มาต่อกันเถอะ



- ต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว แม้ว่า เชฟฟิลด์ เอดินบาระ (และอาคาชิที่ขอติดสอยห้อยตามหนีไปด้วย) จะหนีออกจากจักรวรรดิซากุระได้แต่ก็ไม่พ้นโดนตามล่าไปถึง ซากอารยธรรมของเมืองมนุษย์ กลางทะเล 



แน่นอนฝั่ง จักรวรรดิซากุระและ เมทัลบลัด ย่อมไม่ปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้ ขนกันมาพอสมควร แถมล้อมรอบซากเมืองไว้หมดแล้ว 



- เรื่องว่า ลูกบาศ์กจิตสีดำ ที่ชิงมาได้มันคืออะไร สำหรับอาคาชิเองก็ไม่รู้ได้ ซึ่งเมื่อเชฟฟิลด์กลับมารายงานสถานการณ์ว่า เครื่องบินฝั่งศัตรู กระจายอยู่รอบน่านฟ้าซากเมืองไปหมด แถมยากที่พวกมันจะลดระดับการค้นหา

ดังนั้น ทางเลือกคือ หลบซ่อนตัวไว้ก่อนเพราะฝั่งฐานทัพหลักของสัมพันธมิตรรู้เรื่องตรงนี้แล้วคาดว่าคงจะส่งหน่วยช่วยเหลือมาแน่ๆ  ดังนั้นตอนนี้ ดูสถานการณ์ไปสักระยะ



- ตัดไปยังฝ่ายอักษะ แม้จะอยู่ในสถานการณ์เดาไม่ออก แต่ อาตะโกะ (ผู้มีความเป็นแม่มากกว่าพี่น้อง) โผล่มากลบบรรยากาศให้หายเครียดกัน 



- แล้วก็เป็นไปอย่างที่ เชฟฟิลด์ วิเคราะห์ไว้ เพราะในที่สุดฝ่ายสัมพันธมิตรก็บุกมาช่วยแล้ว พร้อมเริ่มทำการขยายโลเคชั่น และ รายละเอียดยิบย่อยของเรื่องราวในอนิเมะ ให้ออกมาเยอะขึ้นกว่าในเกมนั้นคือ 



1. โลเคชั่นซากเมืองนี้ก็เคยมีมนุษย์อาศัยอยู่แต่เพราะพวกไซเรนบุกมาทำลายเลยพินาศอย่างที่เห็น ซึ่งคาดว่าคงมีซากแบบนี้ปรากฎไปทั่วโลกแน่ๆ 



2. รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ ตัวสาวเรือ (คันเซ็น) และ มนุษย์ ว่าเชื่อมโยงกันอย่างไร ว่ารูปลักษณ์ของสาวเรือแต่ละคน เกิดขึ้นจากรูปลักษณ์ในอุดมคตอของเหล่ามนุษย์ที่ได้ลูกบาศ์กจิตมา ซึ่งจะบอกว่า คันเซ็น ได้รับหัวใจและชีวิตจากมนุษย์ก็ว่าได้

(มีกล่าวไว้ใน Ep.01 แล้ว) 



แต่สำหรับเบลฟาสแล้ว กลับคิดอีกชั้นว่า พวกเราคันเซ็น ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์เลยสักนิด แม้พวกเราจะเกิดมาเพื่อสู้ แต่พวกเราก็ภาคภูมิใจในชีวิตที่สูงส่งนี้ นั้นแหละจึงเป็นอีกเหตุผลว่าพวกเราต้องการสร้างสิ่งที่เรียกว่า "ยืนยันการมีตัวตน" ของตัวเอง นั้นแหละ  ซึ่งสำหรับเบลฟาส การได้ใช้ชีวิตในฐานะ สาวใช้ คอยปรนนิบัติ การคือการให้ความเคารพต่อชีวิตที่สูงส่งนี้ 




- ซึ่งสำหรับ อาตะโกะ ผู้มีความเป็นแม่รับฟังเรื่องทุกอย่างของคนอื่น ประจวบกับคนพากย์คือ Ai Kayano ซีนนี้เลยเห็นภาพ มามาโกะ/Okaasan online คุณแม่ที่มีสกิลพื้นฐานเป็นการโจมตีหมู่ ซ้อนขึ้นมาทันที 

ครึ่งหลัง 

ตรงนี้ไม่มีรายละเอียดอะไรเท่าที่ควร นั้นคือ เริ่มเปิดฉากบุก เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ เชฟฟิลด์ และ พรรคพวกอาศัยจังหวะนี้หลบหนีออกมา

