จากรายงานของเจแปนไทม์ส จำนวนชาวต่างชาติที่อยู่เกินวีซ่าในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบปีจากสถิติเดือนมกราคมที่ผ่านมาเทียบกับปีที่แล้วโดยกระทรวงยุติธรรมได้เปิดเผยรายงานดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากตัวเลขของผู้ฝ่าฝืนจากประเทศไทยและเวียดนามเป็นสำคัญ

โดยตัวเลขของผู้ฝ่าฝืนวีซ่าในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอยู่ที่60,007 คนสูงขึ้น 1.6 เปอร์เซนต์จากปีที่แล้ว โดยไทยรั้งอันดับสามด้วยตัวเลขผู้ฝ่าฝืนอยู่ที่ 5,277 คน ตามหลังเกาหลีที่มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 13,634 คน ส่วนอันดับสองเป็นชาวจีน 8,647 คน

ซึ่งสถิติของผู้ฝ่าฝืนจากประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นถึง 20.2 เปอร์เซนต์ ขณะที่เวียดนามมีผู้ฝ่าฝืนเพิ่มขึ้นถึง 66.8 เปอร์เซนต์

ผู้ฝ่าฝืนชาวไทยจำนวนมากเป็นนักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้นอันเป็นโครงการที่นายอาเบะนำมาใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี2013 โดยหวังจะใช้ธุรกิจท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งทำให้มีตัวเลขนักท่องเที่ยวและผู้ที่เข้าพำนักระยะสั้นจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 48 เปอร์เซนต์ โดยในปี 2014 มีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยมากถึง 630,000 คน

ขณะที่ผู้ฝ่าฝืนจากเวียดนามมาจากการเพิ่มขึ้นของนักเรียนแลกเปลี่ยนและนักศึกษาฝึกงานที่อยู่เกินกำหนดวีซ่า

ในปี1993 เคยมีผู้ฝ่าฝืนทุกสัญชาติรวมกันสูงถึง 298,646 คน ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงเรื่อยจนเหลือต่ำกว่า 6 หมื่นคนในปี 2014 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการกำจัดปัญหาคนหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2004 โดยญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะลดตัวเลขผู้ฝ่าฝืนกว่าสองแสนรายให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง

ขณะเดียวกันญี่ปุ่นมีตัวเลขชาวต่างชาติพักอาศัยในประเทศทั้งหมด2.12 ล้านคน เพิ่มขึ้น2.7 เปอร์เซนต์จากปีที่แล้ว และถือเป็นครั้งที่สองที่มีการขยายตัวของชาวต่างชาติที่พักอาศัยในระยะยาวนับแต่เกิดวิกฤตินิวเคลียร์ในฟุกุชิมะในปี2011 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าชาวต่างชาติเริ่มลดความกังวลจากปัญหาดังกล่าวไปบ้างแล้ว

ข่าวจาก  :  มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426920473