เช่น เดิมนาย จ. มีหน้าที่ในการเป็นเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สากล สัญชาติ ก. ทำงานในประเทศ ก. ด้วยการช่วยหน่วยส่งเสบียงให้ผู้ลี้ภัยสงครามกลางเมือง
นาย จ. ต้องประสบกับการเห็นคนตายไปต่อหน้าหลายร้อยคน โดยไม่สามารถช่วยเหลือได้ เห็น
ความทรมาน ความหดหู่ ความสิ้นหวัง ความหมดเนื้อประดาตัว การฆ่าตัวตาย การเผา การฆ่าทารก การประหารหมู่ อีกทั้งนาย จ. มีการศึกษาสูง เคยศึกษาด้านการแพทย์ (เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์) จึงถูกทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏจับตัวไปใช้งาน ประมาณ 5 ครั้งสลับกัน ขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ที่ นาย จ. อยู่ขณะนั้นฝ่ายใดครอง นาย จ. อยู่อย่างลำบากแร้นแค้น บางครั้งตนเองยังต้องอดอาหารหลายวันเพราะเสบียงถูกตัดขาด รวมถึงเสียโฉมจากการเป็นแผลทั่วตัวในภาวะสงคราม จนกระทั่งฝ่ายรัฐบาลชนะท่ามกลางซากเมือง
และเนื่องจากนาย จ. ก็ไม่สามารถหนีออกจากภาวะนี้ได้เป็นเวลาหลายปี ... หลังสงครามสงบ นาย จ. มีอาการโรคจิตเวชหลังภาวะสงคราม ไม่สามารถได้ยินคำว่า "เสบียง" "สัมพันธมิตร" "สงคราม" "อักษะ" "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และไม่สามารถได้ยินเสียงปืน หรืออื่นๆ ที่จะทำให้ย้อนไปเห็นภาพความโหดทารุณในอดีต
ขอชื่อโรคที่นาย จ. เป็นด้วยครับ
หลังพบกับเรื่องสะเทือนใจ ทำให้ไม่สามารถทำงานที่เคยทำอยู่เดิมได้ เรียกว่าโรคอะไรครับ
นาย จ. ต้องประสบกับการเห็นคนตายไปต่อหน้าหลายร้อยคน โดยไม่สามารถช่วยเหลือได้ เห็น
ความทรมาน ความหดหู่ ความสิ้นหวัง ความหมดเนื้อประดาตัว การฆ่าตัวตาย การเผา การฆ่าทารก การประหารหมู่ อีกทั้งนาย จ. มีการศึกษาสูง เคยศึกษาด้านการแพทย์ (เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์) จึงถูกทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏจับตัวไปใช้งาน ประมาณ 5 ครั้งสลับกัน ขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ที่ นาย จ. อยู่ขณะนั้นฝ่ายใดครอง นาย จ. อยู่อย่างลำบากแร้นแค้น บางครั้งตนเองยังต้องอดอาหารหลายวันเพราะเสบียงถูกตัดขาด รวมถึงเสียโฉมจากการเป็นแผลทั่วตัวในภาวะสงคราม จนกระทั่งฝ่ายรัฐบาลชนะท่ามกลางซากเมือง
และเนื่องจากนาย จ. ก็ไม่สามารถหนีออกจากภาวะนี้ได้เป็นเวลาหลายปี ... หลังสงครามสงบ นาย จ. มีอาการโรคจิตเวชหลังภาวะสงคราม ไม่สามารถได้ยินคำว่า "เสบียง" "สัมพันธมิตร" "สงคราม" "อักษะ" "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และไม่สามารถได้ยินเสียงปืน หรืออื่นๆ ที่จะทำให้ย้อนไปเห็นภาพความโหดทารุณในอดีต
ขอชื่อโรคที่นาย จ. เป็นด้วยครับ