สมเด็จพระนเรศวรทรงมีพระเจ้าลูกเธอ ผู้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์

http://topicstock.ppantip.com/library/topicstock/2006/11/K4863557/K4863557.html

จาก กระทู้นี้
เราเลยอยากรู้ว่า การศึกษาประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน มีหลักฐานใดยื่นยันเเน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ย
เเละเราก็อยาก เจอเกี่ยวเรื่องนี้ในหนังสือ ศิลปวัฒนธรรม
โดยผู้เขียนย้ำชัดว่า พระองค์ดำ ทรงมี พระโอรสธิดาเเน่นอน เเต่กี่พระองค์นั้นไม่ทราบชัด
ผู้เขียนระบุว่า จะศึกษาค้นคว้าต่อไป หลังจากนั้นเราก้ไม่ได้ตามต่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
มีหลักฐานครับ หลายชิ้นเลยครับที่ระบุว่าสมเด็จพระนเรศวรมีพระเจ้าลูกเธอ

เช่นในจดหมายเหตุสเปน (History of the Philippines and Other Kingdom) ที่เขียนจากปากคำของบาทหลวงคณะฟรานซิสกันที่อยู่ในอยุทธยาตอน พ.ศ.๒๑๓๙ สมัยสมเด็จพระนเรศวร ได้กล่าวถึงกระบวนพยุหยาตราชลมารคที่ตนเห็นว่า

"...เรือสี่ลำเหล่านี้หยุดที่พระอารามแห่งหนึ่งบนชายฝั่ง เพราะพวกเขาคาดหมายว่า พระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงเจริญพระพุทธมนต์และทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ตามติดมาอย่างใกล้ชิดเรือสี่ลำนั้นเป็นเรืออื่น ๆ อีกหลายลำที่ใหญ่กว่านั้น แต่ละลำบรรทุกผู้คนมากมายที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบประเภทต่าง ๆ เรือแต่ละลำมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แห่งพระราชสำนัก ๑ คน แล้วจากนั้นเป็นพระราชกุมารพระองค์เยาว์ที่สุดในบรรดาแผ่นดินที่เสด็จปรากฏพระองค์ในเรือพระที่นั่งที่ตกแต่งอย่างหรูหรามาก ตามติดมาเป็นสมเด็จพระอัครมเหสีและสาวสรรกำนัลใน สมเด็จพระอัครมเหสีประทับแต่เพียงลำพังพระองค์ และบรรดานางกำนัลนั่งในเรือลำอื่นตกแต่งอย่างน่าอัศจรรย์ และกั้นด้วยม่านอย่างรอบคอบจนเป็นไปได้ที่จะสามารถมองผ่านม่านจากภายในสู่โลกภายนอกได้ โดยที่คนภายนอกไม่เห็นคนภายใน..."

จากข้อความ 'พระราชกุมารพระองค์เยาว์ที่สุด' ก็น่าจะพอระบุได้ว่าสมเด็จพระนเรศวรมีพระโอรส และไม่ได้มีแค่องค์เดียวด้วยครับ


พงศาวดารพม่าเองก็ระบุว่าสมเด็จพระนเรศวรมีพระธิดาองค์หนึ่ง ซึ่งได้อภิเษกสมรสกับมังสาตุลอง(พระทุลอง)พระโอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าเชียงใหม่นรธามังฉ่อ โดยสมเด็จพระนเรศวรเองก็ได้ขอพระธิดาของพระเจ้าเชียงใหม่มาเป็นมเหสี ปรากฏพระนามในพงศาวดารพม่าว่า 'โยธยามิพญา'(Yodaya Mibaya - มเหสีอยุทธยา)

นอกจากนี้พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุทธยาแทบทุกฉบับ(ไม่นับฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ที่เป็นความย่นย่อ)ก็ระบุถึงบุคคลที่น่าจะเป็นโอรสของสมเด็จพระนเรศวรคือ 'สมเด็จพระเจ้าลูกเธอมหาธรรมราชา'

“ลุศักราช ๙๕๓ ปีเถาะตรีศก พระศรีสุพรรณมาธิราช ผู้เป็นพระยาละแวก ก็ให้พระยากลาโหมผู้เป็นลูกเขยมากราบทูลพระกรุณาพระบาทสมเด็จพระบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ว่า พระยาอ่อนอันหนีไปอยู่ด้วยซองพรรค์ในตำบลแสงสโทงนั้น ประมูลซองพรรค์ทั้งปวงได้มากแล้ว ว่าจะยกมารบพระยาละแวก พระบาทสมเด็จพระบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ก็มีพระราชโองการให้แต่งทัพ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระมหาธรรมราชา และช้างเครื่อง ๕๐ ช้าง ม้า ๑๐๐ พล ๑๐,๐๐๐ และเจ้าพระยาธรรมาธิบดี เจ้าพระยาสวรรคโลก พระยากำแพงเพชร พระยาสุโขทัย พระยาพันธารา ยกไปทางโพธิสัตว์ และยกให้ไปตีทัพพระยาอ่อนในตำบลแสงสโทงนั้น ครั้งตีทัพพระยาอ่อนแตกฉานแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ก็ยกทัพคืนมาโดยทางพระนครหลวงมาถวายบังคม พระบาทสมเด็จพระบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์”

ตรงกับพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ที่ว่า 'ทัพพระเจ้าฝ่ายหน้าเสด็จไปเอาเมืองขอมได้'

การที่บอกว่าเป็น 'พระเจ้าฝ่ายหน้า' แสดงว่าพระมหาธรรมราชาเป็นพระมหาอุปราช(เดิมเข้าใจกันว่าคือพระเอกาทศรถ แต่หลักฐานอื่นๆชี้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าอยู่หัวเสมอสมเด็จพระนเรศวร และข้อความตอนพระมหาธรรมราชาก็แสดงให้เห็นว่าพระเอกาทศรถเป็นพระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าฝ่ายหน้าคือพระมหาธรรมราชา)

และดูจากพระนาม 'มหาธรรมราชา' สันนิษฐานว่าพระองค์น่าจะได้ครองเมืองพิษณุโลกจึงได้พระนามนี้แบบเจ้าราชวงศ์พระร่วงสุโขทัยดังเดิม และดูจากกองทัพที่ยกไปตีละแวก ก็ปรากฏว่ามีขุนนางหัวเมืองฝ่ายเหนืออย่างสวรรคโลก สุโขทัย กำแพงเพชรไปด้วย ก็คงพออนุมานได้ว่าน่าจะครองเมืองพิษณุโลกซึ่งเป็นเมืองเอกของฝ่ายเหนืออยู่ จึงมีขุนนางเมืองเหนือไปด้วย

ในเมื่อตอนนั้นอยุทธยามีพระเจ้าอยู่หัวสองพระองค์คือสมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรถ พระเจ้าลูกเธอมหาธรรมราชาที่เป็นพระมหาอุปราชก็ย่อมต้องเป็นโอรสขององค์ใดองค์หนึ่งแน่นอน ซึ่งก็น่าจะเป็นโอรสของสมเด็จพระนเรศวรแหละครับ ส่วนที่ว่าทำไมไม่ได้ครองราชย์ต่อจากพระนเรศวรก็คงเพราะพระเอกาทศรถเป็นพระเจ้าอยู่หัวอยู่แล้ว แต่ถ้าว่าทำไมไม่ได้ครองราชย์ต่อจากพระเอกาทศรถอันนี้ก็ไม่มีหลักฐานระบุ ต้องไปสันนิษฐานกันเอาเองครับ อาจจะเพราะสิ้นพระชนม์ไปก่อน หรืออาจถูกกีดกันจากราชสมบัติก็แล้วแต่จะคิดครับ

