จากแคปชั่นที่ดีเจภูมิกล่าวไว้ในภาพนี้ ผมคิดว่าดีเจภูมิอาจจะมีเจตนาที่ดีที่ต้องการให้คนคิดก่อนใช้เงิน แม้การเปรียบเทียบมันจะไม่เกี่ยวข้องและดูเหมือนดูถูกคนจนมากไปหน่อย
แต่ถ้าผมเป็นคนที่จนแล้วได้เงินล้านมาจริงๆ ผมก็จะทำในสิ่งที่ดีเจภูมิ มองว่าใช้เงินไม่เป็นอยู่ดี
ผมจะซื้อสมาร์ทโฟน เอาไว้สำหรับเช็คอีเมล ส่งไฟล์งาน ดูหุ้น ทำธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งผมมองว่าหากผมเป็นคนจนที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟน และอยากเป็นนักธุรกิจที่ทันสมัย ย่อมสมควรที่จะมีไว้ เพราะมันทำประโยชน์ได้หลากหลายจริงๆ
ผมจะซื้อรถ เพื่อขับไปทำงาน และผมอาจจะซื้อมอเตอร์ไซต์ไว้อีกคันด้วยซ้ำ เผื่อเอาไว้ใช้เวลารถติด
ผมจะซื้อบ้าน เพื่อเอาไว้ปล่อยเช่า หรือขายเก็งกำไร
ผมจะก่อหนี้มากมาย เพื่อทำธุรกิจ ที่ผมคิดว่าตัวผมมีความรู้ในเรื่องนั้น และไฝ่ฝันในสิ่งนั้นมากที่สุด ถึงมันจะทำรายได้ให้ผมไม่ถึง 10 ล้าน แต่มันอาจทำรายได้ให้กับผมตลอดไป (ถ้าไม่เจ๊งก่อนนะ55)
และสุดท้าย ผมจะซื้อนาฬิกาหรูซักเรือนและเสื้อผ้าดีๆจำนวนนึง ไว้เพื่อติดต่องานภายนอกต่างๆ ซึ่งผมมองว่าภาพลักษณ์ที่ดีจะเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการติดต่อธุรกิจ อย่างน้อยก็ช่วยสร้าง first impression ให้แก่พวกที่ชอบตัดสินคนที่เปลือกได้ เชื่อผมสิว่าถ้าเราใส่สูทผูกไทด์ไปสมัครงาน หรือไปเจรจาธุรกิจ มันย่อมน่าเชื่อถือกว่าคุณใส่เสื้อตัวละ 199 เข้าไปหาเค้าอยู่แล้ว ซึ่งข้อนี้ ผมมองว่าดีเจน่าจะรู้ดีกว่าผม เพราะดีเจเองก็เคยพูดเอาไว้เองว่า
"เชื่อมั้ยว่า ตอนที่ผมมีเงินสดในบัญชี 20 กว่าล้าน ไม่มีใครสนใจผมหรอก ไม่มีใครแคร์ เค้ามองว่าผมเป็นดีเจธรรมดาคนหนึ่ง แต่วันที่ผมจ่ายค่าบ้านไป 10 กว่าล้าน และ ค่ารถ Lamborghini คันนี้ไป 10 กว่าล้าน ผมเหลือเงินในบัญชีเพียง 50,000 บาท ทุกคนมองว่า พี่ภูมิหล่อ พี่ภูมิดี พี่ภูมิเก่ง Instagram จากที่เคยลงรูปนึงมีคนกดไลค์เพียง พันกว่าไลค์ หลังผมมีรถคันนี้ มีคนกดไลค์ 8-9พันไลค์ ทุกคนบอกความคิดพี่ดี วิถีชีวิตพี่ดี ทั้งๆที่ผมเขียนเรื่องชีวิตผมมาเป็นปีแล้วไม่มีใครอ่าน ไม่มีใครชมเลย...พอหลังจากมีรถคันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนเลย...งานก็ยิ่งเข้ามา ราคาก็เปลี่ยน 555"
ข้อย้ำอีกครั้ง สิ่งที่ดีเจภูมิพูดมานั้นผมองว่ามีเจตนาที่ดี แต่ใช้คำผิด
การที่ดีเจภูมิมองว่าการที่คนจนซื้อของเหล่านี้ ว่าใช้เงินไม่เป็น (ขออนุมานแบบนี้นะครับ แต่ถ้าดีเจไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นก็ขออภัยที่เข้าใจผิด)
แต่ดีเจต้องเข้าใจว่า ต้นทุนชีวิตคนเรามันต่างกัน การที่คนรวยได้เงินล้านมา เค้าไม่จำเป็นต้องซื้อของเหล่านี้ เพราะเค้ามีอยู่แล้ว เค้าเพียงแค่นำเงินที่ได้ไปต่อยอด
แต่สำหรับคนที่เริ่มจากศูนย์ เค้าต้องนำเงินไปเติมเต็มสิ่งที่เค้าขาด ต้องใช้หนี้ ต้องส่งตัวเองเรียน เพียงแค่คุณบริจาคคอมเครื่องเดียวให้เค้า เค้าอาจเอาไปทำอะไร ได้มากกว่าที่คุณคิด
ที่พูดมาทั้งหมด ไม่ได้ต้องการจะยอกย้อนดีเจนะครับ เพียงแต่ผมอยากขอบังอาจให้ข้อคิดแก่ดีเจภูมิข้อนึงว่า
"ในบางครั้ง อย่าเพิ่งตัดสินใครเพียงแค่จากการกระทำที่เราเห็น ถ้าเรายังไม่ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงของเค้า"
ดีเจภูมิครับ ถ้าผมเป็นคนจนผมก็จะซื้อบ้าน รถ และ สมาร์ทโฟนเหมือนกันครับ
