ตอนนี้ พล็อตหลัก และ รายละเอียดปลีกย่อย จะขอแบ่งแยกจากกันเป็นสัดส่วน เพื่อง่ายต่อการเล่าเพราะโดยรวมแล้ว ส่วนปลีกย่อยกลับเยอะกว่า พล็อตหลัก เสียอีก
พล็อตหลัก
- ต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว หลังจบภารกิจช่วยเหลือ เช้าวันใหม่ ในวันนี้ก็เริ่มเห็นถึง การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของ เอ็นเตอร์ไพร์ธ ตามที่ท้องเรื่องค่อยๆปูลงไปเรื่อยๆ นั้นเอง เช่นว่า เลือกที่จะเข้าหากลุ่มตัวเองมากขึ้น เลิกกิน Ration แต่ไปกินข้าวในโรงอาหารของฐานทัพ พร้อมที่เหล่าเพื่อนฝูงเข้ามาทักทาย พูดคุยสัพเพเหระกันปกติ
(เวสทัลบอกเองว่า เอ็นเตอร์ไพร์ธ เริ่มเปลี่ยนไปทีเล็กทีละน้อยแล้ว)
- หลังทานอาหารเช้าก็เริ่มเข้าประเด็นนั้นคือ ลูกบาศ์กจิตสีดำ ที่ได้มาจากฝ่ายอักษะ โดยได้ข้อสันนิฐานว่า ลูกบาศ์กจิตสีดำ + โครงการโอโรจิ + อาคากิ + ไซเรน มีความเกี่ยวโยงกันแน่ๆ และ บางที จักรวรรดิซากุระ กำลังโดนพวกไซเรนสวมเขาอีกต่อนึง
- แต่แล้ว เอ็นเตอร์ไพร์ธ ซึ่งรู้สึกแปลกๆกับลูกบาศ์กจิตสีดำได้ลองไปสัมผัสมัน เมื่อนั้นที่ได้เห็นภาพแปลกๆ นั้นคือ Alternatative Enterprise หรือ Enterprise Type-G จากในเกม นั้นเอง
ไปยังฝ่ายอักษะกันบ้าง
บทในตอนนี้ค่อนข้าง สองแง่สองมุม เกี่ยวกับตัว อาคากิ อยู่เยอะ ว่าบางทีเหตุผลที่อาคากิเลือกเส้นทางนี้ อาจไม่ใช่แค่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ อาจรวมไปถึง ผลประโยชน์ส่วนรวม อย่าง จักรวรรดิซากุระ ด้วยก็ได้ จากที่ญาติดีกับเหล่าเด็กอนุบาลอย่างให้ขนม หรือ พูดกับคากะว่า เด็กพวกนั้นมีความสุขกันตลอดไปก็คงจะดี หรือ คากะ ไม่อยากอยู่ร่วมกับทุกคนไปตลอดกาลบ้างรึยังไง ?
กลับไปยังฝ่ายสัมพันธมิตร
- หลังได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของสาวเรือในเขตการค้า เอ็นเตอร์ไพร์ธ กลับไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เห็นตรงหน้านี้แต่อย่างใด กลับคิดแค่ว่า พฤติกรรมเหล่านี้มันไม่ต่างจาก นครของเหล่ามนุษย์ เลยสักนิด ทั้งที่พวกตัวเองเป็นสาวเรือแท้ๆ
ฝั่งเบลฟาสที่ได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มร่ายยาวว่า สิ่งที่เอ็นเตอร์ไพร์ธพึงต้องการจริงๆก็คือความงดงามในก้นบึ่งของหัวใจตนเอง จนเอ็นเตอร์ไพร์ธเริ่มแซวกลับว่า พูดกันแบบนี้ อยากให้ตนเองไปเป็นสาวใช้ดูรึยังไง ?
