แปด
ถุงดำ เทปพันสายไฟสีดำ ร่มที่พึ่งโยนทิ้งไปก็เป็นสีดำ แต่ที่มืดดำยิ่งกว่าก็คือจิตใจของเขาในชั่วขณะนั้น จินตนาการที่เคยถูกเล่นซ้ำซากด้วยการนำภาพของเธอคนนี้ไปแทนที่หญิงสาวที่กำลังแสดงบทบาทอยู่บนหน้าจอ จากความตกใจ หวาดกลัว และเจ็บปวด แปรเปลี่ยนเป็นความหฤหรรษ์ได้ง่ายดายอย่างไร้เหตุผล
ราตรีกับสายฝนในตอนนี้ก็เป็นเหมือนดั่งผืนผ้าม่านทึบทึมที่ตัดขาดตัวเขาออกจากโลกภายนอก จินตนาการที่กำลังจะกลายเป็นความจริง เขายังคงนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องมืดที่ปิดม่านมิดชิด มือขยับเคลื่อนเป็นจังหวะไปพร้อมกับภาพของนักแสดงในขณะที่ลมหายใจกระชั้นถี่ขึ้น
เธอตกใจกับความมืดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มือทั้งสองที่ยกขึ้นตามสัญชาตญาณเพื่อปัดอะไรก็ตามที่คลุมลงมาบนศีรษะถูกพันธนาการเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา พร้อมกับที่ความมืดนั้นก็กระชับเข้ามาอย่างชวนอึดอัด เธอถูกผลักให้ล้มลงก่อนจะถูกลากออกไป แสงไฟส่องสว่างดวงสุดท้ายที่มองเห็นลางลางผ่านชั้นสีดำบางบางนั้นราวกับเป็นความหวังสุดท้ายของเธอที่กำลังหลุดลอยไป
เธอรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เสียงกรีดร้องของเธอในตอนนี้คงดังไม่ต่างจากเสียงกระซิบในท่ามกลางงานเลี้ยงที่วุ่นวาย เธอยิ่งกรีดร้องดังขึ้นเมื่อมีมือข้างหนึ่งบีบขยำหน้าอกของเธออย่างรุนแรง เสื้อผ้าของเธอเริ่มถูกกระชากดึงทึ้งจนหลุดลุ่ย เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง การแต่งเนื้อแต่งตัวของเธอนั้นเพียงเพื่อดึงดูดสายตา ความสนใจ เข้ามาทำความรู้จัก แค่ให้เธอดูดี รู้สึกดีเท่านั้น
เธอพยายามงอขาแล้วถีบออกไปอย่างแรง แต่ก็ไม่โดนใครก็ตามที่กำลังทำร้ายเธอ เธอยังลองอีกครั้ง และอีกครั้ง จนการดิ้นรนนั้นทำให้รู้สึกอึดอัด เธอหอบหายใจอย่างยากลำบาก ชั้นบางบางสีดำนี้ดูเหมือนบอบบางแต่อากาศกลับไม่อาจผ่านได้ ยิ่งเธอออกแรงมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งต้องเผาผลาญออกซิเจนที่เหลือน้อยลง และขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพิ่มมากขึ้น
สายฝนไม่อาจสัมผัสกับใบหน้าของเธอได้แล้ว แต่ภายในถุงนั้นกลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ น้ำตา และน้ำลายของเธอเอง เธอกรีดร้อง เธอดิ้นรน เธอโกรธ เธอกลัว เธอหมดหวัง และมือลึกลับสองข้างนั้นยังคงนวดคลึงเลื้อยไล่ไปตามส่วนต่างต่างบนร่างกายของเธออย่างหื่นกระหาย
เธอพยายามที่จะอ้าปากกัดเข้าใส่ความมืดตรงหน้า กัดใส่อะไรก็ตามที่กำลังเกิดขึ้น แต่ไม่เป็นผล
ผมวิ่งผ่านเม็ดฝนเข้าไปชกใส่ชายคนนั้นเต็มแรง แต่หมัดของผมก็พุ่งทะลุผ่านศีรษะของเขาไปอย่างที่มันควรจะเป็น ผมลืมไปว่าตัวเองไม่อาจแตะต้องสิ่งใดใดในโลกเสมือนนี้ได้ สำหรับตอนนี้ ผมเกลียดความเป็นจริงข้อนี้เป็นที่สุด ผมยินยอมแลกกับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอเพียงแค่ได้ชกโดนเขาสักครั้ง
