EXONERATED คืนล้างบาป (6)

----------------------------------------------------
ขอบคุณที่แวะมาอ่านกันนะคะ
แวะมาทักทายพูดคุยกันได้ค้า
www.facebook.com/glassmablez
หรือ
www.facebook.com/the.samanthachiew
------------------------------------------------------

6

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ในจังหวะเดียวกันกับที่เธอขยับตัวหนีชายตรงหน้า!

หากแต่เขารั้งร่างเธอกลับมาอย่างรวดเร็ว ท่อนแขนอันแข็งแรงกอดรัดเธอไว้แน่น ร่างสูงเคลื่อนตัวตามมาทาบทับร่างเธอ จนแทบขยับตัวหรือหายใจไม่ได้

เอวาเจ็บปวดไปทั่วร่างจากเรี่ยวแรงที่อีกฝ่ายรั้งเธอไว้อย่างแน่นหนา ความปวดจากหน้าท้องทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในขณะที่ข้อเท้าปวดระบมรวดร้าวไปจนถึงท่อนขา จนทำให้เธอน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เธอทึ้งกระชากเสื้ออีกฝ่าย จนมันฉีกขาดเป็นทางยาว เผยให้เห็นผิวเนื้ออันซีดขาวของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นทั่วทั้งร่าง เป็นแผลถูกของมีคมบาดลึก ไปจนถึงแผลไหม้เป็นวงกว้าง

เขาเป็นใครกัน! อะไรทำให้เขามีบาดแผลทั่วทั้งตัวขนาดนี้!

เอวาดิ้นรนเอาชีวิตรอด เธอกรีดร้องออกมาอย่างกลัวตาย ในขณะที่มือหนาออกแรงบีบลำคอเธอไว้แน่น

แวบหนึ่งมันทำให้เธอหวนนึกถึงเรี่ยวแรงมหาศาลที่ทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น -- และในแวบถัดมา เธอก็หวนนึกถึงภาพคมมีดที่แทงจ้วงลงมายังหน้าท้องของตนเองเช่นในฝันร้าย!

เอวากรีดร้องอย่างบ้าคลั่งกับเรื่องราวที่ปะดังปะเดเข้ามาในหัว ราวกับพายุฝนที่โหมพัดกระหน่ำมาจากทางด้านนอก

แต่แล้วท่ามกลางความสับสน และดิ้นรนเอาชีวิตรอดนั้น มือของเมิฟที่รั้งลำคอเธอไว้ก็เปลี่ยนมาบีบคางเธอ ออกแรงบีบบังคับให้เธอเผยอริมฝีปากออกอย่างคาดคั้น เอวาเบิกตาโพลง มองฝ่ามือหนาตรงหน้า -- ฝ่ามือนั้นไม่ได้ถือมีด หรือปล่อยหมัดเข้าใส่หน้าเธอ แต่มันกลับเป็นแก้วยา!

กลืนลงไปให้หมด!” เมิฟคำรามลั่น  ก่อนจะกรอกยาแก้วนั้นใส่ปากเธอ “เอวา ได้โปรดเถอะ! กินยานี่เสีย!

เอวากลั้นใจกับกลิ่นฉุนของสมุนไพรที่ไหลลงลำคอของตนเอง ในที่สุดเธอก็พยายามดิ้นรนจนสะบัดหน้าหลุดจากมือของเขาได้สำเร็จ เอวารีบพ่นยาที่เหลืออยู่ในโพรงปากตนเองทิ้ง แล้วออกแรงผลักไสแผงอกเขาจนสุดแรง

วินาทีถัดมานั้นเอง เรี่ยวแรงของเมิฟคล้ายจะลดลง และนั่นทำให้เขาเซไปทางด้านหนึ่ง ทรุดร่างลงกับพื้น โก่งงอลำตัวขึ้น แล้วไอออกมาอย่างรุนแรงและยาวนาน จนเอวาสามารถใช้โอกาสนั้นคลานหนีออกมาจากใต้ร่างเขาได้สำเร็จ

