***ไม่เหมาะสำหรับคนชอบซูชิคำใหญ่ๆ โรลแฟนซี กับ Salmon Lover นะครับ***

นานๆทีจะมีเวลาเขียนอะไรเวิ่นเว้อแบบนี้.....

หลังจากไปฝึกลิ้นที่ญี่ปุ่นมาหลายร้าน ติดใจ Sushi Kanesaka มากๆ กลับมาที่บ้านเลยตามหาซูชิแบบดั้งเดิม (Edomae) ทานดู รีวิววันนี้เป็นร้านที่น่าจะได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศไทย ว่าทำได้แบบต้นตำรับจริงๆ ล่าสุดได้ติดอันดับ 4 ของ 2015 Bagkok Top Tables จาก BK เป็นรองเพียง L'Atelier de Joel Robuchon, Gaggan และ Le Du เท่านั้น สาขาหลักที่กินซ่าเคยได้ดาว Michelin Star มาดวงนึง

ร้านซูชิ อิจิ ปัจจุบันมี 3 สาขา ที่กินซ่า สิงคโปร์ และล่าสุดที่กรุงเทพ เจ้าของเดียวกันคือ Masakazu Ishibashi หรือมาสะซัง ที่เวียนไปเวียนมา ใครอยากกินฝีมือแก ต้องคอยติดตามตารางงาน

ร้านตั้งอยู่ใน โรงแรม Grand Hyatt Erawan ตรงราชดำริ ช้นใต้ดิน ใกล้ๆกับ Crystal Jade ป้ายหน้าร้านเล็กจิ๊ดเดียว ตามแบบฉบับร้านซูชิแบบนี้

ทั้งร้านมี 11 ที่นั่ง แนะนำให้จองล่วงหน้า ปกติราคามื้อเย็นจะแพงไปตั้งแต่ 5000 จนถึง 10000 THB++ วันนี้เราสั่ง Lunch Course แบบ Fuyou 2000 THB++ แต่บอกเชฟว่า ขอทานแต่ซูชิ ไม่เอาซาชิมิ

ตรงหน้าเราเป็น Tsukeba วางมีด Yanagiba และ Deba ไว้ ดูแพงและคมกริบสุดๆ

จานแรกเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย Ankimo หรือตับของปลา Anko (Angler) ใครเคยเห็นตัวปลาอาจจะกินไม่ลง สัมผัสอ่อนนุ่มผิดกับที่เคยกินร้านอื่นๆ ฉ่ำและมัน รสหวานอ่อนๆของตับ ทำให้รสชาติดีกว่า ฟัวกราส์จริงๆ ที่สำคัญไม่มีความคาว และรู่สึกว่าเป็นตับเลยแม้แต่น้อย จิ๊บบอกว่ารสชาติเหมือน ปาเต๊ะ วาซาบิที่พึ่งขูดเสร็จอร่อยมาก ไม่เผ็ดเลย ออกซ่าๆ และหวานสดชื่นมากกว่า

เชฟที่นี่โกนหัวทุกคน เหมือนกับร้านที่ญี่ปุ่น น่าจะเกี่ยวกับ Hygiene ของอาหาร ดูไปดูมาเหมือนอยู่วัดมากกว่า นิมนต์หลวงพี่ด้วยนะครับ (ฮา)

ซูชิคำแรกเป็น Shima Aji สิ่งแรกที่สัมผัสได้ตั้งแต่หยิบเลยคือข้าวอุ่น พอปั้นมากับปลาเย็นๆในกล่องไม้แล้ว รสชาติดีจริงๆ ข้าวนุ่มแตกกระจายในปาก ปลาหมดพร้อมข้าว ประทับใจตั้งแต่คำแรกเลย

ต่อด้วยปลาเนื้อขาวอย่าง Kimedai รสชาติอ่อนๆ กลิ่นหอมๆของปลากระพง รู้เลยว่าข้าวซูชิดีๆ ทำให้อาหารอร่อยขึ้นไปอีกหลายเท่า ที่นี่จะเป็นข้าวเปรี้ยวแบบไม่หวาน

ถัดมาเป็น Yari Ika (ตอนแรกนึกว่า Shiro Ebi) ปลาหมึกที่ผ่านการบ่มมาแล้ว หั่นฝอยเป็นเส้นๆ โรยด้วยเกลือมะนาว ตัดความหวานของปลาสองคำก่อนหน้านี้ออกไปหมด ออกเค็มและนุ่ม สดชื่นๆ

เปลี่ยนจังหวะด้วยปลารสจัดอย่าง Katsuo ที่ผ่านการย่างไฟ และหมักเครื่องเทศมา คำนี้อร่อยมากๆ หอมหวานมัน และได้กลิ่นเครื่องเทศ ทำให้คำนี้เป็นคำที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้ สังเกตได้ว่าคำนี้ข้าวซูชิ เป็นน้ำส้มสายชูแดง ทำให้ข้าวออกมาสีน้ำตาล รสชาติเปรี้ยวจัดจ้านกว่าปกติ