จริงหรือ
ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนตั้งคำถามนี้ขึ้นมาหรือไม่ แต่ตอนนี้มันจะสำคัญอย่างไร ผมลองเหวี่ยงหมัดดูอีกครั้งอย่างไม่มีหวัง และมันก็ทะลุผ่านร่างของเขาไปเช่นเดิม เธอคนนั้นยังคงดิ้นรน และเขายังคงไม่ยอมหยุดมือ ผมอยากจะทำอะไรสักอย่าง ผมไม่อยากได้แต่ยืนมองแบบนี้
แล้วมันก็ผงาดขึ้นมาจากร่างของเขา ชูชันโดดเด่นเป็นเงาสีดำน่ากลัวนั้น เงาที่เคยติดตามเธอ เงาที่เล่นงานผมบนระเบียง ดูเหมือนว่ามันคือเงาของเขา และตอนนี้ร่างของเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเงามืดนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งสองเชื่อมต่อถึงกันอย่างประหลาด ชุดชั้นในสีดำตัวจิ๋วของเธอถูกดึงจนฉีกขาดออกจากร่างที่นอนนิ่งหมดสิ้นเรี่ยวแรง เขาซุกไซ้ใบหน้าลงบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มคู่นั้น สองมือขยับปลดปล่อยส่วนที่เชื่อมต่อกับเงาสีดำให้หลุดพ้นออกมาจากกางเกง
โอกาสของผมมาถึงแล้ว
เงามืดสามารถสัมผัสกับร่างของผมในโลกเสมือนนี้ได้ ดังนั้นในทางกลับกัน ผมจึงเหวี่ยงหมัดสุดแรงเข้าใส่ปลายคางของเงาที่กำลังสนใจกับเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า และมันได้ผล เงาดำนั้นส่ายโอนเอน พร้อมกับที่เขาแสดงอาการลังเลกับสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรก
ผมเหวี่ยงหมัดอีกครั้ง และอีกครั้ง เข้าใส่เงามืด หากผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง ผมก็คิดว่าร่างของมันกำลังเหี่ยวเล็กลงเรื่อยเรื่อย ดูเหมือนมันกำลังจะพ่ายแพ้ ที่ผมต้องทำก็แค่ต่อยมันไปอย่าหยุด ต่อยด้วยหมัดเล็กเล็ก ต่อยมันด้วยความคิดที่หยัดยืนมั่นคง ต่อยมันด้วยความรักที่ผมมีต่อเธอผู้นี้
เก้า
ผมเหนื่อยแต่ยังคงเหวี่ยงหมัดไม่ยอมหยุด
น้ำหนักของหมัดนั้นลดลงไปเรื่อยเรื่อย และผมอยากให้มันจบสิ้นลงเสียที แต่แล้วมือที่หยุดนิ่งไปของเขาก็เริ่มขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนไป ตอนนี้มันดูดำมืดเสียยิ่งกว่าเงาที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเขาเสียอีก สายฝนได้ทำให้ทุกสิ่งเปียกแฉะ และนิ้วมือของเขาก็ขยับ
เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เงามืดก็เริ่มขยายตัวชูชันขึ้นอีกครั้ง และใหญ่ยิ่งกว่าเดิม ราวกับสิ่งที่เคยพันธนาการมันเอาไว้ได้ถูกโยนทิ้งไป มันถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว และหมัดเล็กเล็กของผมก็ไม่อาจใช้กับมันได้อีก มันหันมามองผมด้วยดวงตาที่มืดมิดยิ่งกว่าสิ่งใด หลุมลึกที่ดึงดูดแสงสว่างทั้งหมดให้จมหายลงไปได้ ถึงแม้ว่าแสงจะเป็นสิ่งที่เดินทางได้รวดเร็วที่สุดในจักรวาลแห่งนี้ก็ตาม
ในบางขณะแม้แต่แสงสว่างก็ไม่อาจหลีกหนีจากแรงดึงดูดมหาศาลที่ดึงทุกสิ่งให้ร่วงต่ำลงไปได้