พลันความรู้สึบเจ็บปวดสุดแสนก็ทำให้เธอร้องออกมาเสียงดัง เอวาเบิกตาโพลง พยายามมองภาพที่พร่าเลือนตรงหน้าสุดความสามารถ มือข้างหนึ่งยกขึ้นประคองหน้าท้องตนเองแน่น

เอวาร้องออกมาเสียงดังยิ่งขึ้น เมื่อความรู้สึกเจ็บปวดนั่นกลับมาอีกครั้ง คราวนี้หนักหน่วงไปทั่วหน้าท้องจนทำให้เธอแทบจะหมดสติ

หากแต่เสียงไออย่างรุนแรงได้ดังมาจากทางร่างของเมิฟเช่นเดียวกัน -- เอวาชันตัวมองร่างของเมิฟ เขากำลังไอจนตัวโก่งงอ และเลือดสีแดงฉานก็เปื้อนไปทั่วพื้นไม้อย่างน่ากลัว

เอวาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อรู้สึกว่าถูกห้อมล้อมไปด้วยกลิ่นเลือด เสียงไออย่างทรมาน และความเจ็บปวด

ในชั่ววินาทีที่เธอเผลอนั้นเอง เมิฟก็หันมาทางเธอ รุดเข้ามาคว้าข้อเท้าเธอไว้แน่น เมื่อรู้ว่าเธอกำลังรอดพ้นเงื้อมมือเขา

เอวากรีดร้อง เมื่อมือนั้นบีบแน่นเข้าที่ข้อเท้าอันบวมเป่งของเธอ จนเธอรู้สึกร้าวรานไปทั่วทั้งขาราวกับถูกทุบด้วยท่อนไม้ก็ไม่ปาน และนั่นทำให้เมิฟปล่อยมือออกจากเธอในทันที

แม้ว่าจะไม่รู้เหตุผลที่เขายอมปล่อยมือ หากแต่เอวาก็อาศัยช่วงเสี้ยววินาทีนั้นเอาตัวรอดจากเขาอีกครั้ง เธอออกแรงขาอีกข้างเตะเขาสุดแรง ฝ่าเท้าเธอกระแทกเข้ากับไหล่ของเมิฟ จนเขาเซถอยไป แล้วร้องออกโหยหวนออกมาดังลั่น

ชั่วขณะนั้นเอวารู้สึกประหลาดใจกับความเจ็บปวดบริเวณหน้าท้องของตน และเสียงไอทรมานของเมิฟ เมื่อเธอรู้สึกเจ็บท้อง เขาก็ไอออกมามากขึ้น -- พลันความคิดประหลาดก็แล่นผ่านเข้ามาในหัวของเธอ -- ยิ่งเธอเจ็บท้อง เขาก็ยิ่งเจ็บตัวงั้นหรือ -- หากแต่เธอก็รีบสะบัดความคิดนั้นทิ้ง

เอวาหอบหายใจ เช็ดคราบยาสมุนไพรออกจากริมฝีปากตนเองราวกับกลัวว่ามันเป็นพิษร้าย เธอออกแรงคลานหนีไปตามพื้นไม้ ถอยออกห่างจากร่างตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรวบรวมเรี่ยวแรงลุกขึ้นยืน วิ่งหนีเข้าไปยังห้องครัว แล้วปิดประตูลงกลอนอย่างรวดเร็ว ราวกับว่านั่นจะช่วยกันเธอจากเมิฟได้

ตอนนั้นเองที่เธอแข้งขาอ่อนแรง จนเกือบทรุดลงไปกับพื้นห้อง -- นั่นไม่ใช่เพราะเธอตระหนกตกใจ หรือหวาดกลัวสุดขีด แต่มันเป็นเพราะความเจ็บปวดแสนสาหัสกำลังแล่นปราดไปทั่วร่างเธอ ราวกับมีดนับพันเล่มได้แทงกระหน่ำเธอตั้งแต่หน้าท้องไปจนถึงข้อเท้า!

