[Spoil] Kimi Shini Tamou Koto Nakare (Thou Shalt Not Die) ตอน 4

กลับมาพบกับตอน 4 กันต่อนะครับ

ช้าไป 3 วันเพราะติดงานอีกตามเคยแฮะ (บวกกับเรื่องนี้อธิบายเยอะด้วย เวลาย่อยเลยใช้เวลาย่อยนานอยู่ เลยเพิ่งได้เขียนเอาวันนี้...ทั้งที่สแกนอังกฤษออกไปแล้ว)

ว่าแล้วก็ไปชมเรื่องราวกันต่อเลยครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้







- ต่อจากตอนที่แล้วที่พวกพระเอกโดนซุ่มยิงกับโดนกับระเบิดกันจนเหลือแค่ 5 คน (คุโรอิ, มาชิโระ, อาซางิ, โบตั๋น, ไอ้ยักษ์ที่โดนยิงไข่กุดเมื่อตอนก่อน)

- คุโรอิกับอาซางิหยิบไอแพ็ดของซึมิผู้ม่องเท่งไปแล้วมาเปิดแผนที่เช็คเส้นทาง พลางคุยกันเรื่องหาทางไปยังจุดนัดพบกับหน่วยช่วยเหลือของอเมริกา (ระหว่างคุย คุโรอิมีเล่นมุกแบบไม่ขำว่าจะทิ้งไอ้ยักษ์กับโบตั๋นที่เป็นคนเจ็บไว้แล้วหนีไปแค่สามคนจะได้ไม่ต้องลำบาก เล่นเอาไอ้ยักษ์โวยเละเทะไปเลย)

- อาซางิบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ข่าวจากทางฝั่งนี้จะรั่วเข้าหูศัตรู ดังนั้นศัตรูน่าจะเตรียมกำลังไว้ซุ่มโจมตีที่จุดนัดพบแล้ว

- ได้ยินดังนั้น มาชิโระกับไอ้ยักษ์ก็ทำท่าเครียดขึ้นมาทันที แต่คุโรอิเดินเข้าไปลูบหัวปลอบมาชิโระบอกว่าตัวเองกับอาซางิจะหาทางทำอะไรซักอย่างเอง "ขอแค่มีคำสั่งจากผู้หญิงที่ชั้นรักมาก็พอ"




- คุยกันจบก็เตรียมการเคลื่อนพล โดยมาชิโระที่เป็นสายเสริมพลังที่เก่งสุดในชั้นปีทำหน้าที่แบกไอ้ยักษ์ที่ตัวใหญ่สุด ส่วนคุโรอิทำหน้าที่แบกโบตั๋นที่ตัวเบากว่าไปแทน

- ระหว่างเคลื่อนพล มาชิโระก็ถามอาซางิว่าทำไมอาซางิถึงได้รอบรู้อะไรเยอะนัก อาซางิก็ตอบว่า มนุษย์ปกติส่วนใหญ่จะลืมเรื่องส่วนใหญ๋ที่ได้พบเห็นได้ยินได้ฟังมาไปเกือบหมด แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น เพราะสมองส่วนลึกๆ จะยังคงจำเรื่องเหล่านั้นได้อยู่ และความสามารถของอาซางิก็คือการดึงเอาความทรงจำในส่วนนั้นออกมาใช้ได้ ทำให้อาซางิสามารถวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของสิ่งต่างๆ ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ


อาซางิขณะโด๊ปยากระตุ้นพลัง




- แต่ความสามารถนี้มีจุดบกพร่องร้ายแรงอยู่ นั่นคือยิ่งใช้มากเท่าไหร่ สมองก็ "แก่ตัว" เร็วขึ้นเท่านั้น ถึงขั้นอาจเป็นโรคสมองเสื่อมขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่แปลกเลย ด้วยเหตุนี้ อาซางิจึงมีอาการหลงลืมโน่นนี่เป็นพักๆ เหมือนคนเป็นอัลไซเมอร์ ทำให้สมรรถนะทางเพศลดลงถึงขั้นตายด้าน ที่ร้ายที่สุดคือทำให้อายุขัยลดลงถึงขั้นอาจอยู่ได้อีกแค่ 3 ปีเสียด้วยซ้ำ

- มาชิโระได้ยินดังนั้นก็บอกว่าแบบนั้นไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ อาซางิก็หันมาบอกว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าคนอื่นที่ไปออกรบแล้วตายทันทีก็แล้วกัน

- ระหว่างนั้น อาซางิก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรเกี่ยวกับมาชิโระขึ้นมาได้ แต่พอมาชิโระถามว่าเรื่องอะไร อยู่ๆ อาซางิก็หันมาทำยิ้มหน้าหลอนๆ ถามมาชิโระกลับว่า "เอ้อ...เมื่อกี้ชั้นพูดอะไรไปเหรอ...."