ผมต่อยหมัดเล็กเล็กที่กลายเป็นหมัดสุดท้ายออกไปอย่างไร้เรี่ยวแรง สองตาเบิกโพลงจ้องมองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หัวใจผมแหลกสลาย ดวงใจผมแหลกสลาย ก่อนหมัดสีดำที่เหวี่ยงสวนกลับมาจะบดบังทุกสิ่งไปจากสายตา ประทับสายฝนครั้งนี้ที่จะตกอยู่ภายในหัวของผมไปตลอดกาล
เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ ผมเกลียดทั้งหมดนี้ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ
ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งภายในห้องสีขาวห้องเดิม โดยที่ไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายได้เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ร่างของผมคงจมหายเข้าไปในพื้น ผนัง และเพดานแห่งความอบอุ่นแสนปลอบโยนนี้จนเกือบหมดแล้ว คงไม่มีประโยชน์ที่ผมจะดิ้นรนอีกต่อไป
ผมรู้สึกง่วงขึ้นมาอย่างประหลาด
ทั้งหมดนี้คืออะไร ผม กับ เขา คือบุคคลเดียวกันใช่หรือไม่ ผมตายไปแล้วและได้มารับรู้ความผิดของตนที่เคยก่อไว้อย่างนั้นหรือ หรือที่นี่คือนรกอย่างที่คิด นรกที่ไม่เคยมีใครบรรยายเอาไว้ ผมได้ทำความผิดพลาดลงไป และผมก็ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขมันให้ถูกต้องได้อย่างนั้นหรือ ทั้งหมดนี้มีความหมายอย่างไรกันแน่
ผนังกำแพงทั้งหมดเกิดการเคลื่อนตัวอย่างบิดเบี้ยว จนรอยสี่เหลี่ยมสองรูปบนกำแพงที่ผมเคยเห็นนั้นเลื่อนมาอยู่ตรงหน้าพอดี พื้นที่ภายในนั้นหมุนบิดเป็นเกลียวที่สวยงามอย่างประหลาดจนกลายเป็นภาพขึ้นมา เป็นใบหน้าของคนสองคน เป็นเขากับเธอ
สายเกลียวจากรูปของเขารุกล้ำเข้าไปในรูปของเธอ แล้วรูปสี่เหลี่ยม แล้วภาพของทั้งสองก็เลือนหายเข้าด้วยกัน ไม่มีเขา ไม่มีเธอ อีกต่อไป กลับกลายเป็นรูปของใครอีกคนหนึ่งขึ้นมาแทนที่ รูปของใครที่ผมไม่รู้จัก
ผมรู้สึกถึงบางสิ่งที่หยาดหยดลงมาตามศีรษะ พร้อมกับที่ผนังสีขาวเริ่มเกิดการสั่นไหวรุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก หากว่ามันจะสามารถส่งเสียงกรีดร้องออกมาได้ ผมก็คิดว่าต้องไม่ต่างจากเสียงกรีดร้องของเธอในท่ามกลางสายฝนนั้น ความง่วง และความอบอุ่นแสนสบายของมันค่อยค่อยจืดจางหายไปจากตัวผมด้วยเช่นกัน
กำลังมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น
ผนังสีขาวอ่อนนุ่มถูกอาบชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงสด แขนของผมข้างหนึ่งหลุดพ้นออกมาจากผนังได้ในที่สุด และเมื่อผมเอื้อมมือขึ้นไปก็ได้พบกับไดอารีสีแดงเล่มนั้นที่กำลังหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือด เลือดสีแดงที่จะอาบย้อมห้องสีขาวแห่งนี้ไปจนสิ้น
มีรูปรากฎขึ้นที่ด้านหนึ่ง และส่วนของผนังสีขาวที่หลุดลอกออกมานั้นต่างร่วงหล่นหายลงไปในช่องว่างนี้ ไดอารีก็คือสมุดบันทึก ทุกสิ่งที่ผมเห็นภายในนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มันผ่านไปแล้ว ทั้งการกระทำของเขา และผลที่เกิดขึ้นกับเธอ ผมไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดมาตั้งแต่แรก ผมพึ่งเข้าใจ
