{{Azur Lane TV Anime}} Ep.08 จบอย่างนี้เลยเรอะ!!!

มาต่อกันเถอะ 





- ไม่ว่าจะทั้งฝ่ายสัมพันธมิตร และ ฝ่ายอักษะ ต่างก็อยู่ในสถานการณ์จับต้นชนปลายไม่ถูก หลังจากโดนคลื่นลำแสงขนาดยักษ์เล่นงาน กลายเป็นว่าทั้ง 2 ฝ่ายถูกส่งเข้ามายัง มิติ แห่งหนึ่งที่ไม่มีความเสถียร แต่เอาเป็นว่าตอนนี้คงต้องตีความจากสถานการณ์ไปก่อนว่านี้คงเป็น สิ่งที่เรียกว่า โครงการโอโรจิของฝ่ายอักษะ และ วิทยาการของไซเรน รวมกัน




- ในขณะเดียวกัน กลุ่มที่ยังกระจัดกระจายไปหมดอย่าง จาเวลิน และ ลาฟฟี่ ไม่มีทางเลือกนอกจากรีบหากลุ่มตัวเองให้เจอโดยเร็ว จนไปจ๊ะเอ๋กับ อายานามิเข้าพอดี  แล้วก็มาแบบเดิมที่ อายานามิสับสนไปหมดว่าทำไมถึงไม่คิดสู้เหมือนทุกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะพูดหรือสารบรรยายมากไปกว่า ฝั่งอายานามิก็ได้ ยูดาจิ ชิงุเระ ยูกิคาเสะ โผล่มาตัดบทพาหนีไปดื้อๆ




- ในขณะที่ฝั่งจาเวลินได้เบลฟาสมารับตัวไว้ได้ทัน

ซึ่งระหว่างเดินทางกลับไปรวมกับกลุ่ม เรื่องที่เกิดขึ้นกับ จาเวลิน ลาฟฟี่ และ อายานามิ เธอรู้ถึงจุดนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้โกรธหรือคิดหักห้าม กลับกันที่บอกว่า อย่าพึ่งยอมแพ้ พลังที่พวกเรามีนั้น มันไม่ได้ด้อยค่าหรือเล็กเท่าธุลีแต่อย่างใด และที่สำคัญ พวกเราถูกสร้างมาเพื่อต่อสู้และฟันฝ่า ไม่ใช่ เพื่อทำลายล้างทุกอย่าง   (ความหมายคือ ไม่ได้เกิดมาเพื่อฆ่าล้างฟันแทงเป็นเครื่องจักรแต่ก็ยังมีจิตใจที่สามารถเลือกได้ว่าจะสู้หรือจะผูกมิตร)  

จบคือ ทั้งหมดตกลงจะไปตามหาตัวเอ็นเตอร์ไพร์ธแล้วกลับบ้านด้วยกัน 




- ตัดไปทางฝั่งเอ็นเตอร์ไพร์ธในจิตใต้สำนึกที่เห็นเพียง ความมืดและต้นซากุระต้นใหญ่  เอาแต่คิดอยู่เพียงว่า โลกใบนี้ที่ตนเองอาศัย ตั้งแต่เมื่อไรกันที่มันทั้งซับซ้อน วนเวียน และ สับสนไปหมด ตั้งแต่ว่าเผชิญหน้ากับศัตรู หันปากกระบอกปืนหรืออาวุธห่ำหั่นกัน  จนกระทั้งได้เห็น นิมิตของ อาคากิและคากะสมัยเด็กกำลังหยอกล้อแล้วหายตัวไป 



พร้อมกับ ปรากฎร่างของบุคคลคาดไม่ถึงอย่าง อามากิ ที่กำลังบ่นพึมพัมว่า เด็กทั้งคู่ซนกันจริง  แน่นอนว่า ตัวเอ็นเตอร์ไพร์ธถูก อามากิ เปรียบเทียบว่า เธอและเด็ก 2 คนนั้นก็เหมือนกันนั้นแหละ  โดยอามากิ เริ่มบอกว่า แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ว่ามันก็คือการเชื่อมโยงต่อกัน  



"พวกเรา (เหล่าคันเซ็น) เกิดมาพร้อมกับความทรงจำและรูปลักษณ์ในอุดมคติของผู้สร้างอย่างมนุษย์ และ ท้องทะเลที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตเหนือกาลเวลาที่ถักทอห้วงแห่งความรู้สึกอาวรณ์ (Emotions) อันนับไม่ถ้วน  ถึงกระนั้นก็อย่าได้ลืมสิ่งนี้เป็นอันขาด สิ่งที่ฝังในส่วนลึกของจิตใจเธอเอง สิ่งที่เรียกว่า คำอธิษฐานของมวลมนุษยชาติ"

