โปรแกรมเที่ยววันนี้คือ : ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ปราสาทนครวัด -> ปราสาทพระขรรค์ -> ปราสาทนาคเพียร -> ปราสาทตาสม -> ปราสาทแม่บุญตะวันออก -> ปราสาทแปรรูป -> เดินชมปราสาทนครวัด
เช้านี้นัดคุณ Sok Paul มารับแต่เช้ามืด นัดให้มารับ 4.45 แต่ตอนออกมาจากโรงแรมก็เจอพี่เขานั่งรออยู่แล้ว เขาบอกออกจากบ้านตั้งตี 4 จะได้มารอทัน(แอบสงสารเขานะ แต่เขาบอกไม่เป็นไร ต้องรับแขกแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว)
อันที่จริงแล้วคืออ่านจากรีวิวหลายๆที่เค้าก็บอกให้ตื่นแต่เช้าๆ เพราะจะต้องไปแย่งที่นั่งริมสระบัวเพื่อให้ได้มุมตรงกลาง ถ่ายออกมาจะได้แจ่มสุดไม่ติดหัวชาวบ้าน
ตอนเช้าๆ อากาศดีมากๆ ฝุ่นไม่มีหรือว่ามองไม่เห็นก็ไม่แน่ใจ ไฟฟางข้างทางก็ไม่ค่อยจะมีแต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ช่วงเช้าแบบนี้ก็ถือว่าอากาศเย็นพอสมควร ใครขี้หนาวเตรียมผ้าคลุมไหล่หรือเสื้อแจ๊คเก็ตบางๆมาด้วยก็จะดีค่ะ
เรานั่งมาประมาณ 20 นาทีเราก็ถึงนครวัด รอบๆยังมืดอยู่เลย บางคนก็เอาไฟฉายมาแต่ส่วนใหญ่ก็ใช้มือถือส่องนำทางเดินตามกันไปเป็นแถว ส่องไฟให้ดีๆเพราะช่วงทางเข้าเป็นสะพานข้ามเข้าไปตัวนครวัด ข้างๆไม่มีราวกั้นระวังจะตกน้ำ พอข้ามพ้นมาถึงทางเข้าปราสาทบรรยากาศวังเวงอย่างบอกไม่ถูก เรากลัวผีสางในเมืองเก่าๆแบบนี้ เดินไปก็ไหว้ไปพลางๆไม่อยากลบหลู่ เหอๆ
เดินตามๆเขามาก็ถึงสระบัว มันยังมืดอยู่เลย ที่นั่งก็ไม่มี มีแต่คนส่องไฟฉาย เล่นมือถือ บางคนก็ปูเสื่อปิกนิคเลยจ้า เราพลาดจริงๆเพราะเอาเข้าจริงมันไม่มีอะไรให้ทำ เริ่มจะหิว... ไม่ได้พกอะไรมากินซะด้วย แต่ก็มีคนคอยเดินเอาเมนูชา กาแฟ มาขายเราตลอด แต่แพงไปนิดเราไม่กิน ยอม...อด 555
เรานั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นอยู่จน 6.01 น. หวังว่าจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น...เปล่าเลย มันคือภาพลวงตา จะตื่นมาทำไมแต่เช้าเนี่ยะ???...