แล้วผมเป็นใครกัน
ร่างของผมเริ่มหลุดออกจากผนังห้องสีขาวที่อบอุ่น ก่อนจะร่วงหล่นลงไปพร้อมกับเศษซากของพวกมัน ไปสู่อีกสภาวะหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก ในชั่วพริบตาสุดท้ายนั้น ภายในความทรงจำที่ขาดวิ่น ผมได้เห็นภาพของเขาอีกครั้งในยามที่ประทับรอยจูบลงบนถุงดำพร้อมกับกัดมันให้ขาดออกในท้ายที่สุดเพื่อคืนลมหายใจให้กับเธอ ได้เห็นตอนที่เขากระโดดออกจากระเบียงแล้วไปไม่ถึงอีกฝั่งหนึ่งเมื่อถูกไล่จับ พร้อมกับความรู้สึกถึงการร่วงหล่นลงไปนั้นอีกครั้ง เขาได้เห็นสภาพของเธอภายหลังจากคืนฝนตก ได้ยินเสียงกรีดร้อง ได้เห็นความเศร้า ทุกข์ ทรมาน และยาหนึ่งเม็ดที่เธอกลืนลงไปพร้อมน้ำตา
ยาเม็ดสีแดงสด
ผมอยากสามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสง เพื่อย้อนกลับไปในอดีตก่อนที่เรื่องทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น เขา อาจจะหยุดทักทายกับเธอที่บันได แล้ว เธอ ก็อาจจะทำให้เขาเปลี่ยนไปจากเดิม
และ ผม ที่ไม่ใช่ทั้ง เขา และ เธอ ก็จะได้นอนหลับอย่างอบอุ่นในห้องสีขาวผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ลืมเลือนทุกสิ่งไปให้หมดสิ้นจนกว่าจะตื่นขึ้นใหม่จากความว่างเปล่า และด้วยการสูดลมหายใจเข้าไปเป็นครั้งแรก ผมก็จะได้ส่งเสียงร้องเพื่อแสดงว่าตัวผมนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งนั้นโดยสมบูรณ์
ไดอารีสีแดง (แปด) (เก้า) จบ
ถุงดำ เทปพันสายไฟสีดำ ร่มที่พึ่งโยนทิ้งไปก็เป็นสีดำ แต่ที่มืดดำยิ่งกว่าก็คือจิตใจของเขาในชั่วขณะนั้น จินตนาการที่เคยถูกเล่นซ้ำซากด้วยการนำภาพของเธอคนนี้ไปแทนที่หญิงสาวที่กำลังแสดงบทบาทอยู่บนหน้าจอ จากความตกใจ หวาดกลัว และเจ็บปวด แปรเปลี่ยนเป็นความหฤหรรษ์ได้ง่ายดายอย่างไร้เหตุผล
ราตรีกับสายฝนในตอนนี้ก็เป็นเหมือนดั่งผืนผ้าม่านทึบทึมที่ตัดขาดตัวเขาออกจากโลกภายนอก จินตนาการที่กำลังจะกลายเป็นความจริง เขายังคงนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องมืดที่ปิดม่านมิดชิด มือขยับเคลื่อนเป็นจังหวะไปพร้อมกับภาพของนักแสดงในขณะที่ลมหายใจกระชั้นถี่ขึ้น
เธอตกใจกับความมืดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มือทั้งสองที่ยกขึ้นตามสัญชาตญาณเพื่อปัดอะไรก็ตามที่คลุมลงมาบนศีรษะถูกพันธนาการเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา พร้อมกับที่ความมืดนั้นก็กระชับเข้ามาอย่างชวนอึดอัด เธอถูกผลักให้ล้มลงก่อนจะถูกลากออกไป แสงไฟส่องสว่างดวงสุดท้ายที่มองเห็นลางลางผ่านชั้นสีดำบางบางนั้นราวกับเป็นความหวังสุดท้ายของเธอที่กำลังหลุดลอยไป
เธอรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เสียงกรีดร้องของเธอในตอนนี้คงดังไม่ต่างจากเสียงกระซิบในท่ามกลางงานเลี้ยงที่วุ่นวาย เธอยิ่งกรีดร้องดังขึ้นเมื่อมีมือข้างหนึ่งบีบขยำหน้าอกของเธออย่างรุนแรง เสื้อผ้าของเธอเริ่มถูกกระชากดึงทึ้งจนหลุดลุ่ย เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง การแต่งเนื้อแต่งตัวของเธอนั้นเพียงเพื่อดึงดูดสายตา ความสนใจ เข้ามาทำความรู้จัก แค่ให้เธอดูดี รู้สึกดีเท่านั้น
