สวัสดีครับเพื่อนๆ
ช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์แล้วสำหรับคนที่จำเป็นต้องเดินทางออกต่างจังหวัด ก็อยากให้ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทางไกลด้วยนะครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ปีที่แล้วของผมให้ฟังครับ เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับโทรศัพท์ ลองสละเวลาอ่านสักนิด จขกท.หวังว่ามันจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้าง เมื่อปีก่อนผมกับเพื่อนอีกหนึ่งคนเดินทางกลับบ้าน จากกรุงเทพไปอุบลตามวันหยุดเทศกาลครับ ก่อนออกจากบ้านได้วางแผนการเดินทางไว้พอสมควร ตรวจเชคสภาพรถ เติมน้ำมันเต็มถังก่อนเดินทาง พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทางไกล ส่วนตัวผมเองเพิ่งได้ใบขับขี่มาไม่นาน จะช่วยสลับกับเพื่อนขับรถบ้างในตอนที่เพื่อนผมมันเหนื่อย แต่ก็ขับด้วยความเร็วไม่สูงครับ ปลอดภัยไว้ก่อน
จนถึงวันเดินทาง ผมกับเพื่อนออกเดินทางก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ในเวลาค่ำ ช่วงราวเกือบๆสองทุ่มได้ ปกติแล้วเพื่อนผมจะชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดีครับเดินทางไปกลับบ่อยกว่าผม แต่การเดินทางครั้งนั้นสิ่งนึงที่เพื่อนผมพลาดไปคือการลืมเชคที่ชาร์จจุดบุหรี่ภายในรถว่ามันทำงานได้หรือเปล่า ด้วยความชะล่าใจคิดว่ามันใช้งานได้ ผมก็ไม่ได้พก power bank มาด้วย เพื่อนผมคิดว่าที่ชาร์จภายในรถมันใช้งานได้ ก็เลยไม่ได้สนใจว่ามือถือตัวเองจะมีแบตน้อยแค่ไหน ก่อนเดินทางมันเสียบชาร์จไฟมือถือไว้ตลอดครับ แต่หารู้ไม่ ว่ามันชาร์จไฟไม่ได้ ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาครับ แต่ด้วยความที่ผมจะเป็นคนพกมือถือสำรองฉุกเฉินอีกเครื่องเป็นโนเกียเก่าๆ มีแบตเต็มมีซิมการ์ดเติมเงินพร้อมใช้งาน แต่ไม่เคยหยิบเอามาใช้เลยเป็นปีๆ จนผมลืมไปเสียด้วยซ้ำว่ามันเคยมีอยู่
ระหว่างเพื่อนขับรถยิงยาวมาอุบล ผมก็แชตตลอดทางครับ จนกลางดึกมือถือแบตหมด ตอนนั้นเองครับที่ผมกับเพื่อนมารู้ว่าที่ชาร์จไฟในรถมันเสีย มือถือเพื่อนผมที่เสียบชาร์จไว้ตลอดทาง ไม่มีไฟเข้าเลย นำซ้ำแบตก็หมดสนิทครับ มือถือผมก็ชาร์จไฟไม่ได้ตามไปด้วย ซึ่งเราก็ต้องเดินทางแบบไม่มีมือถือทั้งคู่ ภาวนาว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเดินทางครับ จะแวะหาซื้อตามปั๊มก็ไม่คิดว่าจะมีขาย = =
กลางดึก ตอนนั้นน่าจะวิ่งอยู่แถวๆนอกเมืองบุรีรัมย์ ข้างทางมืดสนิทดีจริงๆ ผมกับเพื่อนพยายามจะพูดคุยกันตลอดทางเพื่อไม่ให้ง่วงนอน แต่ระหว่างทาง มีกลุ่มไฟรถมอไซด์แว้นน่าจะราวๆสิบคัน เนื่องจากมันค่อนข้างมืดผมได้ยินแต่เสียงรถกับเสียงตะโกนระหว่างแล่นสวนทางกัน แต่สิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดก็เกิดครับ มีมอไซด์คันท้ายๆวิ่งสวนเลนมาครับ น่าจะบิดมาเร็วมาก เพื่อนผมเริ่มตกใจ " เฮ้ยๆ มาได้ไงวะ !!!" ผมหันไปดูกระจกหน้า ปรากฏว่า มันจะชนแล้วครับไม่ถึงหนึ่งวิ ลองนึกภาพตามนะครับ จังหวะนั้นเพื่อนผมตัดสินใจหักหลบเพราะถ้าชนแล้วมีคนตาย