เชฟปั้นได้เร็วมาก ใช้ประมาณ 7 มือ ได้ขนาดพอดีคำจริงๆ ก่อนหน้านี้หงุดหงิดกับ 2 ร้านที่ปั้นมาเล็กเกินไป อันนี้สอบผ่านฉลุยเลย (แต่ก็ยังเล็กอยู่ดีเมื่อเทียบกับร้านทั่วไปในบ้านเรา)

Chutoro ออกมาแล้ว เห็นว่าที่นี่ใช้ปลาธรรมชาติ รสชาติกลมกล่อม ไม่เลี่ยนเลย ข้าวซูชิสีน้ำตาลทำให้ทานได้ง่ายขึ้น เนื้อผ่านการบ่ม (Aging) มาแล้ว นำมันกำลังดี

Kohada อรอ่ยมาก ตัดเลี่ยนน้ำมันของทูน่าได้หมดจด แถมนุ่มด้วย ฉ่ำๆ

Aji ไม่ต้องบรรยาย อร่อยครับ

ระหว่างนั้นเห็นเชฟเอาอะไรมาหั่น นึกว่าหอยเชลล์ยักษ์ ตื่นเต้นๆ

สรุปเป็น Tairagai หอยกาบ (ขอบคุณ คุณลูกสนที่ช่วยแก้ข้อมูลครับ) หวานมาก แถมบ่มมาแล้ว เลยอ่อนนุ่ม ไม่กรอบเด้งเหมือนสดๆที่ฮ่องกง เห็นเชฟใช้ Deba บั้งมาให้ทานง่ายขึ้น

Akagai หอยแครง ไม่ได้สดเท่า Sushi Dai (อันนั้นมาแบบยังขยับได้) แต่หวานอร่อยมาก

Ikura โรยข้าว เป็นอีกอย่างนึงที่ทำให้รู้ว่าข้าวซูชิที่นี่อร่อยจริงๆ อุ่น และกลมกล่อมสุดๆ ส่วนไข่ปลาเองก็น่าจะอร่อยที่สุดตั้งแต่กินมา เม็ดใหญ่เต่ง หมักเกลือมาได้พอดี เค็มนิดๆ ปริมาณเป็น Infinity กินเท่าไหร่ก็ไม่หมด

ออกมาแล้ว Tamago ไข่หวานที่นี่เป็นแบบร้าน Edomae หลายๆร้านทำกัน จะออกเป็นเค้กมากกว่า ไม่หวานมาก แสดงว่าใกล้จบคอร์สแล้ว

สงสัยเชฟได้ยินคุยกัน เลยจัด Shiro Ebi มาให้ กุ้งขาวตัวเล็กๆ หวานมาก

นิกิริคำสุดท้ายเป็น Anago ประทับใจมาก ไม่มีก้างเล็กๆกวนใจเลยแม้แต่น้อย ปลาอุ่นนิดๆ รู้สึกอบอุ่นดี

Headchef กำลังเตรียม Kanpyo Maki ของโปรดอยู่

มาแล้วครับ Kanpyo หวานฉ่ำ กัดขาดง่ายมาก รสชาติเหมือนที่ Kanesaka อย่างกับแกะ ฟินสุดๆ

ของหวานเลือกได้ระหว่าง พุดดิ้งเต้าหู้ชาเขียวกับไอศครีมงาดำ อรอ่ยทั้งสองอย่าง แต่ให้เต้าหู้เฉือนไปนิดๆ



โดยสรุปเป็นร้านที่ดีมากๆ อร่อยกว่าทุกๆร้านที่เคยกินในไทย ละเมียดละไม และปราณีตกับอาหาร เป๊ะสุดๆ อาจจะไม่ได้มีคำไหนอร่อยโดดเด่นมากนัก แต่ทั้งมื้อ รสชาติสมดุล กลมกล่อมดี อุณหภูมิข้าวกับปลา ทำให้อาหารอร่อยขึ้นมาก จังหวะการเสิร์ฟไม่มีสะดุด บริการไม่บกพร่อง ติดที่บรรยากาศไม่ค่อยเฮฮาเท่าไหร่ (อาจจะเป็นเพราะคุยญี่ปุ่นไม่ได้) ใครไม่เคยนั่งร้านแบบนี้อาจจะตัวแข็งกันได้ (ฮา)

เหมือนได้ดู Musical ดีๆเรื่องนึงเลยครับ

แนะนำสำหรับคนมีงบครับ คุ้มค่ามากๆ ดีใจที่มีร้านแบบนี้ในเมืองไทยเยอะๆ

Website : http://ginza-sushiichi.jp/
BK Review: http://bk.asia-city.com/restaurants/bangkok-restaurant-reviews/ginza-sushi-ichi

Taste: 9/10
Ambience: 9/10
Sevice: 10/10
Value: 10/10
Overall: 9/10

Highly Recommended