กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในไทยและญี่ปุ่น เมื่อ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ฝ่าฝืนกฎข้อห้ามปล่อยโคมลอยในพื้นที่สาธารณะของไทย จนถูกเจ้าหน้าที่เรียกปรับเงินจำนวน 3,000 บาท พร้อมขอโทษต่อหน้ากล้องต่อเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ
แม้ว่าจะจบเรื่องด้วยการชำระค่าปรับและคำขอโทษ แต่ที่ญี่ปุ่นกลับไม่จบง่ายๆ เมื่อเหตุการณ์นี้ถูกนำเสนอในเพจดังและสำนักข่าวญี่ปุ่นจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างดุเดือด
ชาวญี่ปุ่นหลายคนที่ได้เห็นข่าวแสดงความไม่พอใจกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรายนี้ หลายคอมเมนต์ระบุว่า “เป็นการทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียง” บางคนถึงกับบอกว่า “อย่ากลับมาเหยียบญี่ปุ่นอีก” และมีบางคนกล่าวว่าจะรีพอร์ตเรื่องนี้ไปยังที่ทำงานของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าชาวเน็ตญี่ปุ่นกำลังสืบหาประวัติของนักท่องเที่ยวคนนี้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การทำงาน และครอบครัว ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงมาตรฐานสูงของสังคมญี่ปุ่นในเรื่องของความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของบุคคลในสังคม
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังมีอีกมุมที่ได้รับคำชื่นชมจากชาวไทยและญี่ปุ่น คือ การทำงานของเจ้าหน้าที่ไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีมาตรฐาน รวมถึงการเบลอหน้าของเจ้าหน้าที่ในข่าว ซึ่งแสดงถึงการเคารพความเป็นส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ แตกต่างจากใบหน้าของนักท่องเที่ยวที่ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน
ชาวเน็ตไทยหลายคนที่ได้ติดตามข่าวนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สังคมญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดีในการเก็บรายละเอียดและตรวจสอบความผิดพลาดจนหมดจด แม้จะมีบางครั้งที่มาตรฐานสูงอาจดูเข้มงวดเกินไป แต่ก็ยังคงแสดงถึงความมุ่งมั่นในคุณภาพและความรับผิดชอบ
จากเหตุการณ์นี้ อาจเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศที่ไปเยือน เพราะในยุคดิจิทัล การกระทำใดๆ ที่ไม่เหมาะสมสามารถถูกเปิดเผยและส่งผลกระทบในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว