่ดีติดมาด้วยก็คว้านเพิ่มจนมั่นใจแถมกันเหนียวจึงเลาะต่อมน้ำเหลืองออกส่วนหนึ่งด้วย(ก่อนผ่าคุณหมอถามว่าจะทำศัลยกรรมไปเลยใหม จะได้เจ็บครั้งเดียว)
     หลังการผ่าตัดได้คุยรายละเอียดกับคุณหมอได้ความว่า"จากการตรวจชิ้นเนื้อพบว่ามีขนาดใหญ่ผิดปกติ สาเหตุน่าจะมาจากการฉีดยาคุม เป็นการให้ฮอร์โมนเสมือนเราไปให้อาหารมันโดยตรง ถ้าพบช้ากว่านี้อีกนิดโอกาสที่จะลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองมีค่อนข้างสูง ถ้าคิดที่จะใช้การฉีดยาในการคุมกำเนิดต้องมีการตรวจมะเร็งอย่างละเอียดก่อน แค่ตรวจภายในไม่พอ"
...คุณหมอท่านบอกว่าตามหลักแล้วแพทย์ที่จะทำการฉีดยาคุมให้ จะต้องแนะให้เราไปตรวจมะเร็งอย่างละเอียดก่อน เพราะถ้าเกิดมีเชื้ออยู่ในตัวก่อนแล้วจะยิ่งทำให้มันลุกลามไปใหญ่...
ปล.ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