เราเป็นโรคกลัวการเข้าสังคมแก้ยังไง

พึ่งรู้ว่าตัวเองเป็นโรค Social Phobia หรือภาษาไทย โรคกลัวการเข้าสังคม ค่ะ ตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นคนขี้อาย แต่หมอบอกเป็นโรคนี้ค่ะ
คือเป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ จริง ๆ เป็นคนเข้ากับคนง่าย แต่ ขี้อาย ไม่กล้าทักใครก่อน เวลาปิดเทอมหรือหยุดเสาร์ อาทิตย์ ก็อยู่แต่บ้านไม่ออกไปไหน เพื่อนชวนไปเที่ยวก็ไม่ไป ยกเว้นเวลาไม่มีอะไรทำจริง ๆ เวลามีญาติหรือมีคนมาหาก็จะหลบอยู่ในบ้าน ไม่กล้าคุย อยู่บ้านก็จะเล่นแต่กับแมว เล่นคอม เพื่อนก็น้อยมาก ๆ ไม่รู้จักจริงคือไม่คุย ไม่รู้จะทำยังไง ไปทำงานพิเศษกะจะหาเงินช่วงปิดเทอม ก็อยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ เพราะไม่คุยกับใครเลย คือเหนื่อยมาก ๆๆ
อยากเป็นคนคุยเก่ง เข้ากับคนง่าย พยายามทำแต่ก็ทำไม่ทุกวันนี้อยู่แต่บ้านไม่ออกไปไหนเลย แค่ออกไปเซเว่นยังไม่อยากออกไป
ทำยังไงดีค่ะ คือซีเรียต ไม่รู้จะทำยังไง กับชีวิตที่หมกอยู่แต่บ้าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 44
พวกเรามีการรวมตัวตั้งกลุ่มไลน์ขึ้น มานานแล้ว เพื่อให้คำปรึกษา ระบาย และช่วยเหลือผู้ที่มีรวามทุกข์ทรมานจากอาการกลัวสังคมค่ะ

ไม่ว่าอาการของคุณจะเป็นลักษณะใด เช่น ไม่กล้าสบตา , ไม่กล้าทานข้าวต่อหน้าคนอื่น , มือสั่นเวลาเขียนหนังสือต่อหน้าคนอื่น , กลัวการปรากฎตัวในที่ชุมชน , ประหม่า หรืออาการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่าย Social Phobia


ช่วยกันประชาสัมพันธ์ด้วยนะคะ และรบกวนโหวดขึ้นบนกระทู้ด้วยค่ะ เพื่อที่ใครอีกหลายคนที่มีความทุกข์ใจในเรื่องนี้ จะได้พบเพื่อน ๆ พบทางอแก และกำลังใจ  คนภายนอกที่เค้าไม่เป็นอาจไม่เข้าใจ  แต่เรา จะคุยกันในฐานะคนที่เป็นเหมือนกัน เรามาช่วยกันแบบหัวอกของคนที่เข้าใจความรู้สึกซึ่งกันและกัน  เป็นครอบครัวที่อบอุ่นค่ะ


คุณจะพบว่าคุณไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในโลกใบนี้

เราจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง และครอบครัวที่เข้าใจกันและกันค่ะ


ขอเชิญเข้าร่วมกลุ่มไลน์ และเปลี่ยนประสบการณ์และการรักษาด้วยกันค่ะ โดยแอดไลน์ได้ที่ไอดี