เธอพยายามงอขาแล้วถีบออกไปอย่างแรง แต่ก็ไม่โดนใครก็ตามที่กำลังทำร้ายเธอ เธอยังลองอีกครั้ง และอีกครั้ง จนการดิ้นรนนั้นทำให้รู้สึกอึดอัด เธอหอบหายใจอย่างยากลำบาก ชั้นบางบางสีดำนี้ดูเหมือนบอบบางแต่อากาศกลับไม่อาจผ่านได้ ยิ่งเธอออกแรงมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งต้องเผาผลาญออกซิเจนที่เหลือน้อยลง และขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพิ่มมากขึ้น
สายฝนไม่อาจสัมผัสกับใบหน้าของเธอได้แล้ว แต่ภายในถุงนั้นกลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ น้ำตา และน้ำลายของเธอเอง เธอกรีดร้อง เธอดิ้นรน เธอโกรธ เธอกลัว เธอหมดหวัง และมือลึกลับสองข้างนั้นยังคงนวดคลึงเลื้อยไล่ไปตามส่วนต่างต่างบนร่างกายของเธออย่างหื่นกระหาย
เธอพยายามที่จะอ้าปากกัดเข้าใส่ความมืดตรงหน้า กัดใส่อะไรก็ตามที่กำลังเกิดขึ้น แต่ไม่เป็นผล
ผมวิ่งผ่านเม็ดฝนเข้าไปชกใส่ชายคนนั้นเต็มแรง แต่หมัดของผมก็พุ่งทะลุผ่านศีรษะของเขาไปอย่างที่มันควรจะเป็น ผมลืมไปว่าตัวเองไม่อาจแตะต้องสิ่งใดใดในโลกเสมือนนี้ได้ สำหรับตอนนี้ ผมเกลียดความเป็นจริงข้อนี้เป็นที่สุด ผมยินยอมแลกกับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอเพียงแค่ได้ชกโดนเขาสักครั้ง
จริงหรือ
ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนตั้งคำถามนี้ขึ้นมาหรือไม่ แต่ตอนนี้มันจะสำคัญอย่างไร ผมลองเหวี่ยงหมัดดูอีกครั้งอย่างไม่มีหวัง และมันก็ทะลุผ่านร่างของเขาไปเช่นเดิม เธอคนนั้นยังคงดิ้นรน และเขายังคงไม่ยอมหยุดมือ ผมอยากจะทำอะไรสักอย่าง ผมไม่อยากได้แต่ยืนมองแบบนี้
แล้วมันก็ผงาดขึ้นมาจากร่างของเขา ชูชันโดดเด่นเป็นเงาสีดำน่ากลัวนั้น เงาที่เคยติดตามเธอ เงาที่เล่นงานผมบนระเบียง ดูเหมือนว่ามันคือเงาของเขา และตอนนี้ร่างของเขาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเงามืดนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งสองเชื่อมต่อถึงกันอย่างประหลาด ชุดชั้นในสีดำตัวจิ๋วของเธอถูกดึงจนฉีกขาดออกจากร่างที่นอนนิ่งหมดสิ้นเรี่ยวแรง เขาซุกไซ้ใบหน้าลงบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มคู่นั้น สองมือขยับปลดปล่อยส่วนที่เชื่อมต่อกับเงาสีดำให้หลุดพ้นออกมาจากกางเกง
โอกาสของผมมาถึงแล้ว
เงามืดสามารถสัมผัสกับร่างของผมในโลกเสมือนนี้ได้ ดังนั้นในทางกลับกัน ผมจึงเหวี่ยงหมัดสุดแรงเข้าใส่ปลายคางของเงาที่กำลังสนใจกับเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า และมันได้ผล เงาดำนั้นส่ายโอนเอน พร้อมกับที่เขาแสดงอาการลังเลกับสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรก
ผมเหวี่ยงหมัดอีกครั้ง และอีกครั้ง เข้าใส่เงามืด หากผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง ผมก็คิดว่าร่างของมันกำลังเหี่ยวเล็กลงเรื่อยเรื่อย ดูเหมือนมันกำลังจะพ่ายแพ้ ที่ผมต้องทำก็แค่ต่อยมันไปอย่าหยุด ต่อยด้วยหมัดเล็กเล็ก ต่อยมันด้วยความคิดที่หยัดยืนมั่นคง ต่อยมันด้วยความรักที่ผมมีต่อเธอผู้นี้
เก้า
ผมเหนื่อยแต่ยังคงเหวี่ยงหมัดไม่ยอมหยุด
น้ำหนักของหมัดนั้นลดลงไปเรื่อยเรื่อย และผมอยากให้มันจบสิ้นลงเสียที แต่แล้วมือที่หยุดนิ่งไปของเขาก็เริ่มขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนไป ตอนนี้มันดูดำมืดเสียยิ่งกว่าเงาที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเขาเสียอีก สายฝนได้ทำให้ทุกสิ่งเปียกแฉะ และนิ้วมือของเขาก็ขยับ
เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เงามืดก็เริ่มขยายตัวชูชันขึ้นอีกครั้ง และใหญ่ยิ่งกว่าเดิม ราวกับสิ่งที่เคยพันธนาการมันเอาไว้ได้ถูกโยนทิ้งไป มันถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว และหมัดเล็กเล็กของผมก็ไม่อาจใช้กับมันได้อีก มันหันมามองผมด้วยดวงตาที่มืดมิดยิ่งกว่าสิ่งใด หลุมลึกที่ดึงดูดแสงสว่างทั้งหมดให้จมหายลงไปได้ ถึงแม้ว่าแสงจะเป็นสิ่งที่เดินทางได้รวดเร็วที่สุดในจักรวาลแห่งนี้ก็ตาม
ในบางขณะแม้แต่แสงสว่างก็ไม่อาจหลีกหนีจากแรงดึงดูดมหาศาลที่ดึงทุกสิ่งให้ร่วงต่ำลงไปได้
ผมต่อยหมัดเล็กเล็กที่กลายเป็นหมัดสุดท้ายออกไปอย่างไร้เรี่ยวแรง สองตาเบิกโพลงจ้องมองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หัวใจผมแหลกสลาย ดวงใจผมแหลกสลาย ก่อนหมัดสีดำที่เหวี่ยงสวนกลับมาจะบดบังทุกสิ่งไปจากสายตา ประทับสายฝนครั้งนี้ที่จะตกอยู่ภายในหัวของผมไปตลอดกาล
เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ ผมเกลียดทั้งหมดนี้ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ เฉอะ แฉะ
ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งภายในห้องสีขาวห้องเดิม โดยที่ไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายได้เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ร่างของผมคงจมหายเข้าไปในพื้น ผนัง และเพดานแห่งความอบอุ่นแสนปลอบโยนนี้จนเกือบหมดแล้ว คงไม่มีประโยชน์ที่ผมจะดิ้นรนอีกต่อไป
ผมรู้สึกง่วงขึ้นมาอย่างประหลาด
ทั้งหมดนี้คืออะไร ผม กับ เขา คือบุคคลเดียวกันใช่หรือไม่ ผมตายไปแล้วและได้มารับรู้ความผิดของตนที่เคยก่อไว้อย่างนั้นหรือ หรือที่นี่คือนรกอย่างที่คิด นรกที่ไม่เคยมีใครบรรยายเอาไว้ ผมได้ทำความผิดพลาดลงไป และผมก็ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขมันให้ถูกต้องได้อย่างนั้นหรือ ทั้งหมดนี้มีความหมายอย่างไรกันแน่
ผนังกำแพงทั้งหมดเกิดการเคลื่อนตัวอย่างบิดเบี้ยว จนรอยสี่เหลี่ยมสองรูปบนกำแพงที่ผมเคยเห็นนั้นเลื่อนมาอยู่ตรงหน้าพอดี พื้นที่ภายในนั้นหมุนบิดเป็นเกลียวที่สวยงามอย่างประหลาดจนกลายเป็นภาพขึ้นมา เป็นใบหน้าของคนสองคน เป็นเขากับเธอ