ฝ่ายอักษะ





- อาตะโกะ และ ทาคะโอะ อายานามิ จะบุกเข้าไปในซากเมือง โดยพวก เมทัลบลัด ดูสถานการณ์ในเมืองไว้แล้ว 
- โชวคาคุ และ ซุยคาคุ อาสาจะไปเผชิญหน้ากับ เอ็นเตอร์ไพร์ธ เอง 
- ฟุโซว ยามาชิโระ คาโกะ ฟุรุทากะ จะอยู่แนวหน้ายิงสกัดกับฝ่ายสัมพันธมิตรเอง  

ฝ่ายสัมพันธมิตร




- ทีมแนวหน้านำโดย โอกลาโฮม่า & รีพัลส์ & ปรินซ์ออฟเวลส์ ยิงแลกกับ ฟุโซว ยามาชิโระ คาโกะ ฟุรุทากะ
- คลีฟแลนด์ เบลฟาส ลาฟฟี่ จาเวลิน แฝงตัวเข้าไปในซากเมืองด้วย Naval Camouflage หรือ ผ้าคลุมลายพราง (ไข่อีสเตอร์จากในเกม) 




- แต่แล้ว ทีมคลีฟแลนด์ก็ดัน จ๊ะเอ๋กับ อาตะโกะและทาคะโอะ เข้าอย่างจังเบอร์ จึงบอกให้ ลาฟฟี่และจาเวลิน ถอยไปก่อน ซึ่งขณะเดียวกัน ฝั่งจาเวลินก็เจอกับอายานามิ 



- ฝั่งซุย&โชว เมินใส่ นอร์ฟอล์ก & ซัฟฟอล์ก เพราะ เป้าหมายคือ เอ็นเตอร์ไพร์ธ เท่านั้น   (ในประวัติศาสตร์ไม่มีจริงเพราะ นอร์ฟอล์ก & ซัฟฟอล์ก อยู่แถวมหาสมุทรแอตแลนติก) 




- ฝั่ง เชฟฟิลด์ แม้จะบอกว่าเป็นโอกาสหนีแล้วแต่สุดท้ายก็โดน เมทัลบลัด ยำชุดใหญ่จนหมดสภาพ 



- คลีฟแลนด์บอกให้เบลฟาสนำไปก่อนตรงนี้จะถ่วงเวลาไว้ให้ ทำให้ เบลฟาส ไปช่วย เชฟฟิลด์ และ เอดินบาระ ได้สำเร็จ (อาคาชิหนีเข้าซากตู้เย็น) ออยเก้น บอกว่า มาช่วยก็ใช่ว่าสถานการณ์จะได้เปรียบแต่อย่างใด เพราะยังไง ฝั่งตัวเองมีมากกว่า




- ทว่า เบลฟาส กลับเป็นฝ่ายสวนกลับไปเองว่า ฝั่งพวกเราต่างหากที่ชนะแล้ว เพราะ...............





- ตอนนั้นเอง เอ็นเตอร์ไพร์ธ ได้โผล่ออกมาบนยอดของซากอาคารที่สูงเหนือกว่าใครๆ พร้อมตั้งคันศรเตรียมตัวยิงเรียบร้อย นั้นทำให้ ออยเก้น สั่งให้ถอนกำลังไปอย่างช่วยไม่ได้ 



เอ็น -  Its over Anakin I have the high ground.
ออยเก้น - แกเป็นโอบีวัน รึไง!!



- ฝั่งจาเวลิน จบลงที่ อายานามิ เป็นฝ่ายบุกท่าเดียวแล้วต้องหยุดลงดาบไว้ก่อน เพราะสับสนไปหมดแล้วกับพฤติกรรมไม่อยากต่อสู้ของลาฟฟี่แถมไม่คิดหลบ (ไปตัดผมลาฟฟี่ให้อีก)  




อายา - ทำไม!! ทำไมถึงไม่สู้!! พวกเราเป็นศัตรูกันไม่ใช่รึไง!!
ลาฟ - เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก
อายา - ?!
ลาฟ - ลาฟฟี่นะ..อยากเป็นเพื่อนกับอายานามิ




จา (ดูอยู่ห่างๆ) - ใช่แล้ว..เข้าใจละ... ชั้นเองก็อยากเป็นเพื่อนกับอายานามิจังเหมือนกัน 

จบตอน