[Spoil] Kimi Shini Tamou Koto Nakare (Thou Shalt Not Die) ตอน 3

กลับมาพบกับตอน 3 กันต่อนะครับ

จริงๆ สแกนออกตั้งแต่เมื่อวานแล้วแฮะ แต่เพิ่งมีโอกาสได้เช็คเมื่อบ่ายวันนี้ และเพิ่งมีโอกาสได้เขียนก็วันนี้เอง

ว่าแล้วก็ไปชมเรื่องราวกันต่อเลยครับ






- ต่อจากตอนก่อนที่พวกหน่วยผู้มีพลังพิเศษโดนทิ้งบอมบ์ใส่ แรงระเบิดซัดทุกอย่างบนถนนจนราบเป็นหน้ากลอง แถมยังเผื่อแผ่มาถึงมาชิโระกับคุโรอิที่อยู่บนตึกชั้นสูงๆ ด้วย

- แรงระเบิดทำเอามาชิโระถึงกับกระเด็นตัวปลิว แต่ไม่ได้บาดเจ็บมาก ส่วนคุโรอิโดนเศษอิฐเศษปูนเล็กๆ ถล่มลงมาสุมบนตัว แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บมากเช่นกัน

- หลังหายงงจากแรงระเบิด ทั้งคู่ก็ออกมายืนดูสภาพถนนที่เละตุ้มเป๊ะเพราะแรงระเบิด มีซากศพของหน่วยผู้มีพลังพิเศษในสภาพหัวอยู่อีกทางแขนขาลำตัวอยู่อีกที่กระจัดกระจายเต็มถนน

- ภาพที่เห็นทำเอามาชิโระถึงกับเข่าอ่อน ส่วนคุโรอิกลับยืนวิจารณ์ภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์

- ตอนนั้น ทั้งคู่ก็เห็นอาซางิ (ตาแว่นผมยาวที่รอดเมื่อตอนที่แล้ว) เดินออกมาจากซอยที่หนีไปหลบอยู่ มาชิโระดีใจมากที่เห็นคนรอดชีวิต รีบวิ่งลงจากตึกไปหาอาซางิทันที เล่นเอาคุโรอิวิ่งตามเกือบไม่ทัน

- ลงไปหาเสร็จก็ได้คุยกันนิดหน่อย (ระหว่างนั้นอาซางิแสดงอาการผิดปกติเรื่องความจำออกมาบ้าง เช่น จำเรื่องที่เพิ่งพูดไปเมื่อกี้ไม่ได้ หรือจำชื่อ ตำแหน่ง หน่วยสังกัดของตัวเองไม่ได้ออกมาด้วย)

- คุยกันได้แป๊บนึง พวกที่รอดชีวิตที่เหลือก็ทยอยกันออกมาจากซากหักพังของตึกรอบด้าน โดยคนที่รอดกลุ่มนี้มีซึมิรองหัวหน้าหน่วย (เพิ่งรู้ตอนนี้เองแฮะว่าหมอนี่เป็นรองหัวหน้าหน่วยไม่ใช่โบตั๋น) โบตั๋น กับไอ้ยักษ์ที่เกือบฟาดปากกับโบตั๋นเมื่อตอนก่อน


โฉมหน้าผู้ชีวิตที่เหลืออยู่ในตอนนี้





- หลังผู้รอดชีวิตทุกคนมาสมทบกันเสร็จ ก็วางแผนจะไปยังจุดนัดพบกับฮ.ช่วยเหลือจากกองทัพอเมริกากันต่อ โดยซึมิใช้พลังตรวจจับของตัวเองตรวจจับรอบด้านดูอีกรอบเผื่อมีศัตรูเหลืออยู่ ปรากฏว่าไม่เจออะไรเลย ก็เลยออกคำสั่งให้ทุกคนไปต่อ