(เบลฟาสแซวกลับ พอดีมีชุดสาวใช้สำรองไว้แล้วถ้าอยากลองใช้ชีวิตแบบนั้นก็ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจับเคลมสอนมารยาทและวิถีชีวิตสาวใช้ให้เอง จนเอ็นเตอร์ไพร์ธรีบบอกปัดไป พลอยให้เบลฟาสหัวเราะในลำคอไม่ได้ )
เบล - ไม่ใช่แค่เฉพาะสาวใช้ แต่การได้เริ่มต้นทำในสิ่งใหม่ๆคือความประเสริญและผลประโยชน์ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น งานอดิเรก , ทำงานอย่างอื่น หรือ สิ่งอื่นใดนอกเหนือจากการต่อสู้ก็เช่นกัน (ประมาณว่าไปหาอะไรทำเพิ่มสีสันให้แก่ชีวิตไม่งั้นอับเฉาตาย)
เอ็น - มันคงไม่ง่ายสำหรับฉันเนี่ยสิ.
เบล - ชีวิตของมนุษย์เปรียบดั่งการผจญภัย การท้าทายสิ่งใหม่ๆก็คือการผจญภัยที่น่าลิ้มลอง
สุดท้ายแล้วหากเอ็นเตอร์ไพร์ธได้พบในสิ่งที่ตัวเองอยากลองทำดูก็อาจจะเข้าใจเหตุผลที่ว่าทำไมพวกสาวเรืออย่างตนเองถึงได้ กายมนุษย์ แบบนี้มาก็ได้
ครึ่งหลัง
ตอนนี้ไม่มีอะไรเท่าไรนอกจาก เซอร์วิส เซอร์วิส และก็ เซอร์วิส ตั้งแต่ สายหลัก เนื้อนมบั้นท้าย และ สายหมี ซึ่งม่านหมอกศีลธรรมลงจัดหนักตามระเบียบประดุจ ฝุ่น PM 2.5 ก็ไม่ปาน แต่เป็นการเฉลยถึงปมเล็กน้อยที่ผู้ชมทางบ้านสงสัยเช่นว่า
- เชฟฟิลด์ไม่ได้ใส่ ก.ก.น ด้วยเหตุผลจากคนวาดว่า เพื่อความคล่องตัวในการ เคลื่อนไหว และ ต่อสู้ (อาคากิเลยเสียจังหวะไปครู่นึง)
- คลีฟแลนด์ที่จริงเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อย และ สลัดออกจากสมองไม่ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ความกลัดกลุ้มของ ยูนิคอร์น ที่ว่า ตนเองเกิดมาตัวเล็ก แต่ทำไมหน้าอกถึงใหญ่ จนอดคิดไม่ได้ว่ามันคือความผิดปกติของตัวเองเฉกเช่นสิ่งแปลกปลอม แต่ ลาฟฟี่ กลับออกมาพูดเองว่า ทุกคนแตกต่างนั้นแหละถูกต้องแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่ามันคือสิ่งที่ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะ ต่างคนต่างก็มีสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน ทั้งเล็ก และ ใหญ่ มาสารพัด จบที่ยูนิคอร์นเลิกกลัดกลุ้มแล้วยิ้มกลับอย่างสดชื่น
มายังช่วงสุดท้ายกันเลย
- จากช่วงแรกที่ สุดท้ายอายานามิก็เลือกที่จะหนีไป นั้นเองที่ทำให้ จาเวลิน ตัดสินใจแล้วว่า ยังไม่ขอยอมแพ้ ถึงแม้พวกเราจะเป็นศัตรูกันก็ตาม แต่จะสู้ต่อกับเรื่องที่ต้องการจะเป็นมิตรสหายกับอายานามิ
- ฉากนี้ไม่มีอะไรนอกจาก ชีวิตยามค่ำคืนของเหล่าสาวเรือ และ คู่ เอ็น&เบล ที่สนิทกันมากขึ้น ประดุจ ผัวเมีย ที่เข้าใจกันเรื่อยๆ
- ฉากท้าย สิ่งที่เริ่มเห็นมากขึ้นก็คือ จิตใจของคากะ และ เล่ห์เหลี่ยมของออยเก้น ที่เริ่มต้นจากการเห็น เครื่องประดับผมที่อาคากิซื้อให้ว่า เครื่องประดับนั้นคงเป็นรสนิยมของอาคากิแน่ๆ แต่คากะไม่แม้แต่จะเชื้อเชิญกลับกันที่ไล่ไปให้พ้น แกอยู่มีแต่จะทำให้เหล้า (Sake) รสชาติแย่ลงไปด้วย
ฝั่งออยเก้นที่เริ่มถามว่า ลูกบาศ์กจิตสีดำถูกชิงไปแล้วไม่รู้สึกรู้สาหรือเดือดร้อนอะไรบ้างรึยังไง ฝั่งคากะก็ยังบอกปัดว่า ไม่ใช่เรื่องของแก จนออยเก้นเริ่มต้นแทงใจดำเข้าทันที
ออยเก้น - แน่ใจรึ..ว่าเธอและอาคากิ จากนี้ ต่างก็เป็นของกันและกัน..หือ ?
