ผมมีความเห็นส่วนตัวดังนี้นะครับ
คุณติดเน็ตที่บ้านมากี่ปีแล้วครับ
สัญญาตอนติดตั้งครั้งแรก ส่วนใหญ่จะโปรโมชั่นกันที่ 1 ปี แล้วจะลดแลกแจกแถมอะไรกันก็ว่ากันไป
สมมุติว่าคุณจะใช้เน็ต ตั้งแต่ 1 มค - 31 ธค 58 รวมทั้งสิ้น 1 ปี
ปัญหาคือ เมื่อครบหนึ่งปีไปแล้ว
ถ้าใช้เลย 1 ปีมาแล้ว
- ทำไมคุณไม่ไปเซ็นต์ต่อสัญญา?
- ไม่ได้เซ็นต์ต่อสัญญาแล้วใช้เน็ตเขาทำไมครับ นี่เท่ากับขโมยหรือเปล่า?
- แล้วไม่ต่อสัญญา ทำไมเดือนที่ 13 เป็นต้นไป ทาง ISP ยังส่งจดหมายมาเรียกเก็บรายเดือน?
- แล้วคุณไปจ่ายหนี้เดือนที่ 13 ด้วย .... จ่ายทำไมครับในเมื่อไม่ได้ต่อสัญญา
- แน่จริงคุณใช้ฟรีๆไปเลย เวลาเขามาเก็บเงินก็ไม่ต้องจ่าย บอกไปเลยว่าผมไม่ได้เซ็นตืต่อสัญญานี่ คุณจะมาทึกทักเอาเองได้ยังไง
- แล้วเอา "ตรรกะ" นี้ ไปยกเป็นข้อต่อสู่ในศาลเอานะครับ
เถียงเอาในศาลว่าคุณไม่ได้เซ็นต์ต่อสัญญา จะมาเรียกเก็บรายเดือนเดือนที่ 13 เป็นต้นไปกับคุณไม่ได้
ที่ใช้ไปนั้นคุณดันปล่อยสัญญามาให้ใช้ฟรีๆเอง จะมาเรียกเก็บไม่ได้
เข้าใจหรือยังครับ ว่าการต่อสัญญาไม่จำเป็นต้องไปเซ็นต์ต่อสัญญา
การที่ทั้งสองฝ่ายเงียบ ในทางกฏหมายคือถือว่ายอมรับเงื่อนไขเดิม ก็ใช้กันไปเรื่อยๆ
เหมือนการเป็นคู่ความในศาล ถ้าเขาฟ้องคุณ แต่คุณไม่ไปศาล
ศาลถือว่าคุณไม่ต่อสู้ คือไม่เถียง ถือว่ายอมรับข้อกล่าวหาตามที่โจทก์ฟ้อง
ศาลก็จะตัดสินไปตามที่โจทก์ฟ้องมา ...
จำไว้นะครับ ในทางกฏหมาย การเงียบ ไม่หือไม่อือ คือการยอมรับ ไม่ใช่การ
"ไม่เลือก ไม่ตัดสินใจ"
จนกว่าวันหนึ่งที่คุณจะเลิกใช้เน้ต ต้องไปเขียนหนังสือลงลายมือชื่อเลิกสัญญา
เขาถึงจะหยุดคิดเงินรายเดือน
ไม่ใช่อยู่เฉยๆ อมสากไว้ แล้ว ให้ ISP ตรัสรู้เอาว่าคุณยกเลิกสัญญา
ถ้าคูณอยากให้ยกเลิกสัญญาเมื่อครบ 12 รอบบิล
คุณต้องไปที่ ISP แล้วทำหนังสือขอยกเลิกสัญญา
เพราะถ้าคุณไม่ไปเซ็นต์ เขาจะตรัสรู้ไหมว่าคุณอยากยกเลิก
ถ้าคูณจะโทรไปอย่างเดียว เขาจะรู้ไหมว่าเป็นคุณตัวจริง
ถ้าโทรศัพท์บอกกันเแยๆแล้วเลิกสัญญาได้ งั้นผมหมั่นไส้บ้านไหนผมโทรไปยกเลิกแกล้งคนเล่นก็ได้
โทรไปยกเลิกแกล้งบริษัทหลักทรัพย์ดูสักทีไหมครับ ว่าไม่มีเน็ตมันเป็นยังไง
แล้วเวลาตรวจสอบภายหลัง จะเอาอะไรมายันว่ามีคนแจ้งยกเลิกเน็ต
ทุกอย่างมันจึงต้องจบที่กระดาษ กระดาษมันดิ้นไม่ได้ มันโกหกไม่ได้
เข้าใจหรือยัง
มันเป็นสัญญาทาสตรงไหน
ทาสคือถูกบังคับให้ต้องรับสภาพ
แต่นี่มีใครบังคับหรือไม่
สัญญาจา พนม เขียนไว้ชัดเจนว่าการต่อสัญญาเป็นการต่ออัตโนมัติ
