ขออนุญาติถอดล็อคอินนะคะ ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้เราอายุยี่สิบต้นๆ ปัญหานี้มีมาตั้งแต่ช่วงเราม.4-ม.5 จนตอนนี้เรียนจบมาได้สองสามเดือนแล้ว
แบ้คกราวครอบครัวคือ บ้านเรามีกันสี่ชีวิต พ่อ แม่ พี่ และเรา พ่อทำงานบริษัทเอกชน ส่วนแม่รับราชการ แต่เดิมก็อยู่ในกรุงเทพทั้งคู่ เวลาเราไปโรงเรียนพ่อก็จะขับไปส่งเพราะเป็นทางผ่าน แม่เองก็ติดรถพ่อไปทำงานเหมือนกัน แล้วค่อยต่อรถเมล์จากที่ทำงานพ่อไปยังที่ทำงานแม่
พ่อจะเป็นคนนิ่งๆ คงด้วยภาระงานที่ต้องแบกรับ (ตอนเราประถมจำได้ว่าพ่อก็ยังเฮฮาอยู่บ้าง) หลังๆเริ่มดูเครียด พ่อเลี้ยงลูกแบบคนสมัยก่อน ประมาณว่า นี่คือพ่อ ห้ามเถียง อาจเป็นเพราะแกเป็นคนเสียงดัง และข้อมูลแกเยอะ เลยมั่นใจว่าถูกที่สุด ดีที่สุดแล้ว ไม่ฟุ่มเฟือย (ก็ยังใส่ถุงเท้าขาดๆกับเสื้อฟอร์มสีซีดๆ ทั้งที่รายได้มากกว่าแม่ อันนี้ไม่ได้จะเปรียบเทียบแต่เพื่อให้เห็นภาพน่ะค่ะ) ส่วนแม่จะขี้บ่น ตามสไตล์ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เราๆพอจะนึกภาพออก เจ้าระเบียบ และค่อนข้างเอาแต่ใจ (สำหรับเรานะ) เราจะค่อนข้างสนิทกับพ่อมากกว่า และพี่ชายก็จะสนิทกับแม่ (ในสายตาเราคือ แม่โอ๋พี่ชาย แต่กับเราจะใส่อารมณ์ ซึ่งถ้าเราไม่ผิดเราก็จะเถียงหัวชนฝา จนพาลไม่คุยกับแก)
จนช่วงมอปลาย แม่ย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ตอนนั้นเราเป็นคนแรกที่รู้เรื่อง(คิดว่างั้นนะ) สมัยนั้น msn ยังบูมอยู่ เราลงโปรแกรมพลัสเอาไว้ ที่จะบันทึกการสนทนาของคู่สนทนาของเราด้วย วันนึงอยู่ดีๆเรานึกครึ้มอะไรไม่รู้เลยไปเปิดอ่านบันทึกพวกนั้น แน่นอนว่ามันต้องมีข้อความของเพื่อนที่เราคุยด้วย แปลกออกไปก็คือเมล์ที่เราไม่รู้จัก ไม่คุ้นตาหรือเคยเห็นมาก่อน บางอันเป็นเมล์เพื่อนพี่ ส่วนบางอัน เรามั่นใจว่าใช่พ่อ 1.ข้อความที่ส่งออกไปเป็นผู้ชาย 2.สไตล์การพิมพ์ต่างจากพี่เรา (ไม่มีทางเป็นเพื่อนพี่หรือเพื่อนเรา เพราะตอนนั้นยังไม่เคยมีใครมาบ้าน) 3.เนื้อหาที่คุยคือเกี่ยวกับแม่และเรา ชัดๆเลยว่าเป็นพ่อกำลังคุยกับผู้หญิงคนอื่น
ปัญหาของพ่อกับผู้หญิง ลูกอย่างเราควรทำอย่างไร
แบ้คกราวครอบครัวคือ บ้านเรามีกันสี่ชีวิต พ่อ แม่ พี่ และเรา พ่อทำงานบริษัทเอกชน ส่วนแม่รับราชการ แต่เดิมก็อยู่ในกรุงเทพทั้งคู่ เวลาเราไปโรงเรียนพ่อก็จะขับไปส่งเพราะเป็นทางผ่าน แม่เองก็ติดรถพ่อไปทำงานเหมือนกัน แล้วค่อยต่อรถเมล์จากที่ทำงานพ่อไปยังที่ทำงานแม่
พ่อจะเป็นคนนิ่งๆ คงด้วยภาระงานที่ต้องแบกรับ (ตอนเราประถมจำได้ว่าพ่อก็ยังเฮฮาอยู่บ้าง) หลังๆเริ่มดูเครียด พ่อเลี้ยงลูกแบบคนสมัยก่อน ประมาณว่า นี่คือพ่อ ห้ามเถียง อาจเป็นเพราะแกเป็นคนเสียงดัง และข้อมูลแกเยอะ เลยมั่นใจว่าถูกที่สุด ดีที่สุดแล้ว ไม่ฟุ่มเฟือย (ก็ยังใส่ถุงเท้าขาดๆกับเสื้อฟอร์มสีซีดๆ ทั้งที่รายได้มากกว่าแม่ อันนี้ไม่ได้จะเปรียบเทียบแต่เพื่อให้เห็นภาพน่ะค่ะ) ส่วนแม่จะขี้บ่น ตามสไตล์ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เราๆพอจะนึกภาพออก เจ้าระเบียบ และค่อนข้างเอาแต่ใจ (สำหรับเรานะ) เราจะค่อนข้างสนิทกับพ่อมากกว่า และพี่ชายก็จะสนิทกับแม่ (ในสายตาเราคือ แม่โอ๋พี่ชาย แต่กับเราจะใส่อารมณ์ ซึ่งถ้าเราไม่ผิดเราก็จะเถียงหัวชนฝา จนพาลไม่คุยกับแก)
จนช่วงมอปลาย แม่ย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ตอนนั้นเราเป็นคนแรกที่รู้เรื่อง(คิดว่างั้นนะ) สมัยนั้น msn ยังบูมอยู่ เราลงโปรแกรมพลัสเอาไว้ ที่จะบันทึกการสนทนาของคู่สนทนาของเราด้วย วันนึงอยู่ดีๆเรานึกครึ้มอะไรไม่รู้เลยไปเปิดอ่านบันทึกพวกนั้น แน่นอนว่ามันต้องมีข้อความของเพื่อนที่เราคุยด้วย แปลกออกไปก็คือเมล์ที่เราไม่รู้จัก ไม่คุ้นตาหรือเคยเห็นมาก่อน บางอันเป็นเมล์เพื่อนพี่ ส่วนบางอัน เรามั่นใจว่าใช่พ่อ 1.ข้อความที่ส่งออกไปเป็นผู้ชาย 2.สไตล์การพิมพ์ต่างจากพี่เรา (ไม่มีทางเป็นเพื่อนพี่หรือเพื่อนเรา เพราะตอนนั้นยังไม่เคยมีใครมาบ้าน) 3.เนื้อหาที่คุยคือเกี่ยวกับแม่และเรา ชัดๆเลยว่าเป็นพ่อกำลังคุยกับผู้หญิงคนอื่น