เริ่มหมดความอดทน เลยเดินออกจากวงไปสำรวจบริเวณรอบๆ จากรูปคนเริ่มทะยอยเดินเล่นแล้ว
6.58 น. เริ่มเห็นแสงอาทิตย์รำไร
เราตั้งตารอต่อไป จนกระทั้ง... 7.09 น. ทันทีที่เห็นพระอาทิยต์ขึ้นเรารีบวิ่งกลับไปที่เดิม
7.15 น. พระอาทิตย์ขึ้นแล้วเย่ๆ
...คนวิ่งตามมาเต็มเลย 555
พอกระหน่ำถ่ายภาพไปเป็นที่พอใจก็เดินไปสำรวจรอบๆ สรุปแล้วคือถ้ามาถึงนี่สัก 5.30 น. ก็มีเวลาทันถมเถไปไม่ต้องงัวเงียลุกจากเตียง
มีคนมานั่งวาดรูปขายภาพวาดแต่เช้าเลย
เรานัดเจอคุณ Paul อีกทีตรงทางเข้าไว้ตอน 7 โมงเช้า แต่ขอเก็บภาพสวยๆก่อนกลับออกไป (กว่าจะออกก็ 7.30 น. แล้ว)
รูปนี้เป็นประตูทางเข้า (แต่เราถ่ายตอนเดินกลับออกไป)
นี่คือสระน้ำใหญ่ ที่มีสะพานข้ามเข้ามายังตัวนครวัด ตอนเช้ามืดมากๆ เดินไปก็เสียวไปกลัวจะตกน้ำ
เดินออกมาถึงบันไดทางเข้าคุณ Paul เห็นเราก่อน พี่เขาก็รีบบิดมอร์เตอร์ไซมารับ กระโดดขึ้นรถบั๊บก็บอกเขาก่อนเลยว่าเราหิวมาก ช่วยพาเราไปหาข้าวเช้ากินหน่อย พี่เขาก็พาเราไปร้านใกล้ๆแถวนั้น เช้านี้เราต้องกินเยอะๆเอาแรงไว้เดินทั้งวันจนถึงบ่าย 3 แบบไม่หยุดทานกลางวัน
อาหารแบบฝรั่งคงไม่อยู่ท้อง เลยขอสั่งข้าวผัดกุ้งแล้วขอไข่ดาวเพิ่มด้วย ($4) + น้ำชา 1 แก้ว ($.50)
ปล. ราคาร้านอาหารแถวนี้ค่อนข้างแพงกว่าในตัวเมือง แต่ก็ราคาเหมือนๆกันหมดทุกร้านค่ะ รสชาติโอเค (มีซอสพริกศรีราชา แม๊กกี้ นำเข้าจากบ้านเรา)
เสร็จจากทานข้าวเช้าเราก็เริ่มเดินเที่ยวที่แรก...
1. ปราสาทพระขรรค์ (Preah Khan Temple)
เดินตรงเข้าไปข้างในจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆก่อนก้าวเข้าสู่ตัวปราสาท
ข้อดีของการเดินเที่ยวตอนเช้าคืออากาศสดชื่น เย็นสบาย
ซากปรักหักพังของเสาด้านใน
ตัวประตูทางเข้า
เดินต่อมาจะเจอประตูทางเข้าปราสาทชั้นใน ซากต้นไม้ต้นนี้ใหญ่มาก...
มียักษ์ไม่มีเศียรเฝ้าประตูอยู่
เข้ามาข้างใน ประตูจะซ้อนๆกัน เหมือนยิ่งเดินเข้าไปประตูก็จะยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ
ที่นี่มีรูปแกะสลักตามตัวปราสาทเยอะมากๆ
ตัวปราสาทรอบๆ
รูปนี้เดาว่าน่าจะเป็นนางอัปสรา
ได้ยินไกด์ชาวบ้านบอกว่ารูปแกะสลักนี้เป็นรูปฤาษีในท่าโยคะ
ช่องหน้าต่างที่มองออกไปดูซ้อนๆกัน ดูลึกลับดี
ด้านนอกมีซากรากต้นไม้ใหญ่มากเกาะยึดตัวปราสาทไว้
บนคานก็มีรูปแกะสลัก ทำได้ละเอียดมากๆ
เดินมุดๆมาอีกฝั่ง เจอตัวปราสาทที่ออกจะแหวกแนว เพราะตัวเสามันคลายๆเสาโรมัน
ทางออกจากตัวปราสาท
เดินออกมาก็ยังมีปราสาทเล็กๆหลงอยู่
มีคนขายผลไม้ด้วย
ข้ามสะพานทางออก มียักษ์โอบสะพานอีกแล้ว
ถึงทางออกด้านหน้ามีแอ่งน้ำใหญ่ๆ น่าจะเป็นป่าชายเลน
2. ปราสาทนาคเพียร (Neak Poan Temple)
เราขึ้นรถต่อไปยังปราสาทนาคเพียร ประมาณ 5 นาทีก็มาถึง ทางเข้าคล้ายๆป่าชายเลน
มีคนขายของข้างทางตลอด แต่ระวังให้ดีพวกเด็กๆจะชอบเดินเข้ามาขายของ มาแบบตื้อมากๆ เราโบกมือบ๊ายบายอย่างเดียว
มีสะพานเดินทอดยาวไปจนถึงด้านใน
บึงจรเจ้รึเปล่า?