สายเกลียวจากรูปของเขารุกล้ำเข้าไปในรูปของเธอ แล้วรูปสี่เหลี่ยม แล้วภาพของทั้งสองก็เลือนหายเข้าด้วยกัน ไม่มีเขา ไม่มีเธอ อีกต่อไป กลับกลายเป็นรูปของใครอีกคนหนึ่งขึ้นมาแทนที่ รูปของใครที่ผมไม่รู้จัก
ผมรู้สึกถึงบางสิ่งที่หยาดหยดลงมาตามศีรษะ พร้อมกับที่ผนังสีขาวเริ่มเกิดการสั่นไหวรุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก หากว่ามันจะสามารถส่งเสียงกรีดร้องออกมาได้ ผมก็คิดว่าต้องไม่ต่างจากเสียงกรีดร้องของเธอในท่ามกลางสายฝนนั้น ความง่วง และความอบอุ่นแสนสบายของมันค่อยค่อยจืดจางหายไปจากตัวผมด้วยเช่นกัน
กำลังมีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น
ผนังสีขาวอ่อนนุ่มถูกอาบชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงสด แขนของผมข้างหนึ่งหลุดพ้นออกมาจากผนังได้ในที่สุด และเมื่อผมเอื้อมมือขึ้นไปก็ได้พบกับไดอารีสีแดงเล่มนั้นที่กำลังหลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือด เลือดสีแดงที่จะอาบย้อมห้องสีขาวแห่งนี้ไปจนสิ้น
มีรูปรากฎขึ้นที่ด้านหนึ่ง และส่วนของผนังสีขาวที่หลุดลอกออกมานั้นต่างร่วงหล่นหายลงไปในช่องว่างนี้ ไดอารีก็คือสมุดบันทึก ทุกสิ่งที่ผมเห็นภายในนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มันผ่านไปแล้ว ทั้งการกระทำของเขา และผลที่เกิดขึ้นกับเธอ ผมไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดมาตั้งแต่แรก ผมพึ่งเข้าใจ
แล้วผมเป็นใครกัน
ร่างของผมเริ่มหลุดออกจากผนังห้องสีขาวที่อบอุ่น ก่อนจะร่วงหล่นลงไปพร้อมกับเศษซากของพวกมัน ไปสู่อีกสภาวะหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก ในชั่วพริบตาสุดท้ายนั้น ภายในความทรงจำที่ขาดวิ่น ผมได้เห็นภาพของเขาอีกครั้งในยามที่ประทับรอยจูบลงบนถุงดำพร้อมกับกัดมันให้ขาดออกในท้ายที่สุดเพื่อคืนลมหายใจให้กับเธอ ได้เห็นตอนที่เขากระโดดออกจากระเบียงแล้วไปไม่ถึงอีกฝั่งหนึ่งเมื่อถูกไล่จับ พร้อมกับความรู้สึกถึงการร่วงหล่นลงไปนั้นอีกครั้ง เขาได้เห็นสภาพของเธอภายหลังจากคืนฝนตก ได้ยินเสียงกรีดร้อง ได้เห็นความเศร้า ทุกข์ ทรมาน และยาหนึ่งเม็ดที่เธอกลืนลงไปพร้อมน้ำตา
ยาเม็ดสีแดงสด
ผมอยากสามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสง เพื่อย้อนกลับไปในอดีตก่อนที่เรื่องทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น เขา อาจจะหยุดทักทายกับเธอที่บันได แล้ว เธอ ก็อาจจะทำให้เขาเปลี่ยนไปจากเดิม
และ ผม ที่ไม่ใช่ทั้ง เขา และ เธอ ก็จะได้นอนหลับอย่างอบอุ่นในห้องสีขาวผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ลืมเลือนทุกสิ่งไปให้หมดสิ้นจนกว่าจะตื่นขึ้นใหม่จากความว่างเปล่า และด้วยการสูดลมหายใจเข้าไปเป็นครั้งแรก ผมก็จะได้ส่งเสียงร้องเพื่อแสดงว่าตัวผมนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่งนั้นโดยสมบูรณ์