- เดินมาได้พักหนึ่งก็มาถึงจุดนัดพบซึ่งเป็นหลุมเครเตอร์ขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง มีซากตึกร้างตั้งระเกะระกะอยู่โดยรอบหลุมใช้เป็นที่ซุ่มโจมตีได้อย่างดี

- พวกคุโรอิเห็นดังนั้นก็ไม่ผลีผลามเข้าไปยังหลุม แต่ซ่อนตัวดูท่าทีอยู่ห่างๆ ประเมินกำลังศัตรูก่อน

- อาซางิวิเคราะห์กำลังพลฝ่ายศัตรู ทั้งอาวุธและตำแหน่งของศัตรูได้อย่างแม่นยำจนทุกคนทึ่งไปตามๆ กัน

- วิเคราะห์ฝ่ายศัตรูกันเสร็จ คุโรอิก็บอกว่าตัวเองกับอาซางิจะบุกไปจัดการศัตรูให้หมดเอง มาชิโระได้ยินดังนั้นก็ร้องห้ามว่ามีกันแค่สองคนจะเอาอะไรไปสู้กับทหารถือปืนเป็นสิบๆ ที่ดักซุมอยู่ คุโรอิก็ยิ้มแป้นบอกว่าทำตามที่เขาบอกเถอะ รับรองได้กลับบ้านไปนอนสบายแฮ

- โดยแผนของคุโรอิคือ ให้อาซางิวิเคราะห์ว่าตำแหน่งไหนที่มีศัตรูซุ่มอยู่ ครั้นเช็คจนแน่ใจว่ามีศัตรูซุ่มอยู่จริง คุโรอิก็จะส่งสัญญาณให้มาชิโระขว้างหินไปยังตำแหน่งที่มีศัตรูอยู่นั้นให้สุดแรง (เหมือนตอนก่อนที่ขว้างไปกระแทกหัวสไนเปอร์แตกตายคาที่) ศัตรูเมื่อได้ยินเสียงหินกระทบผนังอย่างแรงก็จะตกใจจนชะงักไปวูบหนึ่ง คุโรอิก็จะอาศัยจังหวะนั้นใช้ความสามารถสะกดจิตทำให้อีกฝ่ายไม่ขยับ แล้วบุกไปเชือดนิ่มๆ หมดฝูงได้อย่างง่ายดาย


เห็นฉากนี้แล้ว ผมงี้อยากเล่นมุก "จงสลาย!! เคียวขะซุยเงสึ!!" ขึ้นมาเชียว อมยิ้ม15




- แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกคุโรอิใช้แผนการที่กล่าวไปข้างต้น ไล่เก็บทหารราบฝ่ายศัตรูที่ดักซุ่มอยู่จนตายไปกว่าครึ่ง

- ทว่า ชั่วขณะที่คิดว่าทุกอย่างกำลังจะเรียบร้อยนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีเสียงคล้ายใบพัดดับตั่บๆๆๆ พร้อมลมหอบใหญ่กระโชกวูบ คุโรอิกับอาซางิเงยหน้ามอง และพบกับฮ. Mil Mi-23 ลำหนึ่งบินอยู่เหนือหัว




- ฮ.จู่โจมเปิดฉากสาดปืนกลหนักเข้าใส่คุโรอิกับอาซางิทันที เล่นเอาคุโรอิต้องลากอาซางิวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน

- พอหนีเข้าไปหลบในตัวตึกได้ อาซางิก็บอกว่าตัวเองเพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าฝ่ายศัตรูมีฮ.แบบนั้นใช้ด้วย ดังนั้นเป็นไปได้สูงมากที่ฝ่ายศัตรูจะร่วมมือกับผู้ก่อการร้ายจากประเทศข้างเคียง คุโรอิได้ยินดังนั้นก็แอบบ่นขำๆ ว่าแบบนี้มีหวังไม่ได้เจอมาชิโระไปชั่วชีวิตแหง

- พอได้ยินชื่อมาชิโระ อาซางิก็ทำท่านึกอะไรขึ้นมาได้ และบอกกับคุโรอิว่า "ที่ที่มาชิโระซ่อนอยู่นะมีโอกาสโดนกำลังเสริมฝ่ายศัตรูบุกโจมตีถึง 93% เชียวนะ"