ยังไงก็ผิดแน่ๆ แต่จังหวะนั้นมันเป็นทางโค้ง เพื่อนผมคงเห็นว่าจวนตัวมากแล้ว เลยหักหลบมอไซด์คันนั้น จนรถเสียการควบคุม หมุนแบบในหนังเลย เหวี่ยงตัวรถจนเสียหลักพุ่งลงตกข้างทางอย่างแรงจนไปฟาดกับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ด้วยบุญวาสนาที่ทำไว้กับเราทั้งคู่คาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้ผมกับเพื่อนรอดตาย แต่ก็บาดเจ็บค่อนข้างสาหัส ตัวรถด้านฝั่งตรงข้างคนขับยุบเข้าไปประมาณเกือบฟุต โชคดีของผมมากที่เอาหมอนมาวางข้างๆไว้ ไม่งั้นเหล็กที่ฉีกทะลุเข้ามา คงแทงสีข้างผมจนบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว แขนขวาผมน่าจะหักเพราะยกแขนบิดแขนไม่ได้เพราะปวดชามาก (มารู้ทีหลังจากรพ ว่ากระดูกแขนขวาร้าว) ส่วนเพื่อนผม หัวไปฟาดกับกระจกข้างจกข้างจนเลือดอาบหน้า ขาซ้ายหักจนกระดูกแทงออกมา แต่ยังมีสติอยู่ พร้อมกับทุกๆอย่างเงียบสนิทลง ตอนนั้นรถก็สตาร์ชไม่ติดแล้ว ผมพยายามเรียกสติเพื่อนให้มันตื่นตัวตลอด ให้มันไม่หลับ กลัวมันสลบเพราะเสียเลือดมากเกินไป พยายามห้ามเลือดมันไว้ ส่วนผมก็พยายามตะเกียกตะกายหาของที่สามารถจะส่องไฟขอความช่วยเหลือได้จากลิ้นชักหน้ารถ ตอนนั้นมืดสนิทมาก เหมือนคนตาบอดจริงๆ เจอแต่ใบเสร็จอะไรสักอย่าง (แอบด่าในใจว่า มึ เก็บไว้ในรถทำไมฟะ) แล้วอยู่ดีๆแว๊บ ผมก็นึกถึงไอ้มือถือโนเกียในเป้ได้ครับ ภาวนาให้ผมไม่เผลอหยิบออกไปจากเป้ มือสั่นมากๆ ลนลานสุดๆ พยายามหามือถือเครื่องที่จะช่วยชีวิตผมกับเพื่อนให้สามารถที่จะขอความช่วยเหลือได้ ในที่สุดก็เจอครับ แบตมีเต็ม แต่มีสัญญาณมือถือสองขีดสลับขีดเดียว ขอไม่เอ่ยถึงค่ายนะครับ สิ่งแรกที่จะต้องโทรคือ 191 เพื่อขอความช่วยเหลือว่าเกิดอุบัติเหตุข้างทางถนนสายใดสักเส้นในบุรีรัมย์ พยายามปีนออกจากรถขึ้นมาบนไหล่ทาง และสุดท้ายผมก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สำเร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้ผมพยายามเดินหาป้ายบอกทาง หลักกม. จุดสังเกต หรือยืนรอโบกรถซึ่งซวยจริงๆที่ช่วงเวลานั้นไม่มีรถผ่านมาเลย จนในที่สุดผมก็เจอป้ายบอกทาง ทำให้เจ้าหน้าส่งกำลังมาช่วยเหลือผมกับเพื่อนได้ในที่สุดครับ ขออภัยจริงๆที่ผมไม่สามารถแปะรูปใดๆได้เพราะแบตมือถือหมดเกลี้ยงจริงๆ และไอ้เจ้าโนเกียเครื่องนี้เก่าจนกล้องเสียแล้วด้วย = =
เป็นอุทาหรณ์ครับ ถ้าเพื่อนจะสามารถซื้อมือถือสำรองสักเครื่องติดไว้ในรถได้ก็จะดีมากครับ ไม่ต้องแพงอะไรเลย แค่ขอให้มีแบต มีสัญญาณ มีเงินพอที่จะโทรได้ ติดรถเอาไว้ในยามฉุกเฉินจริงๆ ถ้าบังเอิญมาเจอแบบที่ผมกับเพื่อนเจอ ไอ้เจ้ามือถือเก่าๆนี่ล่ะ จะมีสำคัญมหาศาลกว่าสมาร์ทโฟนราคาแพงๆซะอีกครับ เพราะเมื่อใดที่สมาร์ทโฟนมันใช้ไม่ได้ เชื่อเถอะครับว่าตอนนั้นถ้าคุณมีเงินหมื่นเงินแสน แลกกับการขอความช่วยเหลือชีวิต 1 ครั้ง เป็นคุณก็คงยอมเหมือนกันครับ
" มีไว้แต่ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แต่ไม่มีครับ "
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพในวันปีใหม่ไทยนะครับ
