ปวดคอ บ่าไหล่ ลามมาหลัง ตาเตอปวดหมด รับรองครับ นี่คืออาการเริ่มต้นของโรคออฟฟิศซินโดรม แต่ไม่ต้องตกใจ เราสามารถรักษาเบื้องต้นด้วยตัวเองแบบง่ายๆ เริ่มกันเลยดีกว่า
1. นั่งถูกต้องมีชัยไปกว่าครึ่ง >> ปรับท่านั่งให้ระดับสายตาพอดีกับหน้าจอ แขนก็ต้องจัดให้ตั้งฉากกับแป้นพิมพ์ หรือโต๊ะทำงานของเราครับ ตัวช่วยก็อาจจะเพิ่มที่รองข้อมือหน่อย ผมแนบรูปมาให้ดูด้วยครับ**
2.ขยับตัวชั่วโมงละนิด จิตแจ่มใสครับ >> ทำงานนานๆลุกไปดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำบ้าง ให้ร่างกายได้ขยับ ทำนู่น ทำนี่ เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ก็ช่วยได้เยอะครับ
3.พักสายตาเถอะนะคนดี >> สายตาของคนเราเป็นสิ่งสำคัญ ทำงานนานๆ จะทำให้ตาเบลอ ลองพักสายตาสัก 10 นาที จะเป็นการเบรกกล้ามเนื้อตาและถนอมดวงตาของเราด้วยครับ
4.แค่เอื้อมเท่านั้น >> เอี้ยวตัวไปหยิบของซ้ายที ขวาที เอวเคล็ดกันพอดี ลองเอาของที่ใช้เป็นประจำมาไว้ไกล้ๆ มือดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องเอี้ยวบ่อยๆ
5.อุปกรณ์เสริม >> สมมติปวดไม่ไหวแล้วแต่ต้องทำงานที่คั่งค้าง ผมแนะนำยาแก้ปวด ที่มีขายตามร้านยาทั่วไปใกล้บ้าน อย่างพ่อผมใช้น้ำมันมวย แต่ผมเอาสะดวกเลยเลือกยูนิเรนครับ มันดีตรงแค่พ่น กลิ่นดีกว่ายานวดยี่ห้ออื่นนะผมว่า ลองติดไว้ที่ออฟฟิศเผื่อฉุกเฉิน
6.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ >> ท่าออกกำลังยืดเส้นยืดสาย ผมมีท่าประจำอยู่ 2 ท่า เริ่มจากเอามือซ้ายอ้อมไปจับข้อศอกขวา จนรู้สึกตึง สลับข้างกันไปมาครับ
ท่าที่ 2 เอามือประสานกัน แล้วดันไปด้านหน้าทำมุม 45 องศา จนตึง สลับข้างกัน **ผมแนบรูปมาด้วย ลองทำตามดูครับ
นอกจากยืดเส้นแล้ว ผมก็ชอบขี่จักรยานเล่นกับเพื่อนๆแถวบ้าน อาทิตย์นึงก็สองสามวันให้ร่างกายได้ผ่อนคลายบ้าง นอกจากจะช่วยให้อาการออฟฟิศซินโดรมดีขึ้น สุขภาพจิตก็ดีขึ้นด้วย สมองปลอดโปร่งทำงานได้ดีขึ้นด้วย อย่างที่เค้าบอกกัน “กีฬาเป็นยาวิเศษ”
ออฟฟิศซินโดรม โรคฮิตของชาวออฟฟิศ ที่รักษาได้ด้วยตัวคุณเอง!!
1. นั่งถูกต้องมีชัยไปกว่าครึ่ง >> ปรับท่านั่งให้ระดับสายตาพอดีกับหน้าจอ แขนก็ต้องจัดให้ตั้งฉากกับแป้นพิมพ์ หรือโต๊ะทำงานของเราครับ ตัวช่วยก็อาจจะเพิ่มที่รองข้อมือหน่อย ผมแนบรูปมาให้ดูด้วยครับ**
2.ขยับตัวชั่วโมงละนิด จิตแจ่มใสครับ >> ทำงานนานๆลุกไปดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำบ้าง ให้ร่างกายได้ขยับ ทำนู่น ทำนี่ เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ก็ช่วยได้เยอะครับ
3.พักสายตาเถอะนะคนดี >> สายตาของคนเราเป็นสิ่งสำคัญ ทำงานนานๆ จะทำให้ตาเบลอ ลองพักสายตาสัก 10 นาที จะเป็นการเบรกกล้ามเนื้อตาและถนอมดวงตาของเราด้วยครับ
4.แค่เอื้อมเท่านั้น >> เอี้ยวตัวไปหยิบของซ้ายที ขวาที เอวเคล็ดกันพอดี ลองเอาของที่ใช้เป็นประจำมาไว้ไกล้ๆ มือดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องเอี้ยวบ่อยๆ
5.อุปกรณ์เสริม >> สมมติปวดไม่ไหวแล้วแต่ต้องทำงานที่คั่งค้าง ผมแนะนำยาแก้ปวด ที่มีขายตามร้านยาทั่วไปใกล้บ้าน อย่างพ่อผมใช้น้ำมันมวย แต่ผมเอาสะดวกเลยเลือกยูนิเรนครับ มันดีตรงแค่พ่น กลิ่นดีกว่ายานวดยี่ห้ออื่นนะผมว่า ลองติดไว้ที่ออฟฟิศเผื่อฉุกเฉิน
6.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ >> ท่าออกกำลังยืดเส้นยืดสาย ผมมีท่าประจำอยู่ 2 ท่า เริ่มจากเอามือซ้ายอ้อมไปจับข้อศอกขวา จนรู้สึกตึง สลับข้างกันไปมาครับ
ท่าที่ 2 เอามือประสานกัน แล้วดันไปด้านหน้าทำมุม 45 องศา จนตึง สลับข้างกัน **ผมแนบรูปมาด้วย ลองทำตามดูครับ
นอกจากยืดเส้นแล้ว ผมก็ชอบขี่จักรยานเล่นกับเพื่อนๆแถวบ้าน อาทิตย์นึงก็สองสามวันให้ร่างกายได้ผ่อนคลายบ้าง นอกจากจะช่วยให้อาการออฟฟิศซินโดรมดีขึ้น สุขภาพจิตก็ดีขึ้นด้วย สมองปลอดโปร่งทำงานได้ดีขึ้นด้วย อย่างที่เค้าบอกกัน “กีฬาเป็นยาวิเศษ”