จากแคปชั่นที่ดีเจภูมิกล่าวไว้ในภาพนี้ ผมคิดว่าดีเจภูมิอาจจะมีเจตนาที่ดีที่ต้องการให้คนคิดก่อนใช้เงิน แม้การเปรียบเทียบมันจะไม่เกี่ยวข้องและดูเหมือนดูถูกคนจนมากไปหน่อย
แต่ถ้าผมเป็นคนที่จนแล้วได้เงินล้านมาจริงๆ ผมก็จะทำในสิ่งที่ดีเจภูมิ มองว่าใช้เงินไม่เป็นอยู่ดี
ผมจะซื้อสมาร์ทโฟน เอาไว้สำหรับเช็คอีเมล ส่งไฟล์งาน ดูหุ้น ทำธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงแอพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งผมมองว่าหากผมเป็นคนจนที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟน และอยากเป็นนักธุรกิจที่ทันสมัย ย่อมสมควรที่จะมีไว้ เพราะมันทำประโยชน์ได้หลากหลายจริงๆ
ผมจะซื้อรถ เพื่อขับไปทำงาน และผมอาจจะซื้อมอเตอร์ไซต์ไว้อีกคันด้วยซ้ำ เผื่อเอาไว้ใช้เวลารถติด
ผมจะซื้อบ้าน เพื่อเอาไว้ปล่อยเช่า หรือขายเก็งกำไร
ผมจะก่อหนี้มากมาย เพื่อทำธุรกิจ ที่ผมคิดว่าตัวผมมีความรู้ในเรื่องนั้น และไฝ่ฝันในสิ่งนั้นมากที่สุด ถึงมันจะทำรายได้ให้ผมไม่ถึง 10 ล้าน แต่มันอาจทำรายได้ให้กับผมตลอดไป (ถ้าไม่เจ๊งก่อนนะ55)
และสุดท้าย ผมจะซื้อนาฬิกาหรูซักเรือนและเสื้อผ้าดีๆจำนวนนึง ไว้เพื่อติดต่องานภายนอกต่างๆ ซึ่งผมมองว่าภาพลักษณ์ที่ดีจะเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการติดต่อธุรกิจ อย่างน้อยก็ช่วยสร้าง first impression ให้แก่พวกที่ชอบตัดสินคนที่เปลือกได้ เชื่อผมสิว่าถ้าเราใส่สูทผูกไทด์ไปสมัครงาน หรือไปเจรจาธุรกิจ มันย่อมน่าเชื่อถือกว่าคุณใส่เสื้อตัวละ 199 เข้าไปหาเค้าอยู่แล้ว ซึ่งข้อนี้ ผมมองว่าดีเจน่าจะรู้ดีกว่าผม เพราะดีเจเองก็เคยพูดเอาไว้เองว่า
"เชื่อมั้ยว่า ตอนที่ผมมีเงินสดในบัญชี 20 กว่าล้าน ไม่มีใครสนใจผมหรอก ไม่มีใครแคร์ เค้ามองว่าผมเป็นดีเจธรรมดาคนหนึ่ง แต่วันที่ผมจ่ายค่าบ้านไป 10 กว่าล้าน และ ค่ารถ Lamborghini คันนี้ไป 10 กว่าล้าน ผมเหลือเงินในบัญชีเพียง 50,000 บาท ทุกคนมองว่า พี่ภูมิหล่อ พี่ภูมิดี พี่ภูมิเก่ง Instagram จากที่เคยลงรูปนึงมีคนกดไลค์เพียง พันกว่าไลค์ หลังผมมีรถคันนี้ มีคนกดไลค์ 8-9พันไลค์ ทุกคนบอกความคิดพี่ดี วิถีชีวิตพี่ดี ทั้งๆที่ผมเขียนเรื่องชีวิตผมมาเป็นปีแล้วไม่มีใครอ่าน ไม่มีใครชมเลย...พอหลังจากมีรถคันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนเลย...งานก็ยิ่งเข้ามา ราคาก็เปลี่ยน 555"
ข้อย้ำอีกครั้ง สิ่งที่ดีเจภูมิพูดมานั้นผมองว่ามีเจตนาที่ดี แต่ใช้คำผิด
การที่ดีเจภูมิมองว่าการที่คนจนซื้อของเหล่านี้ ว่าใช้เงินไม่เป็น (ขออนุมานแบบนี้นะครับ แต่ถ้าดีเจไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นก็ขออภัยที่เข้าใจผิด)
แต่ดีเจต้องเข้าใจว่า ต้นทุนชีวิตคนเรามันต่างกัน การที่คนรวยได้เงินล้านมา เค้าไม่จำเป็นต้องซื้อของเหล่านี้ เพราะเค้ามีอยู่แล้ว เค้าเพียงแค่นำเงินที่ได้ไปต่อยอด
แต่สำหรับคนที่เริ่มจากศูนย์ เค้าต้องนำเงินไปเติมเต็มสิ่งที่เค้าขาด ต้องใช้หนี้ ต้องส่งตัวเองเรียน เพียงแค่คุณบริจาคคอมเครื่องเดียวให้เค้า เค้าอาจเอาไปทำอะไร ได้มากกว่าที่คุณคิด
ที่พูดมาทั้งหมด ไม่ได้ต้องการจะยอกย้อนดีเจนะครับ เพียงแต่ผมอยากขอบังอาจให้ข้อคิดแก่ดีเจภูมิข้อนึงว่า
"ในบางครั้ง อย่าเพิ่งตัดสินใครเพียงแค่จากการกระทำที่เราเห็น ถ้าเรายังไม่ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงของเค้า"