เอวาหลุดร้องออกมา เธอยกมือข้างหนึ่งยันบานประตูไว้เพื่อพยุงกายไม่ให้ล้ม ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งยกขึ้นประคองท้องตนเองแน่น -- มันเจ็บ -- เธอบอกตนเอง -- และความเจ็บนั่นก็ทำให้ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือน จนทำให้เธอเอนโซเซ แทบทรงตัวไว้ไม่ได้  เอวาร้องครวญออกมา มือที่วางบนหน้าท้องตนเองเกร็งแน่น จนเหงื่อกาฬไหลอาบไปทั่วร่าง

แต่แล้วเสียงของเมิฟก็ดังขึ้นมาจากทางด้านนอกประตูครัว “เอวา!” เสียงอันตื่นตกใจของเมิฟเรียกเธอลั่น “หนีไป!!!

เอวาเงยหน้าขึ้น ก่อนจะมองเห็นเงามืดบางอย่างสะท้อนมาจากกระจกประตูครัว -- และเงานั้นก็ทำให้เธอเย็นสันหลังวาบขึ้นมาทันที

เป็นไปไม่ได้ -- เธอบอกตนเอง -- ค่อยๆหันชำเลืองไปทางเงาด้านหลัง

ในห้องครัวที่มืดสลัวแห่งนี้ มีร่างสูงร่างหนึ่งกำลังยืนอยู่ด้านหลังของเธอ -- เขาแฝงกายอยู่ในเงามืด และจ้องมองมาทางเธออย่างเงียบเชียบ ราวกับเฝ้ารอเธออยู่ก่อนแล้วก็ไม่ปาน

ไม่ใช่เมิฟ -- จิตใต้สำนึกของเธอตะโกนดังลั่น ขณะจ้องมองไปตามชุดคลุมสีดำตัวยาว และถุงมือหนังของชายคนนั้น -- คนที่ทำร้ายเธอในฝันคืนนั้นไม่ใช่เมิฟ!! ทว่าเป็นคนที่ยืนเผชิญหน้ากับเธออยู่ที่นี่ ตอนนี้ ในห้องแห่งนี้ -- พร้อมกับมีดเล่มยาวในมือนั่นต่างหาก!

“หนีไป!!!” เสียงเมิฟร้องลั่นมาจากทางด้านนอก ดึงรั้งสติของเธอให้กลับคืนมาอีกครั้ง

เอวารีบขยับตัวหนีในทันที เธอเบี่ยงตัวหลบคมมีดที่ฟาดฟันลงมา ผ่านร่างของเธอไปอย่างเฉียดฉิว!!

เอวาต่อสู้กับความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างตนเอง ในขณะที่วิ่งหนีไปทางอีกด้านหนึ่งของครัว มือสองข้างออกแรงผลักโต๊ะตัวเล็กไปกลางห้อง หมุนให้มันขวางกั้นระหว่างร่างของเธอกับชายคนนั้นเอาไว้ เธอยึดมันไว้มั่นราวกับว่ามันเป็นปราการเพียงอย่างเดียวที่เธอมี

เอวาพยายามทรงตัวยืนด้วยสองขาอันสั่นเทา และรวบรวมสติตนเองเข้าด้วยกัน เธอพยายามเพ่งมองผ่านความมืดสลัวภายในห้อง ทั้งๆที่แทบจะมองอะไรไม่เห็น นอกจากภาพอันพร่าเลือน -- เอวาหอบหายใจ ยกมือปาดเหงื่อที่ไหลอาบใบหน้า จับจ้องไปที่การขยับตัวของชายตรงหน้าอย่างระมัดระวัง -- ทันทีที่เขาขยับพุ่งตัวมาทางซ้ายของโต๊ะ เธอก็หนีไปทางขวา -- แล้วเมื่อเขารั้งฝีเท้าให้เคลื่อนกลับไปทางซ้าย เธอก็หยุดฝีเท้าดังเอี้ยด แล้วหนีวนกลับไปอีกด้าน
วินาทีนั้นเธอรู้สึกราวกับตนเป็นสัตว์ที่กำลังถูกนักล่าไล่ต้อนให้จนมุม