สุดทางเดินก็จะเจอสระน้ำ
คุณ Paul บอกเราว่าสมัยก่อนสถานที่นี้ใช่เป็นรักษาตัว คล้ายๆว่าเป็นโรงพยาบาล (แต่เราว่ามันดูคล้ายๆสระว่ายน้ำมากกว่า)
3. ปราสาทตาสม (Ta Som Temple)
เจอรูปแกะสลักอีกแล้ว ดูไปก็คล้ายๆกับที่ปราสาทพระขรรค์
มาถึงแล้วจุดที่เขาบอกว่าสวย ซุ้มประตูปราสาทนี้จะมีต้นไม้กับรากปกคลุมอยู่ (รูปทางเข้า)
เดินลอดเข้ามาด้านใน
มุมนี้เริ่ดสุด
4. ปราสาทแม่บุญตะวันออก (Mebon East)
เราเดินกันมาครึ่งวันแล้ว เวลาผ่านไปไวมากตอนมาถึงที่นี่ก็ประมาณเที่ยงพอดี
ถึงตัวปราสาทแล้ว...
กำแพงกับตัวปราสาทที่นี่เหมือนเอาหินก้อนใหญ่ๆมาวางเรียงๆ
มีบางปราสาทก็เริ่มจะพังลงมาต้องมีไม้ค้ำไว้
5. ปราสาทแปรรูป (Pre Rup Temple)
มองผ่านๆ ตัวปราสาทคล้ายๆพีรามิด นึกว่ามาเที่ยวที่อีหยิป
เหลือบมองหน้าจอกล้องอีกที่ มีเตือนแบตเตอรี่กำลังหมดแล้ว...ขอเก็บอีกภาพนึงก่อนเก็บไว้ใช้ถ่ายที่นครวัด (เสียดายมีมุมสวยๆอีกหลายมุมไม่ได้ถ่าย
)
6. ปราสาทนครวัด (Angkor Wat Temple)
ที่สุดท้ายของทริปนี้แล้ว เราเดินมาจากทางเข้าด้านตะวันออกของนครวัด มีคนตรวจตั๋วยืนอยู่ เราผ่านเข้าไปได้เรียบร้อยแต่สองสาวฝรั่งยืนต่อรองกับเจ้าหน้าที่อยู่เพราะใส่เสื้อกล้ามและกางเกงสั้นจู๋ ถึงมีผ้าคลุมไหล่ปิดเขาก็ไม่ให้เข้า... สุดท้ายก็ต้องอด
บริเวณพื้นที่รอบๆนครวัดกว้างพอสมควร แนะนำให้พกน้ำติดตัวไปด้วยได้ดื่มแน่นอน
เดินมาสักพักเจอทางแยก เราก็เดินมั่วๆออกมาทางซ้าย ไม่นานก็เห็นตัวปราสาทอยู่ไกลๆ
ถึงแล้ว...นครวัด
รอบๆปราสาทชั้นนอก
เดินเข้ามาด้านใน ตรงนี้คือที่ๆทุกคนอยากขึ้นไปชมตัวปราสาทและวิวจากด้านบน แต่บอกเลยว่าทางขึ้นสูงและชันมาก
มีป้ายบอกกฎการเข้าชมปราสาทอย่างชัดเจน (รองเท้าแตะ-หนีบ เข้าไปได้นะค่ะ)
ทางเดินรอบปราสาททั้ง 4 ทิศ
ปิดท้ายด้วยวิวของนครวัดจากด้านบน
ขอบคุณที่รับชมรับอ่านค่ะ
- Little Miss Dahlia -
