มาเล่าประสบการณ์หลังเรียนจบครับ รู้สึกโดนกดดันมาก

กระทู้คำถาม
พ่อผมส่งเรียนจนจบตอนผมจบมาเป็นปีแล้วตอนนี้จากใจคนที่เรียนมาสิ่งที่แย่ที่สุดคือระบบ การสอนแบบไม่สนใจสิ่งที่เด็กสนใจอยาก เรียนจริง เรียนจบวิชาชีพบัญชีมา ตอนเรียน แทนที่จะได้เรียนวิชาที่เกี่ยวกับบัญชีแต่ กลับต้องเรียน เศรษฐศาสตร์ การตลาด การขาย สมัยก่อนแลกสินค้าไม่ใช่เงินบอก เลยไม่อยากสนใจแต่ก็ต้องสนเพราะถ้า เกรดวิชาพวกนี้ไม่ดีจะฉุดเกรดวิชาอื่น และ จะมีผลต่อการสมัครเรียน
ผมจบมาแถบไม่มีอะไรติดตัวเลยครับฝืนเรียนไปอย่างนั้น ไม่เรียนก็ไม่ได้
พ่อผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกแกบอกว่าผมเรียนพอใช้ได้ ไม่ได้แย่ ไม่ได้ดี
แกบอกว่า พลาดตรงไหนแก้ไขใหม่ได้
แกบอกขอแค่ใบจบก็พอ ตอนนี้ แกอายุ 61 ปีละครับ ส่วนผมตอนนี้ 28 ครับทำงานแล้วครับ
ทำเกี่ยวกับ รับ ซ่อม ล้าง ถอด ขาย แอร์
ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ทีวี พัดลม ผมทำต่อจากพ่อเป็นร้านบริษัทเลย ตำแหน่งผมเป็นแค่ทีมช่าง วันๆก็รับงานเรื่อยๆ เพื่อนร่วมงานทำอะไรไม่ได้เลยไม่รู้จบมาได้ไงเข้ามาได้ไงไม่รู้ ผมก็ตกอยู่ในนั้น คือ ผมชำนาญเรื่อง แอร์ ตู้เย็น แค่นั้น นอกนั้น
ไม่ค่อยชำนาญ

มีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับลูกค้าท่านหนึ่งมาติดต่อใช้บริการ ลูกค้าท่านนั้นมีลูกเขาให้ลูกไปเรียนต่างประเทศ เขามาเล่าให้ผมฟัง เขาจะให้ลูกเขาห่างกับการศึกษาไทยให้มากที่สุด
ฟัง ผมเลยอยากมาแบ่งปันในพันทิปครับ
มาเข้าเรื่อง

ผมเจอ ลูกค้าท่านหนึ่งตอน
เมื่อ หลาย สัปดาห์แล้ว ตั้งแต่ตุลาคม
เจอน้องผู้ชายกับพ่อแม่เขาและชายฝรั่งคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านบริษัทที่ผมทำงาน พวกเขาเดินกันมาพร้อมๆกันทั้งสี่คน พวกเขามาติดต่อล้างแอร์กับพี่ที่บริษัทฝ่ายขาย  ระหว่างนั้นมี น้องผู้ชายอายุประมาณ 10 กว่าขวบได้มั่ง เราก็เห็นน้องผู้ชายพูดกับฝรั่งได้หลายคำมาก
เราก็เห็นแล้วทำไมเก่งจังเรียนที่ไหนมา เราก็เลยถามเลยครับ แล้วพ่อแม่เขาบอกว่าลูกเขา พูดได้ 3 ภาษา ไทย อังกฤษ และสเปน เขาบอกเรียนอนุบาลที่ไทย 3 ปี พอขึ้นประถมส่งไปเรียนต่างประเทศ พอโรงเรียนปิดเทอมก็กลับมาที่ไทย พอเปิดเทอมก็ไปต่างประเทศเหมือนเดิม ส่วนฝรั่งคนนั้นคือครูประจำของน้องคนนั้น ส่วนพ่อแม่เขาเป็นคนไทยนี้แหละ น้องผู้ชายก็คนไทยด้วย ผมเลยถามพ่อเขาไปว่า
เรียนที่ไทยมันมีปัญหาไหนหรอกครับถึงส่งไปเมืองนอก

พ่อเขาบอกว่า

ครูที่ไทยหัวโบราณยังยึดติดกับกฎระเบียบเดิม ๆ ที่ไร้ สาระมาก ๆ เช่น ทรงผม ถุงเท้าถ้า มีแถบสีนิดเดียวถือว่าผิดระเบียบ แล้ว นอกจากนี้ครูยังยึดติดกับเรื่องไม่เป็น เรื่อง ทั้งที่เรื่องพวกนี้มันไม่มีความสำคัญ เลยหรือสำคัญน้อยมากกกกกก ในชีวิต การทำงานจริงยิ่งไม่มีใครให้ความสำคัญ กับเรื่องแบบนี้เลย
จบมาแล้วคิดไม่เป็น ไม่ มั่นใจ ไม่กล้าถาม กลัวทุกอย่างในโลก ภาษาอังกฤษ เรียน12ปี พูด/เขียน/อ่านไม่ ได้

เด็กจบม.6 ทำบัญญัติไตรยางค์ไม่เป็น เขียน ค่ะ/คะ สลับกัน

จบม.6 ไม่รู้ตัวเองถนัดอะไร ชอบอะไร อยากเรียนอะไร มาถามในสื่อต่างๆเยอะมาก ลองไปคุยกับเด็กที่เรียนอินเตอร์หรือสาธิต กับเด็กที่เรียนรัฐปกตินะ คุณจะเห็นความ แตกต่างเลย

กระทรวงไม่ต้องเพิ่มวิชาหรอก เปลี่ยนระบบการศึกษาเถอะ ครับ อย่าโทษมือถือโทษเด็กโทษคนอื่นเลย ช่วย สอนอะไรที่มันจำเป็นและอย่ายัดอะไรที่มันเยอะ เกินไป และให้เด็กได้มีอิสระทางความคิดด้วย ถ้า ระบบมันดีคนก็จะตั้งใจ จากใจเด็กคนนึงที่เคย เรียนวันละ8-9วิชา ยังไม่รวมกิจกรรมและเรียน อื่นๆอีก ตัดภาพมาที่การศึกษาต่างประเทศเรียนสนุกไม่มากเกินไป แสดงความคิดเห็นแบบเถียงๆกับกฏหมายที่นู่นได้ด้วย สอนเรื่องที่จำเป็นตอนโต อีกอย่างไม่ค่อยยัดเยียด การศึกษาต่างประเทศสอนเน้นประยุกต์ใช้จริง ตัดภาพมาที่ไทย อันดับการศึกษาลำดับโลก อยู่เกือบๆที่สุดท้าย สอนเด็กด้วยความคิดล้าสมัย  นี้และว่าทำไมพ่อแม่ที่มีเงินถึงส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศ

ผมจะบอกว่าเห็นด้วยกับพ่อเขานะครับว่าเรื่องนี้ผมฝ่าเรื่องพวกนี้มาได้ยันจะเรียนจบแต่ก็ผ่านมาได้ เหมือนตกนรกทั้งเป็นมากนะครับ อีกอย่างอยากให้แก้ไขด้วยครับ
ท่านใดตั้งแต่เข้าเรียนมาเจอยันจบเรื่องที่ดีหรือไม่ดีมาบ้านแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆได้นะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนะครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่