ว่าจบ อามากิ ได้จากพร้อมกับ ร่างของเด็กน้อยคากะ ที่ดูอยู่ห่างๆ 
 

ฝ่ายอักษะ 




เหล่าจักรวรรดิซากุระ  หลังคากะฟื้นคืนสติได้ ทั้งหมดก็ถกประเด็นกันว่า หลังจบศึกก็ยังหาตัวอาคากิไม่พบแต่อย่างใด ทั้งสถานที่ซึ่งไม่รู้จะจับต้นชนปลายยังไงดีแต่รู้เพียงว่า ไม่ใช่ที่ปลอดภัยแต่อย่างใดจากการสังเกตถึงช่องว่างของมิติที่ขาดความเสถียรไปเรื่อยๆ ซึ่งจากที่ โซริวกับฮิริว คิดได้คือ ท้องทะเลและมิติแห่งนี้เชื่อมโยงกับโครงการโอโรจิ ซึ่งการที่สูญเสีย ลูกบาศก์จิตสีดำไป มันเลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา 



- แต่แล้ว สิ่งที่เรียกว่าความเคลือบแคลงใจในหมู่คณะก็เกิดขึ้นมาจนได้ เริ่มต้นจาก การสันนิษฐานของโชวคาคุที่ว่า ตั้งแต่ฝั่งตนเองได้เรือรบไซเรนรุ่นผลิตจำนวนมากนี้เป็นกองกำลังเสริม (ปัจจุบันหยุดทำงานไปหมดไม่ทราบสาเหตุ) หรือ สนามพลังประหลาด รวมไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมากมาย ล้วนเริ่มมาจากอาคากิทั้งนั้น จนต้องเริ่มถามว่า  ฝั่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่ 1 เก็บงำอะไรบางอย่างไว้รึเปล่า ? 



ลงท้ายก็ต้องหยุดความคิดเหล่านั้นไว้ก่อน แล้วความเห็นทั้งหมดก็เริ่มไปบรรจบที่ว่า เลิกการตามหาตัวอาคากิไว้ตั้งแต่บัดนี้ แล้วหาทางออกจากสถานที่แห่งนี้โดยด่วน  




แม้คากะจะค้านหัวชนฝาไปหมด แต่เหตุผลทางการทหารของ ฝั่งโซริวกับฮิริว ก็เตรียมไว้เรียบร้อย จนคากะเถียงไม่ขึ้นอีกแล้วว่า พวกเราสูญเสียเรือธงไปแล้ว ทั้งยุทธปัจจัยและกำลังรบอย่างเรือรบไซเรนรุ่นผลิตจำนวนมากก็หยุดทำงานหมด ย่อมเท่ากับประสิทธิภาพในการทำภารกิจนี้ให้สำเร็จย่อมเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป หากให้กองเรือทั้งหมดอยู่ต่อก็ไม่ต่างจากนอนรอความตายและเสี่ยงต่อการสูญเสียอย่างไร้ความหมาย 
ถึง คากะจะรับไม่ได้แต่ตัวเองก็หมดสภาพไปเรียบร้อย ฝั่งโซริวกับฮิริว  ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับความจริง 

"แล้วพวกเราจะทำอะไรได้อีกละ ?" 





แต่ก็ไม่สิ้นความหวังไปซะทีเดียว เพราะจากรายงานล่าสุดค้นพบว่า  เส้นทางหนีมันมีอยู่แน่ๆ แต่ติดปัญหาคือ ฝ่ายสัมพันธมิตร ดักรออยู่แถวนี้ทั้งดูจากรูปการณ์แล้วคงยากที่พวกนั้นจะปล่อยให้เป็นอิสระแน่นอน เช่นนั้น โซริวกับฮิริว จะอาสาไปเป็น กองหน้า ออกไปเป็นตัวล่อแล้วเปิดทางให้กองเรือรีบไปเอง  




แต่ทว่า ซุย&โชว กลับขอเลือกเป็นฝ่ายทำหน้าที่ตรงนี้เอง โดย ซุยคาคุให้เหตุผลว่า พอเห็นคากะที่เสียพี่สาวไปแล้วอย่างนั้นก็ทำให้นึกคิดได้ว่า หากตนเองเป็นฝ่ายเสียไปบ้างจะเป็นยังไง บางทีก็คงรู้สึกแบบเดียวกันคือ อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์หรือช่วยให้สมาชิกกลุ่มที่เหลือรอดจากศึกคราวนี้ 