ปล. แปะให้เผื่อใครจะตามอ่านตอนที่ 1 ค่ะ :
http://ppantip.com/topic/33360877
[CR] ให้ภาพเล่าเรื่องที่...เสียมราฐ (นครวัด - นครธม) : ตอนที่ 2 (จบ)
เช้านี้นัดคุณ Sok Paul มารับแต่เช้ามืด นัดให้มารับ 4.45 แต่ตอนออกมาจากโรงแรมก็เจอพี่เขานั่งรออยู่แล้ว เขาบอกออกจากบ้านตั้งตี 4 จะได้มารอทัน(แอบสงสารเขานะ แต่เขาบอกไม่เป็นไร ต้องรับแขกแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว)
อันที่จริงแล้วคืออ่านจากรีวิวหลายๆที่เค้าก็บอกให้ตื่นแต่เช้าๆ เพราะจะต้องไปแย่งที่นั่งริมสระบัวเพื่อให้ได้มุมตรงกลาง ถ่ายออกมาจะได้แจ่มสุดไม่ติดหัวชาวบ้าน
ตอนเช้าๆ อากาศดีมากๆ ฝุ่นไม่มีหรือว่ามองไม่เห็นก็ไม่แน่ใจ ไฟฟางข้างทางก็ไม่ค่อยจะมีแต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ช่วงเช้าแบบนี้ก็ถือว่าอากาศเย็นพอสมควร ใครขี้หนาวเตรียมผ้าคลุมไหล่หรือเสื้อแจ๊คเก็ตบางๆมาด้วยก็จะดีค่ะ
เรานั่งมาประมาณ 20 นาทีเราก็ถึงนครวัด รอบๆยังมืดอยู่เลย บางคนก็เอาไฟฉายมาแต่ส่วนใหญ่ก็ใช้มือถือส่องนำทางเดินตามกันไปเป็นแถว ส่องไฟให้ดีๆเพราะช่วงทางเข้าเป็นสะพานข้ามเข้าไปตัวนครวัด ข้างๆไม่มีราวกั้นระวังจะตกน้ำ พอข้ามพ้นมาถึงทางเข้าปราสาทบรรยากาศวังเวงอย่างบอกไม่ถูก เรากลัวผีสางในเมืองเก่าๆแบบนี้ เดินไปก็ไหว้ไปพลางๆไม่อยากลบหลู่ เหอๆ
เดินตามๆเขามาก็ถึงสระบัว มันยังมืดอยู่เลย ที่นั่งก็ไม่มี มีแต่คนส่องไฟฉาย เล่นมือถือ บางคนก็ปูเสื่อปิกนิคเลยจ้า เราพลาดจริงๆเพราะเอาเข้าจริงมันไม่มีอะไรให้ทำ เริ่มจะหิว... ไม่ได้พกอะไรมากินซะด้วย แต่ก็มีคนคอยเดินเอาเมนูชา กาแฟ มาขายเราตลอด แต่แพงไปนิดเราไม่กิน ยอม...อด 555
เรานั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นอยู่จน 6.01 น. หวังว่าจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น...เปล่าเลย มันคือภาพลวงตา จะตื่นมาทำไมแต่เช้าเนี่ยะ???...