- ได้ยินดังนั้น คุโรอิก็หน้าเปลี่ยนสีทันที เขาผลุนผลันออกจากที่กำบัง วิ่งกลับไปยังที่ซ่อนของพวกมาชิโระแบบลืมตัวลืมตาย ปากก็ร้องเรียกชื่อมาชิโระซ้ำๆ เป็นสิบๆ ครั้งเหมือนคนเสียสติ ไม่นำพาต่อกระสุนปืนกลของฮ.จู่โจมที่วิ่งไล่หลังมาแม้แต่น้อย

- ตัดไปทางฝั่งที่ซ่อนของพวกมาชิโระ ซึ่งพวกมาชิโระก็ถูกทหารฝ่ายศัตรูบุกโจมตีตามที่อาซางิทำนายล่วงหน้าไว้จริงๆ

- ทหารสองคนบุกเข้ามาพร้อมสาดปืนกลใส่ ไอ้ยักษ์เห็นดังนั้นก็รีบร้องเตือนมาชิโระให้ระวัง มาชิโระโดนจู่โจมกะทันหันไม่มีเวลาชักดาบ เลยต้องกลิ้งตัวหลบไปคว้าโต๊ะกลมตัวหนึ่งมาป้องกันตัว ฟาดใส่ทหารทั้งสองจนเสียหลักยิงไม่ได้ แล้วฟาดอีกทีใส่คนหน้าสุดจนตาย ทหารคนที่สองเห็นเพื่อนตายต่อหน้าก็ขยับจะยิงใส่มาชิโระ แต่ยังไม่ทันยิงก็เจอมาชิโระเหวี่ยงหมัดสวนเข้าใส่จนหน้าเละคามือ




- ฆ่าทหารที่บุกเข้ามาเสร็จ มาชิโระก็ยืนตัวสั่นเป็นลูกแมวตกน้ำ ร้องไห้ด้วยความกลัวและความช็อคที่ต่อยคนตายคามือเป็นครั้งแรก

- พริบตานั้นเองที่มาชิโระสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นบนร่างกายตัวเอง นั่นก็คือ...




- ร่างของมาชิโระทรุดฮวบลงกับพื้นในทันทีเหมือนตุ๊กตาถูกตัดสาย

- ทว่าก่อนจะล้มลงฟาดพื้นนั้นเอง ร่างของมาชิโระกลับชะงักกึกในท่าเกือบล้มนั้น ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มน่าสะพรึงกลัว




- จบตอน 4 -







เห็นฉากสุดท้ายแล้วไม่ค่อยห่วงมาชิโระเท่าไหร่แฮะ เพราะในภาพตัวอย่างจากตอน 0 ก็เห็นชัดๆ อยู่ว่าน้องเค้าไม่ตายแน่ๆ จะห่วงก็แต่พระเอกนี่แหละ เห็นปกติยิ้มหัวไปมาแบบนั้น พอรู้ว่ามาชิโระตกอยู่ในอันตรายก็คลั่งขึ้นมาเฉย ไม่อยากคิดเลยวุ้ยว่าถ้ามาชิโระเป็นอะไรขึ้นมาจริง ไอ้นี่จะสวมบทฆาตกรโหดได้ขนาดไหน

ภาพจากตอน 0 ที่ว่า...ใครอ่านมาแต่แรกหรืออ่านตอนที่แล้วก็น่าจะได้เห็นกันแล้วแฮะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ว่าแต่อ่านไปได้ 4 ตอนแล้วคิดแว่บขึ้นมาเลยแฮะ ว่าเรื่องนี้มันให้อารมณ์เหมือนเล่นเกมด่านแรกเลย ประมาณกดสตาร์ตปุ๊บก็ขึ้น CG เปิดเรื่องนิดหน่อยแนะนำเนื้อเรื่องช่วงต้นเล็กน้อย แล้วก็ลงสู้ในด่านเลย ไม่มีการเกริ่นนำเนื้อเรื่องอะไรมากมาย มีแต่ศัตรูดาหน้ามาให้ฟันๆๆ เก็บเลเวลอย่างเดียว (ส่วนเนื้อเรื่องค่อยไปเล่าเอาหลังจากเคลียร์ด่านแรกเสร็จแล้ว)

สมกับที่คนเขียนเนื้อเรื่องเป็นผกก.เกมจริงๆ (แต่จากที่ได้ยินคนรู้จักเล่ามา เหมือนเกม Drag on Dragoon ที่คุณโยโค ทาโร่กำกับ เนื้อเรื่องช่วงเปิดประมาณนี้กันอยู่แล้วนี่นะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่