ดูกรพราหมณ์บุคคลผู้กำหนัด อันราคะครอบงำ มีจิตอันราคะกลุ้มรุมแล้ว ย่อมคิดเพื่อเบียด-
*เบียนตนเองบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนคนอื่นบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเอง
และคนอื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง เมื่อละราคะ
ได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเอง ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะ
เบียดเบียนคนอื่น ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่าย
ย่อมไม่เสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิต
ดูกรพราหมณ์ แม้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ...
ดูกรพราหมณ์บุคคลผู้โกรธ ฯลฯ ดูกรพราหมณ์ บุคคลผู้หลง อันโมหะครอบงำ มีจิตอัน
โมหะกลุ้มรุมแล้ว ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียน
คนอื่นบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง ย่อมเสวย
ทุกขโทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง เมื่อละโมหะได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่คิดแม้เพื่อ
จะเบียดเบียนตนเอง ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนคนอื่น ย่อมไม่คิด
แม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่าย ย่อมไม่เสวยทุกขโทมนัส
ที่เป็นไปทางจิต
ดูกรพราหมณ์ แม้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ...
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๔๑๖๐ - ๔๑๙๓. หน้าที่ ๑๗๙ - ๑๘๐.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=4160&Z=4193&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=495
ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรไทย ได้ที่ :-
[495]
http://budsir.mahidol.ac.th/cgi-bin/Budsir.cgi/SearchItem?mode=1&valume=20&item=495&Roman=0
วันพระ
*เบียนตนเองบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนคนอื่นบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเอง
และคนอื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง เมื่อละราคะ
ได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเอง ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะ
เบียดเบียนคนอื่น ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่าย
ย่อมไม่เสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิต
ดูกรพราหมณ์ แม้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ...
ดูกรพราหมณ์บุคคลผู้โกรธ ฯลฯ ดูกรพราหมณ์ บุคคลผู้หลง อันโมหะครอบงำ มีจิตอัน
โมหะกลุ้มรุมแล้ว ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียน
คนอื่นบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง ย่อมเสวย
ทุกขโทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง เมื่อละโมหะได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่คิดแม้เพื่อ
จะเบียดเบียนตนเอง ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนคนอื่น ย่อมไม่คิด
แม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่าย ย่อมไม่เสวยทุกขโทมนัส
ที่เป็นไปทางจิต
ดูกรพราหมณ์ แม้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ...
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๔๑๖๐ - ๔๑๙๓. หน้าที่ ๑๗๙ - ๑๘๐.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=4160&Z=4193&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=495
ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรไทย ได้ที่ :-
[495] http://budsir.mahidol.ac.th/cgi-bin/Budsir.cgi/SearchItem?mode=1&valume=20&item=495&Roman=0