คากะ (ได้ยินแล้วของขึ้น) - พอได้แล้ว!!
ออยเก้น (ยิ้มอ่อนๆก่อนจะจากไป) - รักเขาข้างเดียว รั้งแต่จะทำให้เจ็บปวด..ไม่คิดเช่นนั้นรึยังไง ?
คากะ (ไม่สบอารมณ์) - ..........
เฉลยในส่วนสุดท้ายว่า แท้จริง อาคากิ ตั้งเป้าที่จะคืนชีพให้ อามากิ นั้นเอง
จบตอน
โดยรวมตอนนี้ไฮไลท์ไปอยู่ที่การเล่า ชีวิตความเป็นอยู่ในฐานทัพ ฝ่ายสัมพันธมิตร และ ฝ่ายอักษะ มากกว่า (อย่างว่าสัปดาห์นี้จบครึ่งแรกแล้วก็ต้องใส่บท Slice of life กันหน่อย) และ อาทิตย์หน้าเป็นช่วงพักเบรค Recap ครึ่งแรก Ep.01-06 ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการณ์ฉายตั้งแต่แรกแล้ว โดยจะเป็น ชั้นเรียนของ ย่าทวดมิคาสะ
{{Azur Lane TV Anime}} Ep.06 จบครึ่งแรกอย่าง สโลว์ ไลพ์ และ เซอร์วิส
พล็อตหลัก
- ต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว หลังจบภารกิจช่วยเหลือ เช้าวันใหม่ ในวันนี้ก็เริ่มเห็นถึง การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของ เอ็นเตอร์ไพร์ธ ตามที่ท้องเรื่องค่อยๆปูลงไปเรื่อยๆ นั้นเอง เช่นว่า เลือกที่จะเข้าหากลุ่มตัวเองมากขึ้น เลิกกิน Ration แต่ไปกินข้าวในโรงอาหารของฐานทัพ พร้อมที่เหล่าเพื่อนฝูงเข้ามาทักทาย พูดคุยสัพเพเหระกันปกติ
(เวสทัลบอกเองว่า เอ็นเตอร์ไพร์ธ เริ่มเปลี่ยนไปทีเล็กทีละน้อยแล้ว)
- หลังทานอาหารเช้าก็เริ่มเข้าประเด็นนั้นคือ ลูกบาศ์กจิตสีดำ ที่ได้มาจากฝ่ายอักษะ โดยได้ข้อสันนิฐานว่า ลูกบาศ์กจิตสีดำ + โครงการโอโรจิ + อาคากิ + ไซเรน มีความเกี่ยวโยงกันแน่ๆ และ บางที จักรวรรดิซากุระ กำลังโดนพวกไซเรนสวมเขาอีกต่อนึง
- แต่แล้ว เอ็นเตอร์ไพร์ธ ซึ่งรู้สึกแปลกๆกับลูกบาศ์กจิตสีดำได้ลองไปสัมผัสมัน เมื่อนั้นที่ได้เห็นภาพแปลกๆ นั้นคือ Alternatative Enterprise หรือ Enterprise Type-G จากในเกม นั้นเอง
ไปยังฝ่ายอักษะกันบ้าง
บทในตอนนี้ค่อนข้าง สองแง่สองมุม เกี่ยวกับตัว อาคากิ อยู่เยอะ ว่าบางทีเหตุผลที่อาคากิเลือกเส้นทางนี้ อาจไม่ใช่แค่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ อาจรวมไปถึง ผลประโยชน์ส่วนรวม อย่าง จักรวรรดิซากุระ ด้วยก็ได้ จากที่ญาติดีกับเหล่าเด็กอนุบาลอย่างให้ขนม หรือ พูดกับคากะว่า เด็กพวกนั้นมีความสุขกันตลอดไปก็คงจะดี หรือ คากะ ไม่อยากอยู่ร่วมกับทุกคนไปตลอดกาลบ้างรึยังไง ?