แปลเป็นไทยง่ายๆ แปลว่า
- ถ้าไม่มีการทำการยกเลิกสัญญา สัญญาก็ต่ออัตโนมัติ
- บริษัทเขียนแต่ว่า บริษัทจะต่อสัญญา บริษัทจะบอกเป็นจดหมาย
ถ้าบริษัทไม่ต่อ ก็จะไม่ส่งจดหมาย ก็เป็นอันว่าจบกัน แต่เขาส่งจดหมาย ซึ่งครบถ้วนขั้นตอนตามที่สัญญากันไว้
ถ้าคุณไม่ไปบอกยกเลิก เขาก็จะถือว่าต่อสัญญา
- แต่ส่วนของจา ก็เช่นกัน เพียงแต่เขาไม่ได้เขียนลงในสัญญา
จาทำแบบเดียวกันได้ คือส่งจดหมายไปบอกว่าไม่ต่อ คือต้องไปยกเลิกสัญญาตั้งแต่ก่อนที่จะครบกำหนด
ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ไม่หือไม่อือ จนมันเลยครบสัญญาแล้วมาตั้ง 7 วันแล้ว
ถึงมาออกหนังสือวันที่ 31 ว่าไม่ได้รับจดหมาย ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย
จา พนม มีเวลามากมายมหาศาลในช่วงก่อนครบสัญญา
เวลาที่จะสามารถบอกยกเลิก บอกไม่ต่อสัญญา หรือขอต่อรองเงื่อนไขสัญญาใหม่ ว่าจะเอาแค่กี่ปี จะเอากี่บาท จะเปลี่ยนคนดูแลไหม อะไรยังไงสามารถตกลงกันใหม่ได้ทั้งหมด แล้วนับได้ว่าจา พนม ถือไพ่เหนือกว่าเสี่ยเจียงมากมาย
คำถามคือ ... ทำไมไม่ทำ
สัญญาจา พนม กับ บิลค่าอินเตอร์เน็ต
คุณติดเน็ตที่บ้านมากี่ปีแล้วครับ
สัญญาตอนติดตั้งครั้งแรก ส่วนใหญ่จะโปรโมชั่นกันที่ 1 ปี แล้วจะลดแลกแจกแถมอะไรกันก็ว่ากันไป
สมมุติว่าคุณจะใช้เน็ต ตั้งแต่ 1 มค - 31 ธค 58 รวมทั้งสิ้น 1 ปี
ปัญหาคือ เมื่อครบหนึ่งปีไปแล้ว
ถ้าใช้เลย 1 ปีมาแล้ว
- ทำไมคุณไม่ไปเซ็นต์ต่อสัญญา?
- ไม่ได้เซ็นต์ต่อสัญญาแล้วใช้เน็ตเขาทำไมครับ นี่เท่ากับขโมยหรือเปล่า?
- แล้วไม่ต่อสัญญา ทำไมเดือนที่ 13 เป็นต้นไป ทาง ISP ยังส่งจดหมายมาเรียกเก็บรายเดือน?
- แล้วคุณไปจ่ายหนี้เดือนที่ 13 ด้วย .... จ่ายทำไมครับในเมื่อไม่ได้ต่อสัญญา
- แน่จริงคุณใช้ฟรีๆไปเลย เวลาเขามาเก็บเงินก็ไม่ต้องจ่าย บอกไปเลยว่าผมไม่ได้เซ็นตืต่อสัญญานี่ คุณจะมาทึกทักเอาเองได้ยังไง
- แล้วเอา "ตรรกะ" นี้ ไปยกเป็นข้อต่อสู่ในศาลเอานะครับ
เถียงเอาในศาลว่าคุณไม่ได้เซ็นต์ต่อสัญญา จะมาเรียกเก็บรายเดือนเดือนที่ 13 เป็นต้นไปกับคุณไม่ได้
ที่ใช้ไปนั้นคุณดันปล่อยสัญญามาให้ใช้ฟรีๆเอง จะมาเรียกเก็บไม่ได้
เข้าใจหรือยังครับ ว่าการต่อสัญญาไม่จำเป็นต้องไปเซ็นต์ต่อสัญญา
การที่ทั้งสองฝ่ายเงียบ ในทางกฏหมายคือถือว่ายอมรับเงื่อนไขเดิม ก็ใช้กันไปเรื่อยๆ
เหมือนการเป็นคู่ความในศาล ถ้าเขาฟ้องคุณ แต่คุณไม่ไปศาล
ศาลถือว่าคุณไม่ต่อสู้ คือไม่เถียง ถือว่ายอมรับข้อกล่าวหาตามที่โจทก์ฟ้อง
ศาลก็จะตัดสินไปตามที่โจทก์ฟ้องมา ...