อันที่จริงในกระทู้ของคุณออกหลวงมงคลที่ จขกท. ยกมาก็ระบุแหล่งอ้างอิงไว้แล้วนะครับ นั่นก็เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งที่ระบุถึงเรื่องสมเด็จพระนเรศวรมีพระโอรส แต่จะให้ยืนยันว่าข้อความที่ระบุเป็นจริงหมดหรือไม่คงไม่ทราบ เพราะไม่มีใครเกิดทัน(ส่วนตัวผมยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่คุณออกหลวงมงคลเอาเรื่องพระมหาธรรมราชาไปโยงกับเรื่อง 'คนออก' ซักเท่าไหร่ครับ)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ที่เดาว่ามณีจันทร์เป็นมอญนั้นก็เพราะสมเด็จพระนเรศวรทรงไปเติบใหญ่ที่เมืองหงสาวดีดังนั้นหากจะมีคนรัก
ก็น่าจะเป็นมอญ (ว่าไปแล้วจะชื่อมณีจันทร์หรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาชื่อมาจากวันวลิต ครับ อาจจะเป็นมณีรัตนาหรือชื่ออื่นก็
น่าจะได้เหมือนกัน) อย่างมเหสีองค์อื่นๆ ก็อย่างที่คุณศรีสรรเพชญ์ว่านั่นแหละครับ คือโยเดียมี้พระยาพระธิดาของนรธาเมงช่อ
ซึ่งเป็นพม่า
สำหรับพระมหาธรรมราชาที่อยู่ในพงศาวดารนั่นเป็นตำแหน่งเจ้าเมืองพิศณุโลกครับ ส่วนชื่อจริงนั้นชื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่เดาว่าเป็นคนเดียวกับพระอินทรราชาหรือพระพิมลธรรม ซึ่งต่อมาได้ขึ้นครองราชเป็นพระเจ้าทรงธรรม แต่ก็เป็นการคาดเดาล้วนๆ ครับ
แต่ก็โยงว่าเป็นพระโอรสของสมเด็จพระนเรศวรกับมณีจันทร์ครับ (วันวลิตแกว่าของแกอย่างนั้น)
ส่วนเรื่องการลอบเข้าไปในเมืองตองอูแลัวเจอนันทบุเรงนั้นเป็นการคาดเดาล้วนๆ เพราะปัญหาของเรื่องการถอนทัพกลับจากตองอู
นั้นยังคลุมเครืออยู่ เลยต้องศึกษาให้ลึกๆ ไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเอกสารพม่าระบุว่านัทจินหน่องนำทหารมาผลักดันกองทัพ
ของพระนเรศวรจนถอยร่นตกลงไปในลำห้วยที่น้ำไหลเชี่ยวจนควายว่ายข้ามไม่ได้ ผมกับอาจาย์สุเนตรกับอาจารย์พม่าตามหาห้วย
ที่ว่านี้อยู่หลายวันแต่ไม่มีห้วยที่น้ำเชี่ยวจนควายว่ายข้ามไม่ได้ พบแต่คลองที่พระนเรศวรขุดถ่ายน้ำจากคูเมืองก่อนที่จะเข้าเหยียบ
กำแพง (ถ่ายเอาไว้แล้วแต่เนกาตีพหายไปเลยไม่มีในหนัง) และอีกเหตุการณ์ (จากพงศาวดารยะใข่)ที่ระบุว่าพระเจ้าเมงราชาญีจับตัว
พระเอกาทศรถไปเรียกค่าไถ่ จึงทำให้พระนเรศวรต้องถอยทัพกลับไป ส่วนอาจารย์พม่าค้นคว้าพบว่าเหตุที่สมเด็จพระนเรศวรถอนทัพกลับ
เพราะ พระนางราชะชาตุกัลยา ขอร้อง ว่ากันว่าราชะชาตุกัลยาเป็นหญิงที่งามที่สุดในพม่า เป็นมเหสีของมังสามเกียด กับทั้งของนัทจินหน่อง
อาจารย์แกว่าสมเด็จพระนเรศวรเคยรักกับราชะชาตุกัลยามาตั้งแต่สมัยที่สมเด็จพระนเรศวรเป็นองค์ประกันที่หงสา ผมก็เลยแต่งว่าเมงเกงสอ
วางแผนให้สมเด็จพระนเรศวรลอบเข้ามาในเมืองตองอูเพื่อจับตัวนันทบุเรง(ไม่มีในพงศาวดารฉบับไหนทั้งสิ้นครับ) แต่น่าเสียดายที่เนกาตีฟ
ฉากพวกนั้นหายไปหมด เลยจะดูมึนๆนิดหน่อย คือหายไปตั้งแต่เมงเกงสอส่งสารมาให้พระนเรศวร ให้ลอบเข้าไปในเมืองตองอูโดยมุดอุโมง
จรเข้ แล้วเข้ามาพบนัทจินหน่อง ที่ลอบเอาชุดทหารตองอูมาถวาย
การตายของนัทบุเรงก็ยังเป็นที่ถกเถียงกัน บ้างก็ว่านัทจินหน่องแอบเข้าไปใช้มีดแทงนันทบุเรง บ้างก็ว่าเมงเยสีหตูประหารนันทบุเรงโดยใช้
ท่อนจันทร์ทุบ บ้างก็ว่าเมงเกงสอใช้ยาพิษที่สกัดจากเม็ดละหุ่ง ก็ต้องเลือกเอาอันใดอันหนึ่งครับ คิอเอาเป็นการวางยาพิษก็แล้วกัน
ความคิดเห็นที่ 11
ภาพนี้คือจุดเริ่มต้นที่กองทัพของพระนเรศวรเริ่มขุดจากคูเมือง ในพื้นหลังจะเป็นคูเมือง
ซึ่งในสมัยสมเด็จพระนเรศวร เสด็จไปตีเมืองเกตุมวดีตองอูจะเต็มไปด้วยจรเข้ไม่ใช่เป็ด
อย่างตอนนี้ครับ

ส่วนที่ขุดขุดไปลงแม่น้ำสโตงคือรูปนี้ครับ

ภาพนี้เป็นภาพของคณะสำรวจที่มีผม อาจารย์สุเนตรกับอาจารย์พม่า
ยืนอยู่บนสะพานข้ามคลองโยเดียครับ
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่มีครับ