- แต่อาซางิเจ้าเดิมกลับยกมือค้าน บอกว่ามีความเป็นไปได้ 95% เชียวนะ

- โดนรุ่นเด็กกว่ายกมือค้านอีกรอบดังนั้น ซึมิที่ประสาทเครียดอยู่แล้วก็ออกอาการหงุดหงิด ถามน้ำเสียงกระชากๆ ว่าแล้วความเป็นไปได้ 95% ที่ว่านั่นมันอะไรล่ะ อาซางิก็พยายามนึกคำตอบ แต่เกิดอาการความจำหายไปอีกรอบก็เลยนึกไม่ออกว่าตัวเองจะพูดถึงเรื่องอะไร ซึมิเลยหงุดหงิดไม่ยอมสนคำค้านอีกรอบ (เหมือนตอนอาซางิค้านเรื่องอย่าเพิ่งออกเดินทางแล้วระเบิดก็ลงในตอนก่อน)

- แต่พอทำท่าจะไปกัน อาซางิก็ทำท่านึกออกว่าจะพูดว่าอะไร และบอกกับทุกคนว่า "มีความเป็นไปได้ถึง 95% ที่บริเวณนี้จะมีสไนเปอร์อยู่"

- สิ้นเสียงพูดของอาซางิ คำรามปืนไรเฟิลก็แผดก้อง ลูกกระสุนไรเฟิลซุ่มยิงพุ่งวาบ ตัดมือซ้ายของโบตั๋นขาดกระจุย

- เห็นมีสไนเปอร์ซุ่มยิงดังนั้น ทั้งหมดก็รีบเผ่นเข้าที่กำบังที่ใกล้ตัวที่สุดเพื่อหลบกระสุนทันที (เว้นไอ้ยักษ์มัวแต่ตกใจกับด่าซึมิที่ตรวจจับพลาดอยู่ เลยโดนซัดลูกไรเฟิลยัดจุดยุทธศาสตร์เข้าเต็มๆ)


พนันกันได้ว่าโดนเข้าแบบนี้ไม่เหลือไว้สืบพันธุ์แหงๆ




- หลบเข้าที่กำบังเสร็จ พวกมาชิโระก็พยายามฟังเสียงหาดูว่าสไนเปอร์ซุ่มยิงจากตรงไหน แต่ตำแหน่งที่พวกมาชิโระเข้าไปหลบนั้นมีเสียงสะท้อนก้องไปก้องมาอยู่มาก ไม่สามารถจับตำแหน่งด้วยการฟังเสียงได้ ยิ่งพึ่งพลังตรวจจับของซึมิยิ่งไม่ได้ใหญ่ เพราะตรวจจับพลาดมาแล้วถึงสองครั้ง (เครื่องบินทิ้งบอมบ์ในตอนก่อนกับสไนเปอร์ในตอนนี้)

- อาซางิเลยสำแดงความเทพอีกรอบ แคะเอากระสุนไรเฟิลที่ติดในกำแพงใกล้ๆ มาวิเคราะห์เสร็จสรรพจนรู้ทั้งขนาดกระสุน ปืนซุ่มยิงที่ใช้ ถึงขั้นวิเคราะห์ได้ทีเดียวว่าสไนเปอร์ที่ซุ่มยิงอยู่ตอนนี้ไม่น่าเก่งเท่าไหร่ เพราะยิงจากระยะแค่ 400 เมตรเท่านั้น

- วิเคราะห์สะระตะเสร็จ อาซางิก็ชี้นิ้วไปยังยอดตึกแห่งหนึ่งไม่ห่างไปจากจุดที่พวกมาชิโระหลบอยู่มากนัก บอกว่าสไนเปอร์ซุ่มอยู่บนนั้นแหละ (ก่อนจะออกอาการ "หลงๆ ลืมๆ" ลืมคำพูดที่ตัวเองพูดไปเมื่อครู่อีกรอบ)

- อาการหลงๆ ลืมๆ ของอาซางิทำเอามาชิโระลังเลว่าควรจะเชื่อการวิเคราะห์ของอาซางิดีมั้ย ตอนนั้นเอง คุโรอิก็บอกว่า ชั้นเชื่อว่าที่อาซางิวิเคราะห์มาน่ะไม่ผิดแน่ อย่างน้อยก็เชื่อถือได้มากกว่ารุ่นพี่ซึมิ (ที่ตรวจจับพลาดสองครั้งซ้อน) ตั้งเยอะ

