http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000035352
รายงานข่าวจากศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือเสี่ยเจียง ผู้ก่อตั้งบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานสหมงคลกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจภาพยนตร์ มอบอำนาจให้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพนม หรือทัชชกร ยีรัมย์ หรือจา พนม อายุ 38 ปี พระเอกนักบู๊ชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง และองค์บาก , บริษัท ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1 - 3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
จากกรณีที่ จา พนม ได้กระทำผิดสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์มฯ ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566 หรือเหลือสัญญาอีก 8 ปี พร้อมได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ที่ จา พนม ได้ร่วมแสดง และมีกำหนดฉายในประเทศไทยในวันที่ 1 เม.ย.นี้
ทั้งนี้หลังจากที่ศาล ได้ดำเนินการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ 2 ปากคือ นายอรรถพล เตชะรัตนประเสริฐ บุตรชายนายสมศักดิ์ และนายธีรพล กาญจนากาศ ที่ปรึกษากฎหมายของนายสมศักดิ์ เข้าเบิกความจนแล้วเสร็จเมื่อเวลา 17.00 น.โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีร่วมฟังการไต่สวน
ภายหลังนายสุวัตร ทนายความบริษัท สหมงคลฟิลม์ฯ โจทก์ เปิดเผยว่า หลังจากมีการไต่สวนแล้ว ศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ โดยมีคำสั่งให้ระงับการฉายภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ในประเทศไทย ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดี หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยเหตุที่ต้องนำมาฟ้องต่อศาลแพ่งในวันนี้ และขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น เนื่องจากทราบว่าหนังเรื่องดังกล่าว จะเข้าฉายในรอบสื่อมวลชนในวันที่ 31 มี.ค.และเตรียมฉายรอบจริงในวันที่ 1 เม.ย.ซึ่งการนำภาพยนตร์ที่ จา พนม แสดงแต่ยังติดสัญญากับ บริษัท สหมงคลฟิล์มฯ มาฉายนั้น ถือเป็นการละเมิดสัญญา จึงได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท โดย จา พนม ได้เซ็นสัญญากับสหมงคลฟิล์มไว้เดือน ก.ค.2556 และจะหมดสัญญาในปี 2566 ซึ่งค่าเสียหายที่เราเรียกไป ก็คำนวณมามาจากการซื้อตัว จา พนม มาจากบริษัทอื่น รวมถึงการปลุกปั้นโปรโมทภาพยนตร์ต่างๆ กระทั่งมีชื่อเสียง ทั้งนี้ สำหรับการพิจารณาคดีหลักเรื่องการผิดสัญญา ศาลก็ได้นัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดวันสืบพยานและประเด็นนำสืบ ในวันที่ 15 มิ.ย.
เมื่อถามว่า ในเมื่อศาลมีคำสั่งระงับการฉายหนัง จะมีผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์ และฝ่ายจำเลยที่เตรียมจะฉายหนังหรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆ ได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นคัดค้าน หรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์ โดยเราพร้อมจะคุย หลังจากนี้หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้ เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน
สรุป ถ้าอยากดู ต้องเจรจากับ สหมงคลฟิล์ม ครับ 555 สรุปผลประโยชน์ล้วนๆครับ
ด่วน!ศาลห้ามฉาย'ฟาสต์7'ในไทย "เสี่ยเจียง"ฟ้อง'จา พนม'ผิดสัญญาแอบเล่น
รายงานข่าวจากศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือเสี่ยเจียง ผู้ก่อตั้งบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานสหมงคลกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจภาพยนตร์ มอบอำนาจให้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพนม หรือทัชชกร ยีรัมย์ หรือจา พนม อายุ 38 ปี พระเอกนักบู๊ชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง และองค์บาก , บริษัท ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1 - 3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
จากกรณีที่ จา พนม ได้กระทำผิดสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์มฯ ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566 หรือเหลือสัญญาอีก 8 ปี พร้อมได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ที่ จา พนม ได้ร่วมแสดง และมีกำหนดฉายในประเทศไทยในวันที่ 1 เม.ย.นี้
ทั้งนี้หลังจากที่ศาล ได้ดำเนินการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ 2 ปากคือ นายอรรถพล เตชะรัตนประเสริฐ บุตรชายนายสมศักดิ์ และนายธีรพล กาญจนากาศ ที่ปรึกษากฎหมายของนายสมศักดิ์ เข้าเบิกความจนแล้วเสร็จเมื่อเวลา 17.00 น.โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีร่วมฟังการไต่สวน
ภายหลังนายสุวัตร ทนายความบริษัท สหมงคลฟิลม์ฯ โจทก์ เปิดเผยว่า หลังจากมีการไต่สวนแล้ว ศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ โดยมีคำสั่งให้ระงับการฉายภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ในประเทศไทย ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดี หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยเหตุที่ต้องนำมาฟ้องต่อศาลแพ่งในวันนี้ และขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น เนื่องจากทราบว่าหนังเรื่องดังกล่าว จะเข้าฉายในรอบสื่อมวลชนในวันที่ 31 มี.ค.และเตรียมฉายรอบจริงในวันที่ 1 เม.ย.ซึ่งการนำภาพยนตร์ที่ จา พนม แสดงแต่ยังติดสัญญากับ บริษัท สหมงคลฟิล์มฯ มาฉายนั้น ถือเป็นการละเมิดสัญญา จึงได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท โดย จา พนม ได้เซ็นสัญญากับสหมงคลฟิล์มไว้เดือน ก.ค.2556 และจะหมดสัญญาในปี 2566 ซึ่งค่าเสียหายที่เราเรียกไป ก็คำนวณมามาจากการซื้อตัว จา พนม มาจากบริษัทอื่น รวมถึงการปลุกปั้นโปรโมทภาพยนตร์ต่างๆ กระทั่งมีชื่อเสียง ทั้งนี้ สำหรับการพิจารณาคดีหลักเรื่องการผิดสัญญา ศาลก็ได้นัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดวันสืบพยานและประเด็นนำสืบ ในวันที่ 15 มิ.ย.
เมื่อถามว่า ในเมื่อศาลมีคำสั่งระงับการฉายหนัง จะมีผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์ และฝ่ายจำเลยที่เตรียมจะฉายหนังหรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆ ได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นคัดค้าน หรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์ โดยเราพร้อมจะคุย หลังจากนี้หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้ เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน
สรุป ถ้าอยากดู ต้องเจรจากับ สหมงคลฟิล์ม ครับ 555 สรุปผลประโยชน์ล้วนๆครับ