ปิดรับสมาชิกเพิ่มแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ





ความคิดเห็นที่ 4
ลองค่อยๆ ปรับทีละนิดดีกว่านะ เช่น
1. เวลาญาติมาหาที่บ้าน >> เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในวงสนทนา คอยบริการเอาน้ำไปเสริฟ เอาขนมไปเสริฟ พูดคุยในหัวข้อที่เราสนใจ
2. ออกไปข้างนอกบ้างเท่าที่จำเป็น >> เวลาออกไปข้างนอกให้กวาดตาดูถนน ตึก รถ คน สิ่งของ ร้านค้า ตลอดทาง อย่ามัวเเต่ก้มหน้า หรือเล่นมือถือ
3. เวลาคุยกับทุกคน >> ต้องสบตา และยิ้มน้อยๆ ด้วยความจริงใจ จะลดอาการเกร็ง และผูกมิตรไปในตัว
4. เพื่อนชวนไปเที่ยว >> ต้องไปบ้าง ไม่ใช่ไม่ไปเลย แต่ถ้าเพื่อนที่คบอยู่ชวนไปเที่ยวผับ อันนี้ถ้าไม่มั่นใจในเพื่อนและตัวเองก็อย่าเพิ่งไป ก่อนไปก็ถามในเรื่องจำเป็นที่เราต้องรู้เวลาไปเที่ยว แค่นี้ก้เป็นการพูดคุยแล้ว เช่น ไปไหนกันดีวันหยุดนี้? มีใครไปบ้างเหรอ? ทำไมเพื่อนคนนี้ไม่ไปกับเราละ? ไปกีโมง? เจอกันที่ไหน? ประมานนี้  
5. อยากพูดเก่ง >> ไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง แต่ก็เป็นผู้รับฟังที่ดีได้ แต่ยังงัยก็ต้องพูดบ้างอะนะ ง่ายๆ เลย
    - ถามเมื่อสงสัย? >> เที่ยงนี้กินข้าวไหนกันดี? / เย็นนี้ใครว่างมั้ง? / ไปกินติมกัน ไปงานสัปดาห์หนังสือกันมั้ย?
    - ตอบเมื่อเพื่อนถาม >> กินข้าวมันไก่กันดีมั้ย? ร้านป้านีอร่อยนะ / เราว่างนะ ไปกินติมด้วยคนนะ / เราไม่ว่างอะ ไปเที่ยวกับที่บ้าน
    - เล่าเรื่อง >> เมื่อวานกลับจากหัวหิน เจอลุงแก่ๆ เที่ยวขอเงิน น่าสงสารเนอะ ลูกลานลุงแกไปไหนหมดเนอะ / เมื่อคืนดูลมซ่อนรัก ณเดชหล่อเนอะ แต้วก็น่ารัก เล่นด้วยกันนี่เราฟินเลย / วันก่อนเจอลูกหมาอย่างน่ารักที่ถนนแถวบ้าน มีใครสนใจป่าว? เราว่าไม่น่าจะมีเจ้าของ อะไรแบบนี้
6. เข้ากับคนง่าย >> เปิดใจ สบตาเมื่อพูดคุย ยิ้มให้เมื่อพบ

ลองไปทำดู ค่อยๆ ทำ ทำไปเรื่อยๆ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะหัวใจจุ๊บๆจุ๊บๆ
ความคิดเห็นที่ 71
เคยเป็นโรคกลัวสังคมเหมือนกันค่ะ ไม่รู้จะสื่อสารกับคนยังไง เวลาเจอใครก็พูดไม่ถูก ไม่รู้จะพูดยังไงตอบยังไง ต้องตอบจังหวะไหน แต่ตอนนี้หายสนิทเลยค่ะ เข้าสังคมได้สบายใจและโล่งสุดๆ วิธีคือ

ลองหายใจลึกๆเป็นประจำค่ะ นึกได้ก็ทำเรื่อยๆ เวลาหายใจยาวๆให้ลึกถึงท้องจะช่วยให้สมองโล่งๆสบายๆ ความคิดกังวลเรื่องไร้สาระจะน้อยลง จะช่วยปรับความคิดตัวเองใหม่ให้มีความกล้าขึ้น ลองคิดดูว่าทำไมต้องไปกลัวสายตาและความคิดของคนรอบข้าง เราไปหวังอะไรจากคนรอบข้าง หวังการยอมรับเหรอ หวังคำชื่นชม หรือหวังความรักจากใครเหรอ ไม่ใช่ เราไม่ได้ต้องการความสุขจากตรงนั้น เรามีความสุขของเราเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอะไรพวกนั้น

ถ้าเราไม่ได้หวังอะไร เราก็แค่มีชีวิตของเราไป พูดในสิ่งที่อยากพูดโดยไม่ต้องกลัวเขาจะคิดว่าเราแปลก ทำอะไรที่เราสบายใจ ทำตัวให้อิสระจากความคิดกังวลเรื่องคนรอบข้าง แล้วเราก็จะเข้าสังคมได้อย่างมีความสุขเพราะเราไม่คิดมากว่าอะไรต้องเป็นยังไงให้มากมายค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
ผมก็เป็นเหมือนคุณเลยครับ คือไม่ใช่ว่าไม่รู้วิธีแก้นะว่าต้องปรับตัวยังไง เรารู้หมด แต่เราไม่ทำแค่นั้นเอง แล้วมักชอบตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ที่เค้าพูดกันแบบนั้นเค้าจะรู้ไปเพื่ออะไร มันมีประโยชน์อะไรในการคุยแบบนั้นหรือถามแบบนั้น" จะชวนคุยก็ไม่รู้จะชวนทำไม คือไม่มีแรงผลักดันให้เค้าต้องมายอมรับเราขนาดนั้นอ่ะ แต่ถ้าเพื่อนสนิทกันมากๆนี่เราเองจะเป็นฝ่ายพูดไม่หยุด พูดไร้สาระ พูดอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นญาติ หรือเพื่อนไม่สนิทหรือคนไม่รู้จักก็จะเงียบอย่างเดียว หรือจะเป็นเพื่อนของเพื่อนก็จะไม่พูดเหมือนกัน คิดว่าคงมีหลายๆคนเป็นแบบนี้แหละแต่เค้าไม่มาพูดหรือพยายามเข้าสังคมก็เลยเป็นแบบนี้กันต่อไป มีอีกหลายอย่างที่คาใจกับอาการแบบนี้ ถ้าคนที่เป็นคล้ายๆกันมาคุยกันน่าจะเข้าใจกันดีขึ้นนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่