เธอจ้องมองใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้เงามืดของหมวกทรงสูงนั่น ราวกับพยายามคาดเดาความคิดของอีกฝ่าย เอวาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เหงื่อไหลอาบทั่วทั้งร่าง -- เธอรู้ตัวดีกว่าใคร ว่าเธอคงมีเรี่ยวแรงหนีชายน่ากลัวคนนี้ไปได้อีกไม่นานนัก ในเมื่อขาทั้งสองข้างกำลังสั่นเทาจนแทบจะล้ม และข้อเท้าข้างหนึ่งก็ปวดระบมจนกลายเป็นสีม่วงคล้ำอย่างน่ากลัวจากการออกแรงวิ่ง

อย่าล้มเด็ดขาด -- เธอกัดฟัน เตือนสติตนเอง -- ห้ามล้มเด็ดขาด -- ไม่อย่างนั้นเธอจะกลายเป็นสัตว์ที่ถูกเชือดทิ้งในทันที

ฉับพลันนั้นร่างสูงก็พุ่งตรงเข้าหาเธอ เอวาฮึดสู้ออกแรงวิ่งหนี หากแต่เซล้มกระแทกขอบโต๊ะอย่างรุนแรง เมื่อชายคนนั้นเอื้อมกระชากผมเธอมาจากทางด้านหลัง

เอวาดิ้นสะบัดตัวหนี วิ่งอ้อมโต๊ะหนีไปอีกทาง แล้วพุ่งตัวไปยังประตูครัวอีกครั้ง

เธอรีบปลดกลอนออกด้วยมือไม้ที่สั่นระริก และเปียกชื้น หางตาทันเห็นชายชุดดำวิ่งไล่ตามมา

แกรก! 

บานประตูเปิดออกในวินาทีสุดท้าย!

เอวากัดฟันแน่น ออกแรงวิ่งหนีกลับเข้าไปในความมืดของห้องนั่งเล่น ความหวาดกลัวครอบงำไปทุกสตินึกคิด ในตอนที่ถูกร่างสูงวิ่งไล่กวดตามมา มือหนานั้นคว้ากระชากผ้าคลุมเธออย่างรุนแรง จนร่างเธอเซล้มไปทางด้านหลัง ชนกระแทกเข้ากับแผงอกของเขาอย่างเต็มแรง

ท่อนแขนอันแข็งแรงนั่นก็รัดร่างเธอไว้แน่นราวกับงูเหลือมที่รัดเหยื่อ ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วทั้งร่างของหญิงสาว จนภาพที่มองเห็นตรงหน้าเริ่มพร่าเลือน เธอแหงนใบหน้าขึ้น พยายามเพ่งมองใบหน้าของชายร่างสูงที่ยืนค้ำเธอสุดความสามารถ เธอเผยอริมฝีปากกว้าง พยายามเปล่งเสียงร้องออกมา เมื่อเห็นคมมีดในมือของชายคนนี้เงื้อมขึ้นสูง

ช่วยด้วย! เธอกรีดร้องทั้งน้ำตา

หากแต่ไม่มีเสียงใดๆดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของเธอ --

นี่กำลังเกิดขึ้นจริง -- จิตใต้สำนึกร้องบอกเธอ -- นี่ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปแล้ว!!

มีดด้ามนั่นพุ่งลงมา หมายแทงทะลุร่างเธออย่างรวดเร็วและรุนแรง เธอสะดุ้งเฮือกไปทั้งร่างเมื่อรับรู้ได้ถึงคมมีดที่กำลังพุ่งเข้ามา -- เสียงคมมีดเสียดแทงทะลุเนื้อหนังดังขึ้นท่ามกลางความมืด --

หากแต่เธอกลับไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดดั่งที่เคยรับรู้ในความฝัน --

เอวาหลุบตามองหน้าท้องตนเอง -- มันไม่มีมีดที่จ้วงแทงทะลุร่างเธอ หรือรอยเลือดแม้สักหยด

แต่กระนั้น มันกลับมีเลือดหยดลงมาเปื้อนใบหน้าของเธอ --

เอวาค่อยๆเงยหน้า มองไปยังที่มาของหยดเลือดเหนือร่างตนเอง -- ก่อนจะพบว่ามีฝ่ามือหนาของใครคนหนึ่งได้เอื้อมมารับคมมีดนั้นแทนเธอ จนมันถูกแทงทะลุ เลือดไหลอาบเป็นวงกว้าง