ผมศึกษาประวัติศาสตร์มาอย่างละเอียด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บันทึกของวันวลิต ชาวฮอลันดา ที่มาอาศัยอยู่กรุงศรีอยุธยา หลังจากพระนเรศวรมหาราช ทรงสวรรคตไม่นาน

เป็นบันทึกจากคนกลาง และมีภรรยาเป็นชาวมอญ บันทึกนี้ได้มาจากการสอบถามชาวกรุงศรีอยุธยา ที่ยังจำเรื่องราวในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรฯได้อยู่

สมเด็จพระนเรศวรฯทรงมีพระประสงค์ที่จะกู้ชาติอย่างแรงกล้า ไม่มีความสนพระทัยในสตรีใดเลย แม้เจ้าเมืองเชียงใหม่จะส่งพระธิดาซึ่งทรงสิริโฉมงดงามมาที่กรุงศรีอยุธยา พระองค์ก็มิทรงโปรด

ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ทรงพำนักอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาน้อยมากๆๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทัพพร้อมกองทัพส่วนพระองค์ รอนแรมไปทั่วราชอาณาจักร หรือหลายครั้งก็ปลอมพระองค์เป็นสามัญชนเสด็จกลับอยุธยา เพื่อทรงสืบดูชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ยามว่าง พระองค์ก็ทรงเสด็จปฏิบัติธรรมเจริญสติวิปัสสนากรรมฐาน  ในหนังตำนาน ทุกภาค ไม่มีฉากที่พระองค์ทรงเจริญสติเลยแม้แต่นิด มีแต่บทพลอดรัก

ความผิดพลาดของ ภาพยนตร์ตำนานพระนเรศวรทุกภาค อยู่ที่ไปเน้นเรื่องความรักของพระองค์มากเกินไป จนบดบังความรักชาติให้ลดน้อยลงไป

ดังจะสังเกตได้จากภาคสุดท้ายนี้ ตอนที่พระองค์รับสั่งก่อนสวรรคต ที่จริงฉากนี้ ต้องเรียกน้ำตาคนดูได้มากมาย

แต่ผมดูแล้วไม่รู้สึกอะไร แถมก่อนสวรรคตหนังยังให้พระองค์ทรงตรัสกับมณีจันทร์ อีกตั้งนาน

ตอนสมัยที่อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ พอถึงตอนนี้ ผมน้ำหูน้ำตาไหล  แต่ตอนดูหนังไม่รู้สึกสักนิด

หนังควรเน้นไปที่การรบเพื่อกู้ชาติ แบบเรื่อง Braveheart

หนังภาคนี้จบสิ้นเสียที และผมอยากให้คนไทยลืมๆไป เพราะไม่ตรงกับประวัติศาสตร์จริงๆ

ความรู้สึกของเยาวชนไทยรุ่นหลัง ที่มีต่อองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช คงเปลี่ยนไปมาก จากหนังเรื่องนี้

ทั้งๆที่ความจริงแล้วพระองค์ ไม่ทรงใช่แบบนั้นเลย
ความคิดเห็นที่ 12
แม่น้ำสะโตงครับ ผมเชื่อว่ากองทัพของสมเด็จพระนเรศวรน่าจะยกทัพมาทาง
เรือนะครับเพราะน่าจะสะดวกสบายมากกว่ามาทางบก ซึ่งต้องผ่านภูเขาหลาย
ลูก แล้วยังอาจจะถูกพวกยะใข่ปล้น ผมเดาว่าสะเบียงของกองทัพสมเด็จพระ
นเรศวรก็น่าจะมาทางเรือเหมือนกัน

การเดินทางไปที่แม่น้ำสะโตงตามแนวลำคลองก็ยากเหมือนกันเพราะต้อง
เดินหรือเกาะท้ายแมงกะไซไปครับ
ความคิดเห็นที่ 10
เรื่องพระเอกาทศรถถูกพวกยะใข่จับตัวมาจากยะใข่ยาสเวงครับ (Arakan Yazawin) เป็นภาษาพม่าครับ
อาจารย์สุเนตรแปลส่วนนี้มาให้ผมใช้เป็นข้อมูลครับ
ส่วนที่ มิคกี้ ฮาร์ต เขียนว่ามังอะเถวเป็นคู่รักของพระนเรศวร แกคงเข้าใจผิดครับ เพราะในพงศาวดารพม่า
ระบุว่าเมงอะทเวเป็นลูกสาวของพระสุพรรณกัลยาครับ

อันนี้เป็นรูปคลองโยเดียครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่