- เจอรุ่นเด็กกว่าเหน็บแนมระยะเผาขนเข้าแบบนั้น ซึมิก็เดือดจัด หันไปด่าคุโรอิว่านี่เชื่อไอ้เด็กป้ำๆ เป๋อๆ นั่นมากกว่ารองหัวหน้าหน่วยอย่างชั้นงั้นเหรอ ใกล้ขนาดนั้นจะไปมีสไนเปอร์อยู่ได้ยังไงกัน ต่อให้อยู่ตำแหน่งนั้นจริงก็น่าจะอยู่ไกลกว่านี้เยอะ

- แต่มาชิโระไม่สนคำพูดของซึมิ กลับใช้พลังเสริมความสามารถในการมองเห็นของตัวเอง จ้องไปยังตึกที่อาซางิชี้บอกว่ามีสไนเปอร์อยู่ และพบเงาตะคุ่มๆ คล้ายหัวคนอยู่บนยอดตึกนั้น

- เมื่อแน่ใจว่าใช่สไนเปอร์แน่ มาชิโระก็รีบคว้าก้อนหินขนาดเหมาะมือข้างตัวขึ้นมา ใช้พลังเสริมกำลังแขน แล้วซัดก้อนหินออกไปเต็มเหนี่ยว ระเบิดสมองสไนเปอร์ที่ซุ่มยิงอยู่บนยอดตึกนั้นอย่างแม่นยำ





- เจอรุ่นเด็กกว่าหักหน้าเอาถึงสามครั้งซ้อนแบบนั้น สติที่เจียนอยู่เจียนไปของซึมิก็ขาดผึง ลุกขึ้นแหกปากโวยวายเป็นการใหญ่ว่าชั้นไม่ผิดนะ ก็ชั้นตรวจสอบแล้วว่าไม่มีสไนเปอร์อยู่ชัดๆ แล้วมันจะมีได้ยังไง

- เห็นรองหัวหน้าออกอาการสติแตกแบบนั้น มาชิโระก็เดินเข้าไปจะปลอบให้อีกฝ่ายใจเย็นลง แต่คุโรอิเอามือกันไว้บอกว่าอย่าเข้าไปดีกว่า

- มาชิโระก็งงว่าทำไม แต่ยังไม่ทันถามอะไร ก็เกิดเสียงระเบิดตูมสนั่น

- เมื่อหันไปดู ก็พบร่างของซึมิขาดเป็นสองท่อนลอยหวือข้ามหัวพวกตัวเองไปจากแรงระเบิดของกับระเบิดต่อต้านบุคคลที่อยู่ตรงนั้น ไปแปะกับกำแพงด้านหลัง แล้วหล่นตุ้บลงกับพื้นแน่นิ่งไป

- สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในอนุสติที่ใกล้ขาดห้วงของซึมิ...มีเพียงคำพูดแผ่วเบาที่พยายามบอกกับโบตั๋นว่า "ชั้นรักเธอ" เพียงเท่านั้น





- ความตายอันไม่คาดฝันของรองหัวหน้าหน่วยทำเอามาชิโระยืนช็อคอยู่กับที่ ตอนนั้นเองเสียงพูดดี๊ด๊าของคุโรอิก็ดังขึ้นมาทางด้านหลัง บอกว่านี่ถ้าชั้นไม่บอกก่อนละก็มีหวังมาชิโระเหยียบไปแล้วนะนั่น ช่วยขอบคุณหน่อยได้มั้ยเอ่ย

- คำพูดนั้นทำให้มาชิโระสะกิดใจบางอย่าง เธอถามออกมาเสียงแผ่วว่าคุโรอิรู้ได้ยังไงว่าตรงไหนมีกับระเบิดอยู่ คุโรอิก็ตอบเสียงดี๊ด๊าเหมือนเดิมว่า อ๋อ ก็แค่ "คาดเดา" เอาน่ะ และอธิบายเพิ่มเติมว่า ตัวเขานั้นสามารถจับกลิ่น "จิตมุ่งร้าย" ของคนได้ ประมาณว่ามีสังหรณ์ว่า "อ้อ มันจะเล่นเราตรงนี้" รึ "จะวางกับดักเราตรงนี้สินะ" อะไรทำนองนั้น เพราะงั้นจึงสามารถคาดเดาตำแหน่งที่มีกับระเบิดฝังอยู่ได้

