Cinderella (2015) : ซินเดอเรลล่า , Directed by Kenneth Branagh
.
เชื่อว่าหลายคนคงรู้เค้าโครงเรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เกริ่นกันหน่อยก็ดูจะผิดแปลกต่อผลงานอื่นๆที่เคยรีวิวมา . . Cinderella (รับบทโดย Lily James) เด็กสาววัยใส จิตใจอ่อนโยน ผู้เข้มแข็งและมีเมตตา เธอมีความสุขกับครอบครัวและได้อยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน จากการที่แม่ของเธอเสียชีวิตด้วยโรคร้าย วันเวลาผ่านไปพ่อของเธอตัดสินใจแต่งงานใหม่ . . Cinderella ยอมรับและยินยอมความคิดเห็นพ่อของเธอ เพื่อหวังให้ท่านมีความสุข แต่แล้วชีวิตเธอต้องเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันอีกครั้ง เมื่อพ่อของเธอนั้นได้ด่วนจากไปเช่นกัน . . Cinderella ต้องจำใจใช้ชีวิตภายใต้แรงกดดันและกดขี่ทั้งกายและใจของแม่เลี้ยงใจร้าย รวมถึงบรรดาพี่สาวบุญธรรม แต่ด้วยจิตใจของเธอที่มองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ สิ่งต่างๆเหล่านี้จึงไม่เป็นอุปสรรคอันใด แต่มันเริ่มหนักข้อขึ้น เมื่อทุกๆคนในบ้านต่างจิกหัวใช้เธอราวกับทาสในเรือนเบี้ย จนเธอทนไม่ไหวและพยายามหนีออกจากบ้าน แต่ระหว่างทางเธอได้พบกับเจ้าชายรูปงาม (รับบทโดย Richard Madden) ที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือเจ้าชาย ความรักเล็กๆจึงได้บังเกิด เป็นผลส่งต่อให้เรื่องราวการผจญภัยอันมหัศจรรย์ของ Cinderella ได้เริ่มต้นขึ้น
.
ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ Disney ในการใช้บทประพันธ์ดั่งเดิมตามตำนานนิทานเก่าแก่ อันเป็นหนึ่งในเรื่องราวของเทพนิยายปรัมปรา ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก จากการใช้ทุนสร้างเพียง 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สามารถสรรค์สร้างและเนรมิตรความสวยงามในทุกๆองค์ประกอบ(รอบกาย) ได้อย่างเลิศเลอเพอร์เฟคและคุ้มทุน ตั้งแต่เริ่มเรื่องตลอดยันจบบริบูรณ์ . . ซึ่งภาพรวมของความน่าติดตามนั้น ไม่ถึงกับไม่สามารถที่จะละสายตาได้ แต่มันมีเสน่ห์ในตัวบางอย่าง ที่เราไม่อยากจะละสายตาไปไหนเลยตังหาก ส่วนหนึ่งก็คือการเล่าเรื่องที่น่าติดตามตลอดต้นจนจบ . . ซึ่งเค้าโครงเดิมของเรื่องที่เรารู้กันอยู่แล้ว รวมถึงด้านคาแรคเตอร์ของตัวละครที่ดูซ้ำซาก ก็ไม่อาจทำให้ผู้ชมอยากเมินหน้าหนีเลยแม้แต่น้อย . . สิ่งหนึ่งที่อยากเอ่ยปากชมและชอบมากๆ จนรู้สึกว่าเป็นจุดเด่นอย่างเหลือล้นของภาพยนตร์ Cinderella นั้น คือการออกแบบแนวคิดและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆภายในเรื่อง ตั้งแต่ตัวละครที่เป็นกิ่งก่า เป็ด หนู ไปตลอดจนการเนรมิตรสถานที่(โลเคชั่น) ทั้งการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกและแบบเพียวๆได้อลังการงานสร้าง รวมถึงการเลือกใช้สีต่างๆต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ภายในเรื่อง