พักหลังนิทาน Fairy Tale หลายเรื่องถูกเอามาทำเป็นหนังกันเยอะแยะมากมายเลยนะครับ ที่ผ่านมาก็น่าจะมี สโนวไวท์ ที่ถูกนำมาดัดแปลงจากเนื้อหาเดิมถึงเป็นสองเวอร์ชั่น หรือจะเป็น เจ้าหญิงนิทรา ที่ถูกนำมาดัดแปลงตีความใหม่ให้เป็น Maleficent หรือจะเป็นหนุน้อยหมวกแดงอีก ซึ่งแต่ละเรื่องที่กล่าวมาจะมีการดัดแปลงเนื้อหาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้หนังร่วมสมัยและสนุกขึ้น แต่กับเรื่องนี้ Cinderella หนังเดินตามเนื้อเรื่องเดิมเป็นเส้นตรง ตรงจนกลายเป็นว่าไม่ต้องเดาอะไรเลย เพราะมันคือนิทานที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว
เรื่องราวของ เอลล่า (ลิลี่ เจมส์) สาวน้อยที่พ่อผู้เป็นพ่อค้าของเธอได้แต่งงานใหม่หลังจากการสูญเสียแม่ไป เอลล่าให้การต้อนรับแม่เลี้ยงคนใหม่ (เคท แบลงเชตต์) และลูกเลี้ยงของเธอ อนาสตาเซีย (ฮอลิเดย์ เกรนเจอร์) และ ดริสเซลล่า (โซฟี แมคชีร่า) สู่บ้านของเธอ แต่เมื่อพ่อของเอลล่าได้ด่วนจากไปอย่างกะทันหัน เธอพบว่าตัวเองได้ตกอยู่ภายใต้ความดูแลของครอบครัวใหม่ที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและโหดร้าย สุดท้ายเธอได้กลายเป็นเพียงคนรับใช้สาวที่ร่างกายเต็มไปด้วยขี้เถ้าและถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ซินเดอเรลล่า เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน้าผู้มีเสน่ห์ในป่า โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเขาคนนั้นคือเจ้าชาย โชคชะตาของเธอกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อราชวังได้ประกาศเชิญให้หญิงสาวทั่วราชอาณาจักรมาเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำ แต่แม่เลี้ยงของเธอกลับไม่อนุญาตให้เธอไปร่วมงานและทำลายชุดไปงานเลี้ยงของเธอเป็นเสี่ยงๆ แต่ด้วยข้อดีของเทพนิยาย ความช่วยเหลือจึงมาทันเวลา เมื่อสตรีขอทานผู้ใจดี (เฮเลน่า บอนแฮม-คาร์เตอร์) ได้ก้าวเข้ามาพร้อมกับฟักทองและหนูอีกสองสามตัว ที่จะเปลี่ยนชีวิตของซินเดอเรลล่าไปตลอดกาล
เห็นมั๊ยครับ เรื่องย่อก็คือนิทานที่เราเคยอ่านกันดีๆ นี่เอง ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย หนังเดินตามเนื้อเรื่องเดิมไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่นำเรื่องราวสั้นๆ มาขยายความให้เป็นหนังเกือบๆ สองชั่วโมงเท่านั้นเอง ส่วนตัวแล้วผมเฉยๆ กับเรื่องนี้ ถึงแม้จะมีหลายๆ คนชมชอบในหนัง แต่สำหรับผมมันยังธรรมดาไปนิด หนังไม่ได้ใส่ลูกเล่นอะไรเข้าไปให้ลุ้นเลย ด้วยความที่เรารู้อยู่แล้วว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไง มันเลยลดความน่าตื่นเต้นลงไปเยอะ
ข้อดีของหนังเรื่องนี้ผมยกให้เรื่องของ production และ costume ซึ่งถือว่าจัดมาได้อลังการงานสร้างมาก หนังดูสวยงามฟรุ้วฟริ้งตลอดทั้งเรื่องสมกับเป็นงานสร้างจาก #Disney Studio ฉากงานเลี้ยงสวยงามหรูหราสมกับเป็นงานเลี้ยงในวัง ชุดของนางซินดูแล้วประทับใจไม่ไก่กา ส่วนชุดคนอื่นก็ทำได้โอเคเลยล่ะ