จำไว้นะครับ ในทางกฏหมาย การเงียบ ไม่หือไม่อือ คือการยอมรับ ไม่ใช่การ"ไม่เลือก ไม่ตัดสินใจ"
จนกว่าวันหนึ่งที่คุณจะเลิกใช้เน้ต ต้องไปเขียนหนังสือลงลายมือชื่อเลิกสัญญา
เขาถึงจะหยุดคิดเงินรายเดือน
ไม่ใช่อยู่เฉยๆ อมสากไว้ แล้ว ให้ ISP ตรัสรู้เอาว่าคุณยกเลิกสัญญา
ถ้าคูณอยากให้ยกเลิกสัญญาเมื่อครบ 12 รอบบิล
คุณต้องไปที่ ISP แล้วทำหนังสือขอยกเลิกสัญญา
เพราะถ้าคุณไม่ไปเซ็นต์ เขาจะตรัสรู้ไหมว่าคุณอยากยกเลิก
ถ้าคูณจะโทรไปอย่างเดียว เขาจะรู้ไหมว่าเป็นคุณตัวจริง
ถ้าโทรศัพท์บอกกันเแยๆแล้วเลิกสัญญาได้ งั้นผมหมั่นไส้บ้านไหนผมโทรไปยกเลิกแกล้งคนเล่นก็ได้
โทรไปยกเลิกแกล้งบริษัทหลักทรัพย์ดูสักทีไหมครับ ว่าไม่มีเน็ตมันเป็นยังไง
แล้วเวลาตรวจสอบภายหลัง จะเอาอะไรมายันว่ามีคนแจ้งยกเลิกเน็ต
ทุกอย่างมันจึงต้องจบที่กระดาษ กระดาษมันดิ้นไม่ได้ มันโกหกไม่ได้
เข้าใจหรือยัง
มันเป็นสัญญาทาสตรงไหน
ทาสคือถูกบังคับให้ต้องรับสภาพ
แต่นี่มีใครบังคับหรือไม่
สัญญาจา พนม เขียนไว้ชัดเจนว่าการต่อสัญญาเป็นการต่ออัตโนมัติ
แปลเป็นไทยง่ายๆ แปลว่า
- ถ้าไม่มีการทำการยกเลิกสัญญา สัญญาก็ต่ออัตโนมัติ
- บริษัทเขียนแต่ว่า บริษัทจะต่อสัญญา บริษัทจะบอกเป็นจดหมาย
ถ้าบริษัทไม่ต่อ ก็จะไม่ส่งจดหมาย ก็เป็นอันว่าจบกัน แต่เขาส่งจดหมาย ซึ่งครบถ้วนขั้นตอนตามที่สัญญากันไว้
ถ้าคุณไม่ไปบอกยกเลิก เขาก็จะถือว่าต่อสัญญา
- แต่ส่วนของจา ก็เช่นกัน เพียงแต่เขาไม่ได้เขียนลงในสัญญา
จาทำแบบเดียวกันได้ คือส่งจดหมายไปบอกว่าไม่ต่อ คือต้องไปยกเลิกสัญญาตั้งแต่ก่อนที่จะครบกำหนด
ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ไม่หือไม่อือ จนมันเลยครบสัญญาแล้วมาตั้ง 7 วันแล้ว
ถึงมาออกหนังสือวันที่ 31 ว่าไม่ได้รับจดหมาย ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย
จา พนม มีเวลามากมายมหาศาลในช่วงก่อนครบสัญญา
เวลาที่จะสามารถบอกยกเลิก บอกไม่ต่อสัญญา หรือขอต่อรองเงื่อนไขสัญญาใหม่ ว่าจะเอาแค่กี่ปี จะเอากี่บาท จะเปลี่ยนคนดูแลไหม อะไรยังไงสามารถตกลงกันใหม่ได้ทั้งหมด แล้วนับได้ว่าจา พนม ถือไพ่เหนือกว่าเสี่ยเจียงมากมาย
คำถามคือ ... ทำไมไม่ทำ