กลับไปยังฝ่ายสัมพันธมิตร
- หลังได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของสาวเรือในเขตการค้า เอ็นเตอร์ไพร์ธ กลับไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เห็นตรงหน้านี้แต่อย่างใด กลับคิดแค่ว่า พฤติกรรมเหล่านี้มันไม่ต่างจาก นครของเหล่ามนุษย์ เลยสักนิด ทั้งที่พวกตัวเองเป็นสาวเรือแท้ๆ
ฝั่งเบลฟาสที่ได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มร่ายยาวว่า สิ่งที่เอ็นเตอร์ไพร์ธพึงต้องการจริงๆก็คือความงดงามในก้นบึ่งของหัวใจตนเอง จนเอ็นเตอร์ไพร์ธเริ่มแซวกลับว่า พูดกันแบบนี้ อยากให้ตนเองไปเป็นสาวใช้ดูรึยังไง ?
(เบลฟาสแซวกลับ พอดีมีชุดสาวใช้สำรองไว้แล้วถ้าอยากลองใช้ชีวิตแบบนั้นก็ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจับเคลมสอนมารยาทและวิถีชีวิตสาวใช้ให้เอง จนเอ็นเตอร์ไพร์ธรีบบอกปัดไป พลอยให้เบลฟาสหัวเราะในลำคอไม่ได้ )
เบล - ไม่ใช่แค่เฉพาะสาวใช้ แต่การได้เริ่มต้นทำในสิ่งใหม่ๆคือความประเสริญและผลประโยชน์ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น งานอดิเรก , ทำงานอย่างอื่น หรือ สิ่งอื่นใดนอกเหนือจากการต่อสู้ก็เช่นกัน (ประมาณว่าไปหาอะไรทำเพิ่มสีสันให้แก่ชีวิตไม่งั้นอับเฉาตาย)
เอ็น - มันคงไม่ง่ายสำหรับฉันเนี่ยสิ.
เบล - ชีวิตของมนุษย์เปรียบดั่งการผจญภัย การท้าทายสิ่งใหม่ๆก็คือการผจญภัยที่น่าลิ้มลอง
สุดท้ายแล้วหากเอ็นเตอร์ไพร์ธได้พบในสิ่งที่ตัวเองอยากลองทำดูก็อาจจะเข้าใจเหตุผลที่ว่าทำไมพวกสาวเรืออย่างตนเองถึงได้ กายมนุษย์ แบบนี้มาก็ได้
ครึ่งหลัง
ตอนนี้ไม่มีอะไรเท่าไรนอกจาก เซอร์วิส เซอร์วิส และก็ เซอร์วิส ตั้งแต่ สายหลัก เนื้อนมบั้นท้าย และ สายหมี ซึ่งม่านหมอกศีลธรรมลงจัดหนักตามระเบียบประดุจ ฝุ่น PM 2.5 ก็ไม่ปาน แต่เป็นการเฉลยถึงปมเล็กน้อยที่ผู้ชมทางบ้านสงสัยเช่นว่า
- เชฟฟิลด์ไม่ได้ใส่ ก.ก.น ด้วยเหตุผลจากคนวาดว่า เพื่อความคล่องตัวในการ เคลื่อนไหว และ ต่อสู้ (อาคากิเลยเสียจังหวะไปครู่นึง)