เริ่มหมดความอดทน เลยเดินออกจากวงไปสำรวจบริเวณรอบๆ จากรูปคนเริ่มทะยอยเดินเล่นแล้ว
6.58 น. เริ่มเห็นแสงอาทิตย์รำไร
เราตั้งตารอต่อไป จนกระทั้ง... 7.09 น. ทันทีที่เห็นพระอาทิยต์ขึ้นเรารีบวิ่งกลับไปที่เดิม
7.15 น. พระอาทิตย์ขึ้นแล้วเย่ๆ ...คนวิ่งตามมาเต็มเลย 555
พอกระหน่ำถ่ายภาพไปเป็นที่พอใจก็เดินไปสำรวจรอบๆ สรุปแล้วคือถ้ามาถึงนี่สัก 5.30 น. ก็มีเวลาทันถมเถไปไม่ต้องงัวเงียลุกจากเตียง
มีคนมานั่งวาดรูปขายภาพวาดแต่เช้าเลย
เรานัดเจอคุณ Paul อีกทีตรงทางเข้าไว้ตอน 7 โมงเช้า แต่ขอเก็บภาพสวยๆก่อนกลับออกไป (กว่าจะออกก็ 7.30 น. แล้ว)
รูปนี้เป็นประตูทางเข้า (แต่เราถ่ายตอนเดินกลับออกไป)
นี่คือสระน้ำใหญ่ ที่มีสะพานข้ามเข้ามายังตัวนครวัด ตอนเช้ามืดมากๆ เดินไปก็เสียวไปกลัวจะตกน้ำ
เดินออกมาถึงบันไดทางเข้าคุณ Paul เห็นเราก่อน พี่เขาก็รีบบิดมอร์เตอร์ไซมารับ กระโดดขึ้นรถบั๊บก็บอกเขาก่อนเลยว่าเราหิวมาก ช่วยพาเราไปหาข้าวเช้ากินหน่อย พี่เขาก็พาเราไปร้านใกล้ๆแถวนั้น เช้านี้เราต้องกินเยอะๆเอาแรงไว้เดินทั้งวันจนถึงบ่าย 3 แบบไม่หยุดทานกลางวัน
อาหารแบบฝรั่งคงไม่อยู่ท้อง เลยขอสั่งข้าวผัดกุ้งแล้วขอไข่ดาวเพิ่มด้วย ($4) + น้ำชา 1 แก้ว ($.50)
ปล. ราคาร้านอาหารแถวนี้ค่อนข้างแพงกว่าในตัวเมือง แต่ก็ราคาเหมือนๆกันหมดทุกร้านค่ะ รสชาติโอเค (มีซอสพริกศรีราชา แม๊กกี้ นำเข้าจากบ้านเรา)
เสร็จจากทานข้าวเช้าเราก็เริ่มเดินเที่ยวที่แรก...
1. ปราสาทพระขรรค์ (Preah Khan Temple)
เดินตรงเข้าไปข้างในจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆก่อนก้าวเข้าสู่ตัวปราสาท
ข้อดีของการเดินเที่ยวตอนเช้าคืออากาศสดชื่น เย็นสบาย
ซากปรักหักพังของเสาด้านใน
ตัวประตูทางเข้า
เดินต่อมาจะเจอประตูทางเข้าปราสาทชั้นใน ซากต้นไม้ต้นนี้ใหญ่มาก...
มียักษ์ไม่มีเศียรเฝ้าประตูอยู่
เข้ามาข้างใน ประตูจะซ้อนๆกัน เหมือนยิ่งเดินเข้าไปประตูก็จะยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ
ที่นี่มีรูปแกะสลักตามตัวปราสาทเยอะมากๆ
ตัวปราสาทรอบๆ
รูปนี้เดาว่าน่าจะเป็นนางอัปสรา
ได้ยินไกด์ชาวบ้านบอกว่ารูปแกะสลักนี้เป็นรูปฤาษีในท่าโยคะ
ช่องหน้าต่างที่มองออกไปดูซ้อนๆกัน ดูลึกลับดี
ด้านนอกมีซากรากต้นไม้ใหญ่มากเกาะยึดตัวปราสาทไว้
บนคานก็มีรูปแกะสลัก ทำได้ละเอียดมากๆ
เดินมุดๆมาอีกฝั่ง เจอตัวปราสาทที่ออกจะแหวกแนว เพราะตัวเสามันคลายๆเสาโรมัน
ทางออกจากตัวปราสาท
เดินออกมาก็ยังมีปราสาทเล็กๆหลงอยู่
มีคนขายผลไม้ด้วย
ข้ามสะพานทางออก มียักษ์โอบสะพานอีกแล้ว
ถึงทางออกด้านหน้ามีแอ่งน้ำใหญ่ๆ น่าจะเป็นป่าชายเลน
2. ปราสาทนาคเพียร (Neak Poan Temple)
เราขึ้นรถต่อไปยังปราสาทนาคเพียร ประมาณ 5 นาทีก็มาถึง ทางเข้าคล้ายๆป่าชายเลน
มีคนขายของข้างทางตลอด แต่ระวังให้ดีพวกเด็กๆจะชอบเดินเข้ามาขายของ มาแบบตื้อมากๆ เราโบกมือบ๊ายบายอย่างเดียว
มีสะพานเดินทอดยาวไปจนถึงด้านใน
บึงจรเจ้รึเปล่า?
