ทุกวันตอนเช้าผมจะต้องใช้บริการรถไฟฟ้าเป็นประจำทั้งเช้าทั้งเย็น
ผมขึ้นต้นสายเลยที่บางหว้า แน่นอนเช้า ๆ มีที่นั่งเหลือเฟือ แต่ผู้โดยสารก็เต็มขบวนอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ผมนั่งช่วงกลาง ๆ แถว ขวามือสุดติดประตูเป็นเด็กวัยรุ่นชายประมาณ ม. ต้น 2 คนนั่งอยู่
ถัดมาเป็น ผู้หญิงวัยทำงาน 1 คน ตามด้วยตัวผมครับ
นั่งมาได้ประมาณ 2 สถานี คนก็เริ่มเต็มแล้ว มีเด็กผู้หญิงน่าจะประมาณ ป.4-ป.5 เข้ามายืนอยู่หน้าเด็กวัยรุ่นสองคนนั้น ตรงกระจกกั้น
แต่ตอนนั้นผมยังไม่เห็นครับ เพราะว่านั่งหลับตาอยู่ (คือตั้งใจจะนอนเพราะว่าไม่สบายทานยามาง่วงมากกกก)
พอลืมตามาเห็นน้องยืนอยู่ เลยเรียกน้องมานั่ง แต่จริง ๆ ง่วง ๆ มึน ๆ มาก ไม่อยากจะลุกเท่าไหร่ 555 ต่อ ๆ
น้องยกมือไหว้กล่าวขอบคุณ ขอบอกว่าไหว้สวยมากครับ พยายามจะถอนสายบัวด้วย แต่คนเยอะเลยถอนได้นิดนึง
แล้วก็เดินมานั่ง เหมือนเหตุการณ์จะปกติใช่มั้ยครับ ยังครับ ๆ ที่ผมตั้งใจจะเล่าเกิดขึ้นต่อจากนี้ครับ
สักพักมีเด็กขึ้นมาอีกคนน่าจะมากับคุณพ่อ ดูเด็กกว่าน้องคนเมื่อกี้ มายืนที่เดิมตรงกระจกกั้น
เหมือนเดิมครับ ไม่มีใครลุกให้เด็กนั่ง แต่.....
จำน้องคนเมื่อกี้ได้มั้ยครับ ที่ไหว้สวย ๆ เค้าเรียกให้น้องที่ขึ้นมาใหม่มานั่งที่เค้าแทน
คุณพ่อของน้องคนที่ยืน พยายามปฏิเสธว่าไม่เป็นไรครับ ๆ ยืนได้ ๆ
คุณแม่(น่าจะ)ของน้องคนที่นั่งเมื่อกี้ ก็จูงมือให้เด็กที่ขึ้นมาใหม่ไปนั่งแทน ก็กล่าวขอบคุณกันเรียบร้อย
ผมซึ่งยืนอยู่ข้างหลังสองแม่ลูกคู่นั้น ได้ยินเค้าบอกลูกสาวว่า
"ดีแล้วค่ะ มีคนมีน้ำใจลุกให้เรานั่ง เราก็ต้องมีน้ำใจลุกให้คนอื่นนั่งเหมือนกันนะคะ" แล้วก็ก้มลงไปหอม 1 ที
คือแบบผมประทับใจมาก ในน้ำใจของเด็ก และการสอนจากผู้ปกครอง
ทำให้รู้เลยว่าครอบครัวที่ดี จะสร้างคนดีๆ เข้าสู่สังคมจริง ๆ ครับ
ดูได้ตั้งแต่การไหว้ การกล่าวขอบคุณ มีน้ำใจ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง ๆ และอีกหลาย ๆ คนครับ
เป็นเรื่องดี ๆ ในเช้าวันทำงาน 1 วัน บางอย่างก็ไม่มีเรื่องดี ๆ ให้เห็นกันทุกวันนะครับ จริงมั้ย...
ปล. 1 ผมเล่าไม่เก่ง อ่านแล้วงงกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่อยากแบ่งบันครับ
ปล. 2 ผมไม่ได้จะอวดว่าตัวเองมีน้ำใจ หรือว่าใครไม่มีน้ำใจนะครับ เพราะผมเองจะลุกหรือไม่ลุกให้นั่งก็ดูตามสมควรครับ
ปล. 3 ขอบคุณคุณแม่ท่านนี้สำหรับคำสอนลูกสาวดี ๆ ขอบคุณครับ
...
อยากแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ บนรถไฟฟ้า BTS เช้าวันนี้
ผมขึ้นต้นสายเลยที่บางหว้า แน่นอนเช้า ๆ มีที่นั่งเหลือเฟือ แต่ผู้โดยสารก็เต็มขบวนอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ผมนั่งช่วงกลาง ๆ แถว ขวามือสุดติดประตูเป็นเด็กวัยรุ่นชายประมาณ ม. ต้น 2 คนนั่งอยู่
ถัดมาเป็น ผู้หญิงวัยทำงาน 1 คน ตามด้วยตัวผมครับ
นั่งมาได้ประมาณ 2 สถานี คนก็เริ่มเต็มแล้ว มีเด็กผู้หญิงน่าจะประมาณ ป.4-ป.5 เข้ามายืนอยู่หน้าเด็กวัยรุ่นสองคนนั้น ตรงกระจกกั้น
แต่ตอนนั้นผมยังไม่เห็นครับ เพราะว่านั่งหลับตาอยู่ (คือตั้งใจจะนอนเพราะว่าไม่สบายทานยามาง่วงมากกกก)
พอลืมตามาเห็นน้องยืนอยู่ เลยเรียกน้องมานั่ง แต่จริง ๆ ง่วง ๆ มึน ๆ มาก ไม่อยากจะลุกเท่าไหร่ 555 ต่อ ๆ
น้องยกมือไหว้กล่าวขอบคุณ ขอบอกว่าไหว้สวยมากครับ พยายามจะถอนสายบัวด้วย แต่คนเยอะเลยถอนได้นิดนึง
แล้วก็เดินมานั่ง เหมือนเหตุการณ์จะปกติใช่มั้ยครับ ยังครับ ๆ ที่ผมตั้งใจจะเล่าเกิดขึ้นต่อจากนี้ครับ
สักพักมีเด็กขึ้นมาอีกคนน่าจะมากับคุณพ่อ ดูเด็กกว่าน้องคนเมื่อกี้ มายืนที่เดิมตรงกระจกกั้น
เหมือนเดิมครับ ไม่มีใครลุกให้เด็กนั่ง แต่.....
จำน้องคนเมื่อกี้ได้มั้ยครับ ที่ไหว้สวย ๆ เค้าเรียกให้น้องที่ขึ้นมาใหม่มานั่งที่เค้าแทน
คุณพ่อของน้องคนที่ยืน พยายามปฏิเสธว่าไม่เป็นไรครับ ๆ ยืนได้ ๆ
คุณแม่(น่าจะ)ของน้องคนที่นั่งเมื่อกี้ ก็จูงมือให้เด็กที่ขึ้นมาใหม่ไปนั่งแทน ก็กล่าวขอบคุณกันเรียบร้อย
ผมซึ่งยืนอยู่ข้างหลังสองแม่ลูกคู่นั้น ได้ยินเค้าบอกลูกสาวว่า
"ดีแล้วค่ะ มีคนมีน้ำใจลุกให้เรานั่ง เราก็ต้องมีน้ำใจลุกให้คนอื่นนั่งเหมือนกันนะคะ" แล้วก็ก้มลงไปหอม 1 ที
คือแบบผมประทับใจมาก ในน้ำใจของเด็ก และการสอนจากผู้ปกครอง
ทำให้รู้เลยว่าครอบครัวที่ดี จะสร้างคนดีๆ เข้าสู่สังคมจริง ๆ ครับ
ดูได้ตั้งแต่การไหว้ การกล่าวขอบคุณ มีน้ำใจ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง ๆ และอีกหลาย ๆ คนครับ
เป็นเรื่องดี ๆ ในเช้าวันทำงาน 1 วัน บางอย่างก็ไม่มีเรื่องดี ๆ ให้เห็นกันทุกวันนะครับ จริงมั้ย...
ปล. 1 ผมเล่าไม่เก่ง อ่านแล้วงงกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่อยากแบ่งบันครับ
ปล. 2 ผมไม่ได้จะอวดว่าตัวเองมีน้ำใจ หรือว่าใครไม่มีน้ำใจนะครับ เพราะผมเองจะลุกหรือไม่ลุกให้นั่งก็ดูตามสมควรครับ
ปล. 3 ขอบคุณคุณแม่ท่านนี้สำหรับคำสอนลูกสาวดี ๆ ขอบคุณครับ
...