- คลีฟแลนด์ที่จริงเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อย และ สลัดออกจากสมองไม่ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ความกลัดกลุ้มของ ยูนิคอร์น ที่ว่า ตนเองเกิดมาตัวเล็ก แต่ทำไมหน้าอกถึงใหญ่ จนอดคิดไม่ได้ว่ามันคือความผิดปกติของตัวเองเฉกเช่นสิ่งแปลกปลอม แต่ ลาฟฟี่ กลับออกมาพูดเองว่า ทุกคนแตกต่างนั้นแหละถูกต้องแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่ามันคือสิ่งที่ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะ ต่างคนต่างก็มีสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน ทั้งเล็ก และ ใหญ่ มาสารพัด จบที่ยูนิคอร์นเลิกกลัดกลุ้มแล้วยิ้มกลับอย่างสดชื่น
มายังช่วงสุดท้ายกันเลย
- จากช่วงแรกที่ สุดท้ายอายานามิก็เลือกที่จะหนีไป นั้นเองที่ทำให้ จาเวลิน ตัดสินใจแล้วว่า ยังไม่ขอยอมแพ้ ถึงแม้พวกเราจะเป็นศัตรูกันก็ตาม แต่จะสู้ต่อกับเรื่องที่ต้องการจะเป็นมิตรสหายกับอายานามิ
- ฉากนี้ไม่มีอะไรนอกจาก ชีวิตยามค่ำคืนของเหล่าสาวเรือ และ คู่ เอ็น&เบล ที่สนิทกันมากขึ้น ประดุจ ผัวเมีย ที่เข้าใจกันเรื่อยๆ
- ฉากท้าย สิ่งที่เริ่มเห็นมากขึ้นก็คือ จิตใจของคากะ และ เล่ห์เหลี่ยมของออยเก้น ที่เริ่มต้นจากการเห็น เครื่องประดับผมที่อาคากิซื้อให้ว่า เครื่องประดับนั้นคงเป็นรสนิยมของอาคากิแน่ๆ แต่คากะไม่แม้แต่จะเชื้อเชิญกลับกันที่ไล่ไปให้พ้น แกอยู่มีแต่จะทำให้เหล้า (Sake) รสชาติแย่ลงไปด้วย
ฝั่งออยเก้นที่เริ่มถามว่า ลูกบาศ์กจิตสีดำถูกชิงไปแล้วไม่รู้สึกรู้สาหรือเดือดร้อนอะไรบ้างรึยังไง ฝั่งคากะก็ยังบอกปัดว่า ไม่ใช่เรื่องของแก จนออยเก้นเริ่มต้นแทงใจดำเข้าทันที
ออยเก้น - แน่ใจรึ..ว่าเธอและอาคากิ จากนี้ ต่างก็เป็นของกันและกัน..หือ ?
คากะ (ได้ยินแล้วของขึ้น) - พอได้แล้ว!!
ออยเก้น (ยิ้มอ่อนๆก่อนจะจากไป) - รักเขาข้างเดียว รั้งแต่จะทำให้เจ็บปวด..ไม่คิดเช่นนั้นรึยังไง ?
คากะ (ไม่สบอารมณ์) - ..........
เฉลยในส่วนสุดท้ายว่า แท้จริง อาคากิ ตั้งเป้าที่จะคืนชีพให้ อามากิ นั้นเอง
จบตอน
โดยรวมตอนนี้ไฮไลท์ไปอยู่ที่การเล่า ชีวิตความเป็นอยู่ในฐานทัพ ฝ่ายสัมพันธมิตร และ ฝ่ายอักษะ มากกว่า (อย่างว่าสัปดาห์นี้จบครึ่งแรกแล้วก็ต้องใส่บท Slice of life กันหน่อย) และ อาทิตย์หน้าเป็นช่วงพักเบรค Recap ครึ่งแรก Ep.01-06 ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการณ์ฉายตั้งแต่แรกแล้ว โดยจะเป็น ชั้นเรียนของ ย่าทวดมิคาสะ