ตัวนักแสดง ผมว่าเด่นสุดคงหนีไม่พ้น Cate Blanchett ที่ไม่ว่าจะดูฉากไหนก็ออกมาแย่งซีนได้ทุกฉาก ฝีมือคุณภาพของ Cate นี่ทำให้หนังยกระดับขึ้นมาเยอะเลย ซึ่งแตกต่างจากตัวเอกทั้งสองตัวอย่าง Lily James ในบทนางซิน และ Richard Madden ในบทเจ้าชาย ที่ดูแล้วยังไม่ถึงขั้นเทียบชั้นหนังใหญ่ ตัวนางเอกเองถ้าดูรูปอื่นๆ ผมว่า Lily ดูสวยเลยล่ะ หน้าเก๋มาก แต่ในหนังทำไมดูแย่ขนาดนั้น ขนาดว่าตอนแปลงร่างแล้วยังไม่ได้เด่นเท่าไหร่ ตัวพระเอกเอง จากบทบาทของ Rob Stark ใน Game of Thrones นี่โคตรเท่ห์อ่ะ แต่พอมาเรื่องนี้กลายเป็นเจ้าชายขี้แหยไปเลย ไม่มีความเท่ห์สักนิด ไม่มีอะไรเด่น ยกเว้นที่ "เป้ากางเกง" อันนี้ต้องโทษชุดนะ 555
โดยรวมผมยังเฉยๆ กับเรื่องนี้อยู่ ถ้าเทียบกับนิยาย Fairy Tale หลายๆ เรื่องที่ถูกทำเป็นหนังก่อนหน้านี้ เพราะหนังไมท่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ ยังคงเดินตามเนื้อหาเดิมไม่ผิดเพี้ยน ทำให้ไม่ได้มีอะไรน่าลุ้น ตัวนักแสดงถ้าตัด Cate ออกไป น่าจะดับกันหมด ไม่มีใครเด่นเลย ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ครับเรื่องนี้
พูดคุยติชมกันได้เลยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [Review] Cinderella - ดูเพลินๆ ไป ไม่ได้ดัดแปลงเนื้อหา เลยดูเหมือนไม่มีอะไรมาก
พักหลังนิทาน Fairy Tale หลายเรื่องถูกเอามาทำเป็นหนังกันเยอะแยะมากมายเลยนะครับ ที่ผ่านมาก็น่าจะมี สโนวไวท์ ที่ถูกนำมาดัดแปลงจากเนื้อหาเดิมถึงเป็นสองเวอร์ชั่น หรือจะเป็น เจ้าหญิงนิทรา ที่ถูกนำมาดัดแปลงตีความใหม่ให้เป็น Maleficent หรือจะเป็นหนุน้อยหมวกแดงอีก ซึ่งแต่ละเรื่องที่กล่าวมาจะมีการดัดแปลงเนื้อหาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้หนังร่วมสมัยและสนุกขึ้น แต่กับเรื่องนี้ Cinderella หนังเดินตามเนื้อเรื่องเดิมเป็นเส้นตรง ตรงจนกลายเป็นว่าไม่ต้องเดาอะไรเลย เพราะมันคือนิทานที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว
เรื่องราวของ เอลล่า (ลิลี่ เจมส์) สาวน้อยที่พ่อผู้เป็นพ่อค้าของเธอได้แต่งงานใหม่หลังจากการสูญเสียแม่ไป เอลล่าให้การต้อนรับแม่เลี้ยงคนใหม่ (เคท แบลงเชตต์) และลูกเลี้ยงของเธอ อนาสตาเซีย (ฮอลิเดย์ เกรนเจอร์) และ ดริสเซลล่า (โซฟี แมคชีร่า) สู่บ้านของเธอ แต่เมื่อพ่อของเอลล่าได้ด่วนจากไปอย่างกะทันหัน เธอพบว่าตัวเองได้ตกอยู่ภายใต้ความดูแลของครอบครัวใหม่ที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและโหดร้าย สุดท้ายเธอได้กลายเป็นเพียงคนรับใช้สาวที่ร่างกายเต็มไปด้วยขี้เถ้าและถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ซินเดอเรลล่า เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน้าผู้มีเสน่ห์ในป่า โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเขาคนนั้นคือเจ้าชาย โชคชะตาของเธอกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อราชวังได้ประกาศเชิญให้หญิงสาวทั่วราชอาณาจักรมาเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำ แต่แม่เลี้ยงของเธอกลับไม่อนุญาตให้เธอไปร่วมงานและทำลายชุดไปงานเลี้ยงของเธอเป็นเสี่ยงๆ แต่ด้วยข้อดีของเทพนิยาย ความช่วยเหลือจึงมาทันเวลา เมื่อสตรีขอทานผู้ใจดี (เฮเลน่า บอนแฮม-คาร์เตอร์) ได้ก้าวเข้ามาพร้อมกับฟักทองและหนูอีกสองสามตัว ที่จะเปลี่ยนชีวิตของซินเดอเรลล่าไปตลอดกาล
เห็นมั๊ยครับ เรื่องย่อก็คือนิทานที่เราเคยอ่านกันดีๆ นี่เอง ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย หนังเดินตามเนื้อเรื่องเดิมไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่นำเรื่องราวสั้นๆ มาขยายความให้เป็นหนังเกือบๆ สองชั่วโมงเท่านั้นเอง ส่วนตัวแล้วผมเฉยๆ กับเรื่องนี้ ถึงแม้จะมีหลายๆ คนชมชอบในหนัง แต่สำหรับผมมันยังธรรมดาไปนิด หนังไม่ได้ใส่ลูกเล่นอะไรเข้าไปให้ลุ้นเลย ด้วยความที่เรารู้อยู่แล้วว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไง มันเลยลดความน่าตื่นเต้นลงไปเยอะ
ข้อดีของหนังเรื่องนี้ผมยกให้เรื่องของ production และ costume ซึ่งถือว่าจัดมาได้อลังการงานสร้างมาก หนังดูสวยงามฟรุ้วฟริ้งตลอดทั้งเรื่องสมกับเป็นงานสร้างจาก #Disney Studio ฉากงานเลี้ยงสวยงามหรูหราสมกับเป็นงานเลี้ยงในวัง ชุดของนางซินดูแล้วประทับใจไม่ไก่กา ส่วนชุดคนอื่นก็ทำได้โอเคเลยล่ะ
ตัวนักแสดง ผมว่าเด่นสุดคงหนีไม่พ้น Cate Blanchett ที่ไม่ว่าจะดูฉากไหนก็ออกมาแย่งซีนได้ทุกฉาก ฝีมือคุณภาพของ Cate นี่ทำให้หนังยกระดับขึ้นมาเยอะเลย ซึ่งแตกต่างจากตัวเอกทั้งสองตัวอย่าง Lily James ในบทนางซิน และ Richard Madden ในบทเจ้าชาย ที่ดูแล้วยังไม่ถึงขั้นเทียบชั้นหนังใหญ่ ตัวนางเอกเองถ้าดูรูปอื่นๆ ผมว่า Lily ดูสวยเลยล่ะ หน้าเก๋มาก แต่ในหนังทำไมดูแย่ขนาดนั้น ขนาดว่าตอนแปลงร่างแล้วยังไม่ได้เด่นเท่าไหร่ ตัวพระเอกเอง จากบทบาทของ Rob Stark ใน Game of Thrones นี่โคตรเท่ห์อ่ะ แต่พอมาเรื่องนี้กลายเป็นเจ้าชายขี้แหยไปเลย ไม่มีความเท่ห์สักนิด ไม่มีอะไรเด่น ยกเว้นที่ "เป้ากางเกง" อันนี้ต้องโทษชุดนะ 555
โดยรวมผมยังเฉยๆ กับเรื่องนี้อยู่ ถ้าเทียบกับนิยาย Fairy Tale หลายๆ เรื่องที่ถูกทำเป็นหนังก่อนหน้านี้ เพราะหนังไมท่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ ยังคงเดินตามเนื้อหาเดิมไม่ผิดเพี้ยน ทำให้ไม่ได้มีอะไรน่าลุ้น ตัวนักแสดงถ้าตัด Cate ออกไป น่าจะดับกันหมด ไม่มีใครเด่นเลย ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ครับเรื่องนี้
พูดคุยติชมกันได้เลยนะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้