มีไว้แต่ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แต่ไม่มี
ช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์แล้วสำหรับคนที่จำเป็นต้องเดินทางออกต่างจังหวัด ก็อยากให้ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทางไกลด้วยนะครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ปีที่แล้วของผมให้ฟังครับ เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับโทรศัพท์ ลองสละเวลาอ่านสักนิด จขกท.หวังว่ามันจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้าง เมื่อปีก่อนผมกับเพื่อนอีกหนึ่งคนเดินทางกลับบ้าน จากกรุงเทพไปอุบลตามวันหยุดเทศกาลครับ ก่อนออกจากบ้านได้วางแผนการเดินทางไว้พอสมควร ตรวจเชคสภาพรถ เติมน้ำมันเต็มถังก่อนเดินทาง พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทางไกล ส่วนตัวผมเองเพิ่งได้ใบขับขี่มาไม่นาน จะช่วยสลับกับเพื่อนขับรถบ้างในตอนที่เพื่อนผมมันเหนื่อย แต่ก็ขับด้วยความเร็วไม่สูงครับ ปลอดภัยไว้ก่อน
จนถึงวันเดินทาง ผมกับเพื่อนออกเดินทางก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ในเวลาค่ำ ช่วงราวเกือบๆสองทุ่มได้ ปกติแล้วเพื่อนผมจะชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดีครับเดินทางไปกลับบ่อยกว่าผม แต่การเดินทางครั้งนั้นสิ่งนึงที่เพื่อนผมพลาดไปคือการลืมเชคที่ชาร์จจุดบุหรี่ภายในรถว่ามันทำงานได้หรือเปล่า ด้วยความชะล่าใจคิดว่ามันใช้งานได้ ผมก็ไม่ได้พก power bank มาด้วย เพื่อนผมคิดว่าที่ชาร์จภายในรถมันใช้งานได้ ก็เลยไม่ได้สนใจว่ามือถือตัวเองจะมีแบตน้อยแค่ไหน ก่อนเดินทางมันเสียบชาร์จไฟมือถือไว้ตลอดครับ แต่หารู้ไม่ ว่ามันชาร์จไฟไม่ได้ ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาครับ แต่ด้วยความที่ผมจะเป็นคนพกมือถือสำรองฉุกเฉินอีกเครื่องเป็นโนเกียเก่าๆ มีแบตเต็มมีซิมการ์ดเติมเงินพร้อมใช้งาน แต่ไม่เคยหยิบเอามาใช้เลยเป็นปีๆ จนผมลืมไปเสียด้วยซ้ำว่ามันเคยมีอยู่
ระหว่างเพื่อนขับรถยิงยาวมาอุบล ผมก็แชตตลอดทางครับ จนกลางดึกมือถือแบตหมด ตอนนั้นเองครับที่ผมกับเพื่อนมารู้ว่าที่ชาร์จไฟในรถมันเสีย มือถือเพื่อนผมที่เสียบชาร์จไว้ตลอดทาง ไม่มีไฟเข้าเลย นำซ้ำแบตก็หมดสนิทครับ มือถือผมก็ชาร์จไฟไม่ได้ตามไปด้วย ซึ่งเราก็ต้องเดินทางแบบไม่มีมือถือทั้งคู่ ภาวนาว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเดินทางครับ จะแวะหาซื้อตามปั๊มก็ไม่คิดว่าจะมีขาย = =
กลางดึก ตอนนั้นน่าจะวิ่งอยู่แถวๆนอกเมืองบุรีรัมย์ ข้างทางมืดสนิทดีจริงๆ ผมกับเพื่อนพยายามจะพูดคุยกันตลอดทางเพื่อไม่ให้ง่วงนอน แต่ระหว่างทาง มีกลุ่มไฟรถมอไซด์แว้นน่าจะราวๆสิบคัน เนื่องจากมันค่อนข้างมืดผมได้ยินแต่เสียงรถกับเสียงตะโกนระหว่างแล่นสวนทางกัน แต่สิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดก็เกิดครับ มีมอไซด์คันท้ายๆวิ่งสวนเลนมาครับ น่าจะบิดมาเร็วมาก เพื่อนผมเริ่มตกใจ " เฮ้ยๆ มาได้ไงวะ !!!" ผมหันไปดูกระจกหน้า ปรากฏว่า มันจะชนแล้วครับไม่ถึงหนึ่งวิ ลองนึกภาพตามนะครับ จังหวะนั้นเพื่อนผมตัดสินใจหักหลบเพราะถ้าชนแล้วมีคนตาย