ก็เป็นวิถีที่โดดเด่นอย่างที่สุดอีกข้อหนึ่ง . . น่าเสียดายบทพูดในหลายจุดที่ดูธรรมดา ทั้งๆที่ควรจะถูกออกแบบมาได้อย่างเหนือชั้นซะด้วยซ้ำ แต่ถึงยังไงก็ยังคงมีมุขตลกเล็กๆน้อยๆ มาหยอกล้อเล่นให้ดูน่าชื่นใจอย่างพอประมาณ . . ฉากเด่นเลยนั้นที่ควรพูดถึงคืองานเต้นรำ ที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจและอิ่มเอมอย่างยิ่งในตอนแรก แต่เมื่อผ่านไปซักเล็กน้อย เรากลับรู้สึกว่ามันเบาบางลงอย่างบอกไม่ถูก . . ฉากสำคัญต่อมา คือเมื่อระฆังดังและเวทมนตร์ทุกอย่างกลับสู่ความปกติ การวิ่งหนีของ Cinderella และการไล่ตามของเจ้าชาย ไปตลอดจนบรรดาทหารและเสนาที่ขี่มากันจ้าละหวั่น จนปิดท้ายด้วยอาการหกคะเมนตีลังกา มันรวมความรู้สึกสนุก ตื่นเต้น และตลกเอามากๆไว้ในคราวเดียวกัน
.
สรุปแล้ว Cinderella ก็จัดได้ว่าโอเคเลยทีเดียว ทั้งทีมงานผู้สร้างก็คงเป็นระดับ Professional ด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อดูจากการออกแบบ แนวคิด สถานที่ ฉากสำคัญ ตัวละคร ตัดต่อเสียง และอีกมากมาย ก็ถือว่าลงตัวในแบบฉบับ Disney ที่สุด อีกทั้งหนังยังใช้โปรดักที่โดดเด่นนี้ กลบจุดเสียเล็กๆน้อยๆทั้งหมดที่มีภายในเรื่อง จนมองข้ามไปอย่างไม่มีข้อสงสัยอะไร
ผู้เขียน C. Non
Movie Insurgent & เด็กรักหนัง
[CR] [Review ภาพยนตร์] : Cinderella (United States , 2015) ซินเดอเรลล่า
Cinderella (2015) : ซินเดอเรลล่า , Directed by Kenneth Branagh
.
เชื่อว่าหลายคนคงรู้เค้าโครงเรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เกริ่นกันหน่อยก็ดูจะผิดแปลกต่อผลงานอื่นๆที่เคยรีวิวมา . . Cinderella (รับบทโดย Lily James) เด็กสาววัยใส จิตใจอ่อนโยน ผู้เข้มแข็งและมีเมตตา เธอมีความสุขกับครอบครัวและได้อยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน จากการที่แม่ของเธอเสียชีวิตด้วยโรคร้าย วันเวลาผ่านไปพ่อของเธอตัดสินใจแต่งงานใหม่ . . Cinderella ยอมรับและยินยอมความคิดเห็นพ่อของเธอ เพื่อหวังให้ท่านมีความสุข แต่แล้วชีวิตเธอต้องเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันอีกครั้ง เมื่อพ่อของเธอนั้นได้ด่วนจากไปเช่นกัน . . Cinderella ต้องจำใจใช้ชีวิตภายใต้แรงกดดันและกดขี่ทั้งกายและใจของแม่เลี้ยงใจร้าย รวมถึงบรรดาพี่สาวบุญธรรม แต่ด้วยจิตใจของเธอที่มองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ สิ่งต่างๆเหล่านี้จึงไม่เป็นอุปสรรคอันใด แต่มันเริ่มหนักข้อขึ้น เมื่อทุกๆคนในบ้านต่างจิกหัวใช้เธอราวกับทาสในเรือนเบี้ย จนเธอทนไม่ไหวและพยายามหนีออกจากบ้าน แต่ระหว่างทางเธอได้พบกับเจ้าชายรูปงาม (รับบทโดย Richard Madden) ที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือเจ้าชาย ความรักเล็กๆจึงได้บังเกิด เป็นผลส่งต่อให้เรื่องราวการผจญภัยอันมหัศจรรย์ของ Cinderella ได้เริ่มต้นขึ้น
.
ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ Disney ในการใช้บทประพันธ์ดั่งเดิมตามตำนานนิทานเก่าแก่ อันเป็นหนึ่งในเรื่องราวของเทพนิยายปรัมปรา ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก จากการใช้ทุนสร้างเพียง 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สามารถสรรค์สร้างและเนรมิตรความสวยงามในทุกๆองค์ประกอบ(รอบกาย) ได้อย่างเลิศเลอเพอร์เฟคและคุ้มทุน ตั้งแต่เริ่มเรื่องตลอดยันจบบริบูรณ์ . . ซึ่งภาพรวมของความน่าติดตามนั้น ไม่ถึงกับไม่สามารถที่จะละสายตาได้ แต่มันมีเสน่ห์ในตัวบางอย่าง ที่เราไม่อยากจะละสายตาไปไหนเลยตังหาก ส่วนหนึ่งก็คือการเล่าเรื่องที่น่าติดตามตลอดต้นจนจบ . . ซึ่งเค้าโครงเดิมของเรื่องที่เรารู้กันอยู่แล้ว รวมถึงด้านคาแรคเตอร์ของตัวละครที่ดูซ้ำซาก ก็ไม่อาจทำให้ผู้ชมอยากเมินหน้าหนีเลยแม้แต่น้อย . . สิ่งหนึ่งที่อยากเอ่ยปากชมและชอบมากๆ จนรู้สึกว่าเป็นจุดเด่นอย่างเหลือล้นของภาพยนตร์ Cinderella นั้น คือการออกแบบแนวคิดและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆภายในเรื่อง ตั้งแต่ตัวละครที่เป็นกิ่งก่า เป็ด หนู ไปตลอดจนการเนรมิตรสถานที่(โลเคชั่น) ทั้งการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกและแบบเพียวๆได้อลังการงานสร้าง รวมถึงการเลือกใช้สีต่างๆต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ภายในเรื่อง ก็เป็นวิถีที่โดดเด่นอย่างที่สุดอีกข้อหนึ่ง . . น่าเสียดายบทพูดในหลายจุดที่ดูธรรมดา ทั้งๆที่ควรจะถูกออกแบบมาได้อย่างเหนือชั้นซะด้วยซ้ำ แต่ถึงยังไงก็ยังคงมีมุขตลกเล็กๆน้อยๆ มาหยอกล้อเล่นให้ดูน่าชื่นใจอย่างพอประมาณ . . ฉากเด่นเลยนั้นที่ควรพูดถึงคืองานเต้นรำ ที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจและอิ่มเอมอย่างยิ่งในตอนแรก แต่เมื่อผ่านไปซักเล็กน้อย เรากลับรู้สึกว่ามันเบาบางลงอย่างบอกไม่ถูก . . ฉากสำคัญต่อมา คือเมื่อระฆังดังและเวทมนตร์ทุกอย่างกลับสู่ความปกติ การวิ่งหนีของ Cinderella และการไล่ตามของเจ้าชาย ไปตลอดจนบรรดาทหารและเสนาที่ขี่มากันจ้าละหวั่น จนปิดท้ายด้วยอาการหกคะเมนตีลังกา มันรวมความรู้สึกสนุก ตื่นเต้น และตลกเอามากๆไว้ในคราวเดียวกัน
.
สรุปแล้ว Cinderella ก็จัดได้ว่าโอเคเลยทีเดียว ทั้งทีมงานผู้สร้างก็คงเป็นระดับ Professional ด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อดูจากการออกแบบ แนวคิด สถานที่ ฉากสำคัญ ตัวละคร ตัดต่อเสียง และอีกมากมาย ก็ถือว่าลงตัวในแบบฉบับ Disney ที่สุด อีกทั้งหนังยังใช้โปรดักที่โดดเด่นนี้ กลบจุดเสียเล็กๆน้อยๆทั้งหมดที่มีภายในเรื่อง จนมองข้ามไปอย่างไม่มีข้อสงสัยอะไร
ผู้เขียน C. Non