- มาชิโระก็ถามต่อว่า ถ้ารู้แบบนั้นแล้วทำไมเมื่อกี้ถึงไม่ช่วยซึมิ พระเอกก็อุทานเสียงหลง (แต่ยิ้มแป้นเต็มหน้า) ว่า "อ้าว ตกลงต้องบอกเหรอเนี่ย? แหมโทษที นึกว่ามาชิโระจะเห็นตานั่นไม่จำเป็นแล้วเลยไม่อยากให้บอกซะอีก"

- ได้ยินคุโรอิพูดแบบนั้น สติของมาชิโระก็ขาดผึง เธอหันขวับกลับไปกระชากคอเสื้อของคุโรอิ จ้องตาอีกฝ่ายด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ แล้วคำรามออกมาว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปห้ามลืมที่ชั้นจะบอกนายเป็นอันขาด ชั้นไม่อยากให้ใครตายอีกแล้ว!!! เราจะกลับญี่ปุ่นด้วยกันทุกคนเข้าใจมั้ย!? ถ้าเข้าใจละก็ ชั่วชีวิตนี้นายห้ามลืมที่ชั้นบอกนายในวันนี้เด็ดขาด!!!"




- โดนตะคอกใส่เอาแบบนั้น คุโรอิก็ทำหน้าเหวอไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มแล้วถามว่า นั่นคือ "คำขอร้อง" งั้นเหรอ มาชิโระก็บอกว่านี่ไม่ใช่การขอร้องแต่เป็น "คำสั่ง" อย่าให้เธอต้องออกคำสั่งแบบนี้เป็นครั้งที่สอง ว่าจบก็ซบหัวลงกับหน้าอกของคุโรอิ แล้วกัดฟันร้องไห้ออกมาเงียบๆ อยู่แบบนั้น

- เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของมาชิโระแบบนั้น คุโรอิก็ฉีกยิ้มกว้าง สีหน้าแววตาเป็นประกายเคลิบเคลิ้มเหมือนหลงใหลเข้าอย่างจัง ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบหัวมาชิโระ แล้วบอกว่า "ยอดไปเลยน้า 'คำสั่ง' นั่นเนี่ย...สงสัยจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิตจริงแน่เลย"





- จบตอน 3 -






อ่านทีแรกนึกว่าจะตัดจบเรื่องช่วงนี้แล้วขึ้นเนื้อเรื่องใหม่ซะอีก ที่ไหนได้ยังเล่นฉากนี้ต่ออีกแฮะ

สำหรับบักพระเอกในตอนนี้ ยังคงยืนยันคำเดิมแฮะว่า "ถ้ามันเป็นอนิเมแล้วได้คามิยะ ฮิโรชิมาพากย์ละก็โคตรพ่อโคตรแม่เข้าเลย" ทุกวันนี้อ่านๆ ไปก็ได้ยินเสียงมันพูดเป็นอิซายะรึบักหงอนโคโยมิไปแล้ว ยิ่งช่วงมันพูดต่อยหอยรัวๆ แล้วยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่

สำหรับหนูมาชิโระ...เห็นที่น้องตะโกนใส่บักพระเอกในตอนนี้ บวกกับภาพพรีวิวมังงะแล้วแล้วเห็นอนาคตเลยแฮะว่าได้เป็นอย่างอากาเนะจาก Psycho-Pass แหงๆ ประมาณตอนแรกยังหวานๆ เป็นสาวน้อยหน้าใหม่ใสๆ แต่พอเจออะไรหนักๆ ระหว่างปฏิบัติงานเยอะเข้าก็กลายเป็นเจ้าแม่หัวหน้าหน่วยไปเลย


ภาพพรีวิวมังงะที่ว่า แทบสปอยล์หมดเลยแฮะว่าใครจะรอดบ้าง




แล้วรอชมตอนหน้ากันต่อนะครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่