ยังไงก็ผิดแน่ๆ แต่จังหวะนั้นมันเป็นทางโค้ง เพื่อนผมคงเห็นว่าจวนตัวมากแล้ว เลยหักหลบมอไซด์คันนั้น จนรถเสียการควบคุม หมุนแบบในหนังเลย เหวี่ยงตัวรถจนเสียหลักพุ่งลงตกข้างทางอย่างแรงจนไปฟาดกับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ด้วยบุญวาสนาที่ทำไว้กับเราทั้งคู่คาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้ผมกับเพื่อนรอดตาย แต่ก็บาดเจ็บค่อนข้างสาหัส ตัวรถด้านฝั่งตรงข้างคนขับยุบเข้าไปประมาณเกือบฟุต โชคดีของผมมากที่เอาหมอนมาวางข้างๆไว้ ไม่งั้นเหล็กที่ฉีกทะลุเข้ามา คงแทงสีข้างผมจนบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว แขนขวาผมน่าจะหักเพราะยกแขนบิดแขนไม่ได้เพราะปวดชามาก (มารู้ทีหลังจากรพ ว่ากระดูกแขนขวาร้าว) ส่วนเพื่อนผม หัวไปฟาดกับกระจกข้างจกข้างจนเลือดอาบหน้า ขาซ้ายหักจนกระดูกแทงออกมา แต่ยังมีสติอยู่ พร้อมกับทุกๆอย่างเงียบสนิทลง ตอนนั้นรถก็สตาร์ชไม่ติดแล้ว ผมพยายามเรียกสติเพื่อนให้มันตื่นตัวตลอด ให้มันไม่หลับ กลัวมันสลบเพราะเสียเลือดมากเกินไป พยายามห้ามเลือดมันไว้ ส่วนผมก็พยายามตะเกียกตะกายหาของที่สามารถจะส่องไฟขอความช่วยเหลือได้จากลิ้นชักหน้ารถ ตอนนั้นมืดสนิทมาก เหมือนคนตาบอดจริงๆ เจอแต่ใบเสร็จอะไรสักอย่าง (แอบด่าในใจว่า มึ เก็บไว้ในรถทำไมฟะ) แล้วอยู่ดีๆแว๊บ ผมก็นึกถึงไอ้มือถือโนเกียในเป้ได้ครับ ภาวนาให้ผมไม่เผลอหยิบออกไปจากเป้ มือสั่นมากๆ ลนลานสุดๆ พยายามหามือถือเครื่องที่จะช่วยชีวิตผมกับเพื่อนให้สามารถที่จะขอความช่วยเหลือได้ ในที่สุดก็เจอครับ แบตมีเต็ม แต่มีสัญญาณมือถือสองขีดสลับขีดเดียว ขอไม่เอ่ยถึงค่ายนะครับ สิ่งแรกที่จะต้องโทรคือ 191 เพื่อขอความช่วยเหลือว่าเกิดอุบัติเหตุข้างทางถนนสายใดสักเส้นในบุรีรัมย์ พยายามปีนออกจากรถขึ้นมาบนไหล่ทาง และสุดท้ายผมก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สำเร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้ผมพยายามเดินหาป้ายบอกทาง หลักกม. จุดสังเกต หรือยืนรอโบกรถซึ่งซวยจริงๆที่ช่วงเวลานั้นไม่มีรถผ่านมาเลย จนในที่สุดผมก็เจอป้ายบอกทาง ทำให้เจ้าหน้าส่งกำลังมาช่วยเหลือผมกับเพื่อนได้ในที่สุดครับ ขออภัยจริงๆที่ผมไม่สามารถแปะรูปใดๆได้เพราะแบตมือถือหมดเกลี้ยงจริงๆ และไอ้เจ้าโนเกียเครื่องนี้เก่าจนกล้องเสียแล้วด้วย = =
เป็นอุทาหรณ์ครับ ถ้าเพื่อนจะสามารถซื้อมือถือสำรองสักเครื่องติดไว้ในรถได้ก็จะดีมากครับ ไม่ต้องแพงอะไรเลย แค่ขอให้มีแบต มีสัญญาณ มีเงินพอที่จะโทรได้ ติดรถเอาไว้ในยามฉุกเฉินจริงๆ ถ้าบังเอิญมาเจอแบบที่ผมกับเพื่อนเจอ ไอ้เจ้ามือถือเก่าๆนี่ล่ะ จะมีสำคัญมหาศาลกว่าสมาร์ทโฟนราคาแพงๆซะอีกครับ เพราะเมื่อใดที่สมาร์ทโฟนมันใช้ไม่ได้ เชื่อเถอะครับว่าตอนนั้นถ้าคุณมีเงินหมื่นเงินแสน แลกกับการขอความช่วยเหลือชีวิต 1 ครั้ง เป็นคุณก็คงยอมเหมือนกันครับ
" มีไว้แต่ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แต่ไม่มีครับ "
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพในวันปีใหม่ไทยนะครับ