พลันชายชุดดำที่ยืนอยู่เบื้องหลังเธอก็ถูกเหวี่ยงกระชากออกไปอีกทาง พร้อมกับเสียงคำรามลั่นของเมิฟ 

เมิฟปรากฏตัวยืนอยู่เบื้องหลังของชายชุดดำ มือข้างหนึ่งถูกจ้วงแทงเป็นแผลลึก เลือดไหลไปตามท่อนแขนของเขาอย่างน่ากลัว หากแต่เขาไม่สนใจมัน เมิฟออกแรงทุ่มชายชุดดำกระแทกเข้ากับผนังห้องอย่างรุนแรง ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปยื้อแย่งมีดมาจากมือที่สวมถุงมือดำนั่นอย่างว่องไว

เสียงคำรามระหว่างชายทั้งสองดังก้องกังวานไปทั่วทั้งห้อง ราวกับสัตว์ร้ายที่ออกแรงต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง

ชายชุดดำออกแรงปัดมีดในมือเมิฟไปให้พ้นทาง แล้วพยายามผลักเขาออกไป หากแต่เมิฟกลับยื้อแขนอีกฝ่ายไว้มั่น ด้วยฝ่ามือที่มีเลือดไหลมาเป็นทาง เขาคำรามลอดไรฟันดังลั่น พร้อมกับปล่อยหมัดรัวใส่หน้าอีกฝ่ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้เงามืดของหมวกทรงสูง แต่แล้วเขาก็อ่อนแรงลง และเสียหลักในวินาทีสุดท้าย จนเซล้มลงบนพื้น ริมฝีปากอ้ากว้าง แล้วไออย่างรุนแรงจนกระเซ็นออกมาเป็นละอองเลือด!

“เมิฟ” เอวาร้องออกไปอย่างลืมตัว ชั่วขณะนั้นความรู้สึกหวาดกลัวในตัวเมิฟพลันหายไป เหลือไว้เพียงความรู้สึกเจ็บปวด และตกใจเหลือแสน เมื่อเธอได้เห็นสภาพอันบอบช้ำของเมิฟ

เอวายืนมองเหตุการณ์ต่อสู้ตรงหน้าอย่างตกตะลึง ขาทั้งสองแข็งสนิทในขณะที่ชายชุดดำยืนขึ้นอย่างช้าๆ ร่างอันแข็งแรงนั่นปราศจากรอยแผลใดๆ ราวกับว่าการปะทะกับเมิฟเป็นเพียงการเดินฝ่าละอองฝนอันเบาบางเท่านั้น

ชายคนนั้นหันมองมา แล้วตรงมาที่เธออย่างรวดเร็ว

เอวาพยายามขยับตัวหนี หากแต่ร่างของเธอรวดร้าวเกินกว่าจะขยับได้ในทันที

แต่แล้วก็เป็นเมิฟอีกครั้ง ที่เอื้อมมือมาฉุดรั้งขาทั้งสองข้างของชายชุดดำไว้แน่น เขาออกแรงกระชากลากขาอีกฝ่าย ให้เสียหลักล้มลงบนพื้น!

เมิฟรีบคลานตามไปทับร่างอีกฝ่ายในทันทีที่รู้ว่าตนเป็นฝ่ายได้เปรียบ

“หนีไปเอวา!” เมิฟร้องบอก ทั้งๆที่เลือดยังกระเซ็นออกมาจากริมฝีปาก “หนีเดี๋ยวนี้!”

เอวาผวาถอยหนีออกมา เธอวิ่งออกไปยังโถงทางเดินอย่างทุลักทุเล คว้ากลอนประตูหน้า แล้วออกแรงเปิดมัน หากแต่ประตูบานนี้กลับถูกลั่นกลอนไว้อย่างแน่นหนาจากภายนอก!

วินาทีนั้น เธอรู้สึกว่าตนกำลังเป็นในสิ่งที่เมิฟพร่ำบอก -- เธอถูกโจนาห์กักขังอยู่ในบ้านหลังนี้!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่