ฝ่ายสัมพันธมิตร 



- เมื่อได้รายงานจากการตรวจสอบภูมิประเทศแล้วพบกองเรือของจักรวรรดิซากุระ อยู่แถวนี้ สิ่งที่ทุกคนลงความเห็นกันเรียบร้อยก็คือ ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากต้องจัดการพวกนี้ทิ้งให้หมด เพราะ วิทยาการไซเรนที่พวกนี้ครอบครองไว้มันร้ายกาจและรุนแรงขนาดไหน มันก็ฟ้องออกมาหมดแล้ว หากปล่อยไปก็มีแต่จะทำให้สถานการณ์บานปลายเรื่อยๆ ทั้งบอกว่านี้คือสงคราม มันช่วยไม่ได้จริงๆ 



แล้วทั้ง 2 ฝ่ายก็เริ่มเข้าปะทะกันอีกครั้ง

(ฉากแอคชั่นตรงนี้ถ้าไม่ดูที่เฟรมเรตตกหรืองานหยาบถือว่าทำได้ดีในระดับนึงตรงความต่อเนื่องและความรู้สึกที่ว่องไวเหมือน นกโบยบินของ ซุย&โชว)



- ท่ามกลางเหตุการณ์นี้ ไซเรน 2 ตนคือ The Obsever และ The Tester Beta ได้เฝ้าดูอยู่ห่างๆ แถมพ่วงไปว่า สิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังทำกันอยู่มันก็คือ กระจกสะท้อนประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติที่เลือกจะห่ำหั่นสิ่งตรงหน้า เรียกว่า เนื้อแท้ของเหล่ามนุษย์เป็นฉันใด มันก็ออกมาฉันนั้น แถมพ่วงคือ อาคากิที่น็อคคาที่ The Obsever ก็ช่วยไว้ได้เพราะ หากอาคากิตายไป ที่ตัวเองลงทุนเรื่องโครงการโอโรจิก็ขาดทุนย่อยยับ และ บทบาทของเธอยังไม่จบลงแค่นี้แต่อย่างใด



โดยสิ่งที่เหล่าไซเรนหวังไว้ก็เฉลยแล้วว่า การที่เอ็นเตอร์ไพร์ธ ตื่นขึ้นมาแบบนั้นส่งผลให้ ลูกบาศก์จิตสีดำ รวบรวมข้อมูลได้มหาศาลอย่างมากซึ่งเพียงพอที่จะให้โครงการโอโรจิเสร็จสมบูรณ์แล้ว 





- หลังจากหนีกันไปมาจนเห็นช่องของภูเขาน้ำแข็ง ซุย&โชว ก็ได้เจอกับ เอ็นเตอร์ไพร์ธ เข้าโดยบังเอิญผลคือ แค่จะเอาตัวรอดก็แทบตายแล้ว  

ซุยคาคุก็ทำได้เพียงเล่นงาน จบที่แค่หมวกเอ็นเตอร์ไพร์ธหล่นลงมาในขณะที่ตัวเอ็นเตอร์ไพร์ธไม่มีกระทั้งรอยขีดข่วนแต่อย่างใด 

(อารมณ์ไข่กระทบหิน)



- เอ็นเตอร์ไพร์ธ สภาพของเจ้าตัวตอนนี้คือ ครึ่งผีครึ่งคน แถมไม่ปราณี ทั้งเสริมเรื่อง Alternative Enterprise ด้วยว่าโลกที่ตัวเองอยู่มันพินาศขนาดไหน แม้เธอจะโหยหาคำตอบว่า สิ่งที่ทำอยู่เมื่อไรมันจะจบสิ้นสักทีแต่คำตอบนั้นคนที่รู้อยู่แก่ใจก็คือเธอเองว่า สงครามมันไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และ ไม่มีวันจบสิ้น   


 

- ในวินาทีความเป็นความตาย ทันใดนั้นเอง อายานามิ (ที่แอบตามมาด้วย) โผล่มาช่วยไว้ได้ทันพร้อมบุกเข้าไปเล่นงาน เอ็นเตอร์ไพร์ธ โชว์สับเครื่องบินขาด

แม้แต่เธอก็ไม่อาจทราบได้ว่าทำไปเพื่ออะไร แต่ที่เจ้าตัวรู้มีเพียงความคิดในตอนนี้คือ

"แบบนี้ไม่เอาหรอก..ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น" 







แต่ก็พลาดท่าหล่นลงไปเบื้องล่างคือช่องว่างมิติ แต่ทว่า...

อายา - ขอบคุณนะ..นาโนเดส

จบตอน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่