สุดทางเดินก็จะเจอสระน้ำ
คุณ Paul บอกเราว่าสมัยก่อนสถานที่นี้ใช่เป็นรักษาตัว คล้ายๆว่าเป็นโรงพยาบาล (แต่เราว่ามันดูคล้ายๆสระว่ายน้ำมากกว่า)
3. ปราสาทตาสม (Ta Som Temple)
เจอรูปแกะสลักอีกแล้ว ดูไปก็คล้ายๆกับที่ปราสาทพระขรรค์
มาถึงแล้วจุดที่เขาบอกว่าสวย ซุ้มประตูปราสาทนี้จะมีต้นไม้กับรากปกคลุมอยู่ (รูปทางเข้า)
เดินลอดเข้ามาด้านใน
มุมนี้เริ่ดสุด
4. ปราสาทแม่บุญตะวันออก (Mebon East)
เราเดินกันมาครึ่งวันแล้ว เวลาผ่านไปไวมากตอนมาถึงที่นี่ก็ประมาณเที่ยงพอดี
ถึงตัวปราสาทแล้ว...
กำแพงกับตัวปราสาทที่นี่เหมือนเอาหินก้อนใหญ่ๆมาวางเรียงๆ
มีบางปราสาทก็เริ่มจะพังลงมาต้องมีไม้ค้ำไว้
5. ปราสาทแปรรูป (Pre Rup Temple)
มองผ่านๆ ตัวปราสาทคล้ายๆพีรามิด นึกว่ามาเที่ยวที่อีหยิป
เหลือบมองหน้าจอกล้องอีกที่ มีเตือนแบตเตอรี่กำลังหมดแล้ว...ขอเก็บอีกภาพนึงก่อนเก็บไว้ใช้ถ่ายที่นครวัด (เสียดายมีมุมสวยๆอีกหลายมุมไม่ได้ถ่าย )
6. ปราสาทนครวัด (Angkor Wat Temple)
ที่สุดท้ายของทริปนี้แล้ว เราเดินมาจากทางเข้าด้านตะวันออกของนครวัด มีคนตรวจตั๋วยืนอยู่ เราผ่านเข้าไปได้เรียบร้อยแต่สองสาวฝรั่งยืนต่อรองกับเจ้าหน้าที่อยู่เพราะใส่เสื้อกล้ามและกางเกงสั้นจู๋ ถึงมีผ้าคลุมไหล่ปิดเขาก็ไม่ให้เข้า... สุดท้ายก็ต้องอด
บริเวณพื้นที่รอบๆนครวัดกว้างพอสมควร แนะนำให้พกน้ำติดตัวไปด้วยได้ดื่มแน่นอน
เดินมาสักพักเจอทางแยก เราก็เดินมั่วๆออกมาทางซ้าย ไม่นานก็เห็นตัวปราสาทอยู่ไกลๆ
ถึงแล้ว...นครวัด
รอบๆปราสาทชั้นนอก
เดินเข้ามาด้านใน ตรงนี้คือที่ๆทุกคนอยากขึ้นไปชมตัวปราสาทและวิวจากด้านบน แต่บอกเลยว่าทางขึ้นสูงและชันมาก
มีป้ายบอกกฎการเข้าชมปราสาทอย่างชัดเจน (รองเท้าแตะ-หนีบ เข้าไปได้นะค่ะ)
ทางเดินรอบปราสาททั้ง 4 ทิศ
ปิดท้ายด้วยวิวของนครวัดจากด้านบน
ขอบคุณที่รับชมรับอ่านค่ะ
- Little Miss Dahlia -
ปล. แปะให้เผื่อใครจะตามอ่านตอนที่ 1 ค่